Go North “อ่างขาง-ขอบด้ง”
หลังจากอิ่มหน่ำกับ “ขาหมูเชียงดาว” เจ้าเก่าต้นตำรับ สนนราคาแค่จานเล็กๆ 200 บาท แถมงานนี้หิวกันโซจัดไปสองจานเท่านั้นยังไม่พอบวกกับข้าว น้ำแกง อีกสองสามอย่างพอเช็คบิลถึงกับอึ้ง..เพราะเดาๆกันไว้ว่าขาหมูจานหนึงไม่น่าจะเกิน 150 บาท

จากนั้นเราเดินหน้าจากเส้น 107 ขับไปเรื่อยๆจนถึงทางแยกเส้นทางหลวงชนบท 1249 แล้วเลี้ยวซ้ายตรงไปจนถึงสถานีเกษตรอ่างขางเป็นระยะทางกว่า 90 กิโลเมตร

สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เป็นสถานีวิจัยแห่งแรกของโครงการหลวง ตั้งอยู่บนเทือกเขาตะนาวศรี ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ มีความสูงจากระดับน้ำทะ 1,400 เมตร และมียอดดอยสูงถึง 1,928 เมตร พื้นที่รับผิดชอบประมาณ 26.52 ตารางกิโลเมตร หรือ 16,577 ไร่
จัดตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า “ให้เขาช่วยตัวเอง” เปลี่ยนพื้นที่จากไร่ฝิ่นมาเป็นแปลงเกษตรเมืองหนาว ที่สร้างรายได้ดีกว่าเก่าก่อน

อีกหนึ่งสีสันที่เป็นแหล่งดึงดูดให้หลายๆ มาเยือนสถานที่แห่งนี้ นางพญาเสือโคร่ง (Prunus Cerasoldes Don) หรือซากุระเมืองไทย ดอกบานจะเป็นสีชมพูเต็มไปหมด
ดอกของนางพญาเสือโคร่ง มีทั้งสีขาว สีชมพู แต่ที่สะดุดตา ถูกกับกิเลสผู้แสวงหาในการเดินทาง คงจะเป็นดอกสีชมพู เพราะกลีบดอกสีชมพูนี้เอง ที่หลายคนตั้งนิยามว่า ที่แห่งนี้เป็นถนนสายโรแมนติกที่สุดอีกแห่งในเมืองไทย(เรียกว่าคุ้มแสนคุ้มกับการที่ต้องเดินทางมาสูงขนาดนี้)


นั้นเราก็เดินหาห้องนอนจนได้ “บ้านพักนาหา” สนนราคาห้องล่ะ 2500 เป็นห้องใหญ่มีเตียง6ฟุตสองเตียงซึ่งเพียงพอกับการพักของพวกเราทั้งหกคน
“หมู่บ้านขอบด้ง” บ้านของชาวมูเซอที่ขอบด้งไล่ระดับลงมาและสงบนิ่งเช่นเดียวกับขุนเขาที่โอบล้อม บ้านของชาวมูเซอแห่งนี้ในอดีตนั้นเป็นแหล่งปลูกแต่ฝิ่นกันทั้งดอย เรียกได้ว่ามีขนาดใหญ่อีกแห่งของทางเหนือ!!

หลังคาบ้านของคนขอบด้งที่มุงด้วยแฝก เคล้ากับไอหมอกยามสายที่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ แถมด้วนกลิ่นของควันไฟจางๆ ที่ลอยมาตามสายลม

จากนั้นเราจัดแจงเก็บสัมภาระแล้วออกไปเดินเล่นในตลาดข้างล่างซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารการกิน ของซื้อของขายของชาวท้องถิ่นเผ่ามูเซอ ก่อนที่จะกลับเข้านอนเพื่อตื่นไปรับเช้าวันใหม่ที่จุดชมวิวขอบด้ง

จิบชา..ชมพระอาทิตย์ขึ้นหมู่บ้านขอบด้ง เค้าบอกว่าจุดชมวิวขอบด้ง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งบนดอยอ่างขาง หากนักท่องเที่ยวท่านได้ที่มาเยือนดอยอ่างขางแล้วไม่ได้ไปที่จุดชมวิวขอบด้ง ก็จะพลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสกับแสงอาทิตย์ที่อบอุ่น และสวยงาม

ที่นี่นอกจากแปลงสตรอเบอรี่และไร่ชาหลังบ้านมีให้เห็นปลูกอยู่เรียงรายมากมาย แล้ววิถีชีวิตที่ดำเนินไปอย่างช้าๆ มันทำให้เรารู้สึกหลุดไปอยู่ยังอีกโลก เครื่องมือสื่อสารไม่จำเป็นเลยสำหรับ หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้
หากหนาวนี้คุณกำลังวางแผนที่จะใช้วันพักผ่อนช่วงส่งท้ายปี การมาเยือนดอยอ่างขาง และสัมผัสวิถีชีวิตแห่งหมู่บ้านขอบด้ง จะสร้างความทรงจำและประสบการณ์ใหม่ให้ชีงิตคุณเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งหน้าอย่างแน่นอน
Ps. บรรยากาศเช้านี้หมอกเต็มเลยครับมองไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเลยครับหมอกหนามาก แต่ที่ไร่ชาและไร่สตอเบอรี่ ยังโอเคอยู่ครับวันนี้เลยเก็บบรรยากาศมาฝากครับเริ่มเข้าไปเที่ยวชมไร่ได้แล้วครับ แต่ผลผลิตยังไม่มากครับ
ลมหนาวมาแล้ว … ถึงเวลาออกไปโลดแล่นสัมผัสกับอากาศเย็น ๆ กัน
ขอบคุณที่มาของภาพ: www.facebook.com/narongsakboy