เฮ้อออออออ !!! ร้อนตับแลบขนาดนี้.. .หนีร้อนไปนอนริมน้ำกันมั้ยยย ? เป็นประโยคที่ผมถามแฟน เนื่องจากนานๆทีเราจะมีเวลาที่ได้หยุดตรงกันสักที จะไปดูหนัง กินปิ้งย่าง ในห้างมันก็เดิมๆไป แถมใครๆก็ไปห้างหลบร้อนกันทั้งนั้น
แต่เราทั้งคู่ต่างอยากเสพความสงบ อยากอยู่เงียบๆ ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ แต่จะไปที่ไหนดีล่ะ ? มีเวลา 2 วัน 1 คืน จะไปไกลๆก็คงไม่เวิร์คแน่ๆ ทะเลก็เพิ่งไปมาแถมช่วงนี้ฝนตกทะเลก็คงไม่เหมาะเท่าไหร่
ผมคิดออกว่า ที่ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีต้นไม้ มีภูเขา ตามที่เราต้องการก็คงจะหนีไม่พ้น กาญจนบุรี ที่ไปทีไรก็รู้สึกเหมือนเวลามันหยุดเดินเลยหล่ะคับสายฝนที่โปรยปรายลงมาใน ช่วงนี้ คงจะทำให้ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มและสดชื่นแน่ๆแถมยังพาไอหมอก อ่อนๆ จางๆ มาปกคลุมขุนเขาในยามเช้าอีกต่างหากผมมโนไปไกลมาก ฮ่าๆๆ ก็มันคิดแบบนั้นจริงๆนี่หน่า ^^
ผมคิดถึงแพริมแม่น้ำแคว เนื่องจากขับรถผ่านไปเที่ยวบ่อย ก็เลยลองเสิร์ชดูว่าที่ไหนน่าจะเหมาะแก่การพักผ่อน ผมเห็นเพื่อนๆในกลุ่ม แบกเป้เที่ยวแชร์รูป The For Rest Resort เห้ย !!! น่าสนใจดีนะ ผมไม่พูดพร่ำทำเพลงโทรไปจองตอนนั้นเลย โดยไม่รู้ว่าจะดีแบบในรูปมั้ย ไม่สนใจแล้วคับ ผิดถูกค่อยว่ากันอีกทีเดี๋ยวมาดูกันคับว่า The For Rest จะเป็นยังไง จะเหมาะแก่การพักผ่อนแบบชิลๆแค่ไหน ^^
ต้องบอกเลยว่าทริ ปนี้ไม่ได้แบคแพคหรือแอ๊ดเวนเจอร์อะไรมากมายเรารู้สึกอยากพักจริงๆก่อนหน้า นี้เราแบคแพค แบกเป้กันอย่างหนักหน่วง ฮ่าๆๆทริปนี้ขอพักสบายๆดีกว่า ผมเลือกขับรถไปดีกว่าทริปนี้กาญจนบุรี แค่นี้เองขับรถจากกรุงเทพฯ ไม่นานก็ถึง
ผมออกจากกรุงเทพฯเช้าตรู่คับ ขับรถไปฟังเพลงไปชิวมากๆผมชอบนะคับเวลาที่ผมเองขับรถออกต่างจังหวัด ขับพ้นกรุงเทพฯไม่ไกลเราเองจะรู้สึกว่ามันโล่งมาก มันเหมือนมีอารมณ์บางอย่าง ยังไงไม่รู้เพลงมันจะเพราะกว่าปกติทั้งๆที่เป็นเพลงที่เราฟังทุกวันนะ
ขับรถไปเราก็จะรู้สึกว่าฟ้ามันกว้างขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆที่ฟ้ามันก็ฟ้าเดียวกันนะ ทำไมท้องฟ้ามันสวยจังว่ะ ?แวะกินก๋วยเตี๋ยว เฮ้ย ทำไมก๊วยเตี๋ยวมันอร่อยจังว่ะ ? มันเกิดอะไรไม่รู้คล้ายๆแบบนั้น
ผมเลือกใช้ถนนสาย 323 ก็ไปเรื่อยๆชิวๆ ไม่นานก็มาถึงตัวเมือง กาญจนบุรีเราแวะกินก๋วยเตี๋ยวกันที่ร้านก๊วยเตี๋ยวเรือโกสัก ถ้ามาเมืองกาญแล้วไม่กินร้านนี้ “ถือว่าผิด” เห้ย ไม่ใช่ครัวคุณต๋อยถ้ามีโอกาสผ่านมาก็ต้องแวะกินร้านนี้ทุกที่
กินอิ่มก็ออกเดินทางต่อคับ ^^ อย่างที่บอกไปตอนแรกก๋วยเตี๋ยวมันอร่อย ซัดไป 2 + แคปหมู อิ่มสิคับ พุงจะแตก
ตามคอนเซปขับออกจากเมืองกาญได้ไม่ไกล เฮ้ยย หนังท้องตึง หนังตาหย่อนง่วงแล้วคับ แต่หลับไม่ลงจริงๆ เพราะ ระหว่างทางวิวสวยพอสมควรคับ
คราวที่แล้วมาช่วง มีนา สองข้างทางนี่แห้งมา แต่คราวนี้เปลี่ยนไปคับฟ้าใส ต้นไม่เขียว ใครจะหลับลงล่ะคับ ^______^
The For Rest อยู่ห่างจากเมืองกาญ ประมาณ 100 กิโลนิดๆคับถือว่าไม่ไกลผมขับชมวิวมาเรื่อยๆ เพลินๆ ก็มาถึงแล้วคับ กับ The For Rest แค่ทางเข้าก็รู้สึกแล้วว่าร่มรื่นพอสมควรต้นไม้เขียวชอุ่มตามที่มโนไว้ แต่อากาศค่อนข้างร้อนเลยทีเดียวนี่ผมกะว่า หนีร้อน มานอนริมน้ำนะ เหมือนหนีเสือปะจระเข้เลย ฮ่าๆๆ
แถมตอนขับรถเข้ามาจอดมีรถจอดเยอะ มากๆๆๆๆ ตอนนั้นผมคิดว่าผมจะคิดผิดมั้ยที่มานี่ที่รถจอดกันเต็ม แถมคนเยอะพอสมควร จะมีหรอกับการพักผ่อน
จากนั้นเราขนของเดินลงมาติดต่อห้องพักที่จองไว้ พนักงานบริการไวและดีพอสมควรคับ เราได้ห้อง 505 และบอกกับผมว่า “สี่โมงจะมีแพใหญ่ล่องออกไปให้เล่นน้ำ ให้เตรียมตัวไว้ถ้าจะไปนะคับ”
ผมลุ้นมากว่าสภาพห้องจะเป็นแบบในรูปที่เห็นมามั้ย ? เปิดห้องเข้าไปยังไม่ทันได้ล้มตัวลงนอน ก็สัมผัสได้ทันที่ ว่า.. .
ที่นี่ชิลมาก บรรยากาศดีมากคับ แต่ภายในห้องไม่มี ทีวี ตู้เย็น wifi นะคับ แต่ wifi จะมีที่ล๊อบบี้ คับ ^^ ขับรถมาได้มานอนฟังเสียงน้ำไหล มันรู้สึกผ่อนคลายมากๆ ^^
ผมอาบน้ำให้ผ่อนคลาย จากนั้นเผลอหลับไปยังไงไม่รู้ ฮ่าๆๆ ก็มันสบายนี่หน่ามารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนมีพนักมามาเรียกถามว่า “จะไปล่องแพมั้ย? แพกำลังจะออก”
ผมรีบแต่งตัว ทาครีมกันแดดแล้วคว้ากล้องอย่างไวกลัวจะไม่ทันเราไปถึงแพทันเวลา ไม่นานแพก็ออก บนแพคนค่อนข้างเยอะคับ
ส่วนมากจะไปกันเป็นกลุ่ม มีอาหารขึ้นไปกินกันแบบชิคๆ ผมยังแอบคิดเลย ถ้ามาเป็นกลุ่มแบบสมัยมหาลัยคงสนุกน่าดู คิดถึงเนอะ
แพนี้จะล่องทวนน้ำขึ้นไปนะคับ ประมาณ 1 กม. บรรยากาศตอนเย็นๆนี่ถือว่าดีทีเดียว ชุ่มฉ่ำมาก แบบที่คิดไว้ต่างคนก็ต่างถ่ายรูปกันเพลินๆ วิวก็ดี บรรยากาศก็ดี
ผมแอบอิจฉาคนที่มากันเป็นกลุ่มนะคับ น่าจะสนุกมากอย่างที่บอกคับ คนค่อนข้างเยอะคับวันนี้ แต่กลับกันจากตอนแรกที่ผมคิดว่าคนเยอะแล้วจะวุ่นวายแต่ไม่เลย คนเยอะแต่กลับรู้สึกสงบทุกคนที่มาดูผ่อนคลายมากรวมทั้งตัวผมเอง ที่พร้อมกระโดดน้ำ 555
เรือขับเคลื่อนไปอย่างช้า ทำให้เราได้เสพบรรยากาศได้อย่างเต็มที่ ยิ่งออกมาไกลยิ่งรู้สึกสดชื่นนะคับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ต้นไม้มันเขียวขึ้นทุกทีทำให้ผ่อนคลายมากๆ แถมมีแสงแดดอ่อนๆยามเย็นมาช่วยเพิ่มบรรยากาศให้มันดีมากขึ้น
ไม่นานมากเรือก็จอดให้พวกเรากระโดดน้ำลอยคอกันคับทุกคนเหมือนพร้อม เรือจอดปุ๊บ กระโดดปั๊ป 555 เหมือนอัดอั้นยังไงไม่รู้เหมือนแชมเปญที่ถูกเขย่าแล้วปล่อยออกยังไงอยย่าง งั้นสำหรับใครว่ายน้ำไม่เป็นไม่ต้องกลัวนะคับ สบายมาก ที่นี่มีบริการผลักตกน้ำด้วย รวมอยู่กับที่เราจ่ายไปนั่นแหละคับ
ระยะทางจากที่เรือมาจอดกลับไปที่รีสอร์ท ไกลพอสมควรลอยคอกันชิวๆ บางช่วงน้ำแรง บางช่วงเบาบางช่วงตื้นจนยืนได้ บางช่วงลึกคับ ต้องระวังหน่อยนะคับ
สรุป คนที่ไปกับแพได้ลงน้ำกันเกือบหมดทุกคน 555ยกเว้นคนที่จะไม่ลงจริงๆ คนที่ลังเลเรียบร้อยคับ แต่ไม่ต้องกลัวจะมีพนักงานดูแลอย่างใกล้ชิดสำหรับใครที่กลัว ^^
ล่องมาสักพักเราก็มาถึงรีสอร์ทแล้ว ส่วนใครที่ยังรู้สึกว่าเห้ยย แค่นี้หรอ ยังไม่หนำใจเลยอะไรว่ะ ไม่ต้องกลัวนะคับทางรีสอร์ทมีแพออกไปอีกรอบเหมือนเดิม สบายใจได้ 555 ล่องกันให้เต็มที่ไปเลย
ส่วนผมไม่ได้ไปต่อคับ ผมเล็กเรือคายักไว้จะพายเล่นชิวๆซะหน่อยแต่พอไปถึงมีเรืออยู่ 4-5 ลำ เรือไม่เต็มแต่ไม้พายไม่มีก็จบกัน 555ก็นั่งรอคับไม่ได้รีบร้อนอะไร ไม่มีอะไรต้องคิดมาก นั่งตรงนี้รู้เลยว่าสงบนะทั้งๆที่คนก็เยอะเสียงก็ดัง เออ นั่นดิ ทำไมว่ะ ?
แต่เสียงที่ดังนั้นมันคือเสียงหัวเราะจากคนที่ มาเที่ยวเหมือนกันนี่แหละคับได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะ มันก็รู้สึกผ่อนคลายได้เหมือนกันคับ
รอสักพักในที่สุดผมก็ได้พายเรือสมใจ น้ำค่อนข้างเชี่ยวพอสมควรคับเอากล้องลงไปด้วยพายไป ถ่ายรูปไป ถ้ามาแล้วไม่มีรูปก็ยังไงอยู่พนักงานบอกผมว่า “พี่ผมกลัวนะ”
ใจผมเริ่มแป้ว ผมถามกลับไป “กลัวไรอ่ะ ชิวๆ ผมนี่พายเรือมาตั้งแต่ออกจากท้องแม่ สบาย”
แมร่งตอบกลับมาว่า “ผมไม่ได้กลัวพี่ ผมกลัวกล้องพี่อย่างเดียวแหละ” ผมเอาไม้พายเคาะหัวไปทีนึงแล้วพายหนีออกมา 555
น้ำแรงนะคับ แต่ก็ไม่วายจะกระโดดน้ำเล่นให้ได้ มาทั้งทีนี่เนอะ แถมขากลับมีคนพายให้ สบายมาก ^^
ใครพายไม่เป็นก็ไม่ต้องกลังเลย พนักงานที่นี่บริการพายให้ด้วย
เหนื่อยกันแล้วก็ถึงเวลาพักผ่อนคับ ขึ้นไปอาบน้ำดีกว่า หิวแล้วด้วย ^^
แดดร่ม ลมตก ไปแล้วผมนั่งรอดูการเปลี่ยนเปลี่ยนของที่นี่ คือ มันก็ดีไปอีกแบบมีไฟมากระทบสายน้ำ ไกวเปลนอนฟังเสียงน้ำไหล ก็ชิลไปอีกแบบ
นั่งจิบบรรยากาศได้ไม่นานก็ได้เวลากินข้าวแล้วววว อาหารที่นี่จะเริ่มตักได้ตั้งแต่ 18.00 น. – 20.00 น. ตามที่พนักงานบอก
ผมไปก็ประมาณ 18.30 น. แล้วคนเยอะคับ เห็นแล้วตกใจจะมีกับข้าวเหลือไว้ให้เรามั้ยนะ อาหารที่นี่เป็นแบบบุฟเฟ่ต์คับ ตักกันได้เต็มที่จัดไป อีกอย่างบรรยากาศที่นั่งกินข้าวค่อนข้างดี มีเพลงเบาๆ ฟัง
ขอโทดด้วยคับ ไม่ได้ถ่ายรูปกับข้าวมา ซึ่งจริงๆตอนนั้น ไม่มีอารมณ์ไม่แต่จะยกกล้องขึ้นมาหิวมากถึงมากที่สุด พรุ่งนี้แก้ตัวนะคับ ^^
กินข้าวเสร็จผมก็ออกไปเดินเล่นรอบๆรีสอร์ทคับ ซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก มืดตึบ มีที่สระว่ายน้ำที่พอได้หน่อย
เดินกลับมาที่ล๊อบบี้เหมือนเดิมคับ มาฟังเพลงชิลๆ จิบไวน์ เบาๆ ไวน์ขวดนี้ได้มานานมากไม่ได้เปิดสักที เพราะ ที่ผ่านมาแบกเป้ตลอดจะให้ใส่ไวน์ไปก็ไม่เวิร์คแน่ๆวันนี้วันดีถือโอกาสเปิดมันซะเลย เอาพอกรึ่มๆ
เริ่มดึกคนก็ทยอยกลับห้องตัวเองหมดคับ เหลือไม่มีคนอยู่ตรงนี้ แต่ผมว่าตรงนี้แหละสบายมากๆ แถมสองทุ่มกว่าๆแล้วยังตักอาหารมาแกล้มได้ด้วย เค้ายังไม่เก็บนะคับ ตักไปสบายมาก
เกือบๆสามทุ่มครึ่งพนักงานถึงเดินมาถามว่าจะเอากับข้าวอะไรอีกมั้ยจะเก็บไปล้างสำหรับไว้พรุ่งนี้คับ คือ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผมประทับใจคือบริการของที่นี่คับ พนักงานบริการดีพอสมควรคับ ผมกับแฟนนั่งกันอยู่ถึงเกือบสี่ทุ่มก่อนจะกลับไปที่ห้องพัก
กลับมาที่ห้องพักก็มานั่งเล่นเล่นเล่นกัน ปกติเราไม่ค่อยมีเวลาอยู่ด้วยกันแบบนี้เท่าไหร่ วันหยุดเราก็ไม่ตรงกัน นานๆทีจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ แต่ผมเองที่เที่ยวแทบจะทุกเดือน
เดือนล่ะครั้ง สองครั้ง บางทีไป 10-20 วัน เค้าก็ปล่อยผมไปนะ พอมีโอกาสแบบนี้ก็ตอบแทนเค้าด้วยการพามาผ่อนคลายบ้าง ^^
บรรยากาศแบบนี้ ผมจะเล่นเพลงอะไรดีนะ ? ^^ เพื่อนๆช่วยแนะนำหน่อยนะคับ ฮ่าๆๆๆ
เมื่อคืนเผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงจากนาฬิกาปลุก ผมตั้งปลุกไว้ 6.00 น. อยากตื่นมาดูหมอกอ่อนๆแบบที่มโนไว้ก่อนมา แต่มันไม่เป็นแบบนั้นคับ
ผมตื่นจริงแต่ตื่นขึ้นมาปิดนาฬิกาปลุกตื่นอีกที่ 7.30 น. รีบพาตัวเองออกมาข้างนอกห้องทันที ไม่มีหมอกอ่อนๆลอยเหนือนน้ำเลย มีลอยอยู่นิดๆแค่นั้นคับ แต่ก็พอทำให้รู้สึกสดชื่นมากเลยทีเดียว
คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการนอนชิวๆ อ่านหนังสือที่ชอบ พร้อมอากาศดีๆ ก่อนจะมานั่งโซโล่กีต้าร์เบาๆ ไม่กล้าเล่นดังเดี๋ยวข้างห้องปาขวดเบียร์ใส่ 555
สายๆหน่อยก็ออกมากินข้าวคับ ^^ จริงๆตักอาหารได้ตั้งแต่หกโมงเช้าก็เลยนะคับ แบบว่าตื่นมาก็มีข้าวให้กินเลย ดีตรงนี้ กับข้าวก็หน้าตาเดิมๆคับแต่ที่เพิ่มเติมคือบรรยากาศ ทำให้มื้อเช้านี้อร่อยขึ้นมาทันที

หลังจากกินข้าวเสร็จก็นั่งชิวตามเคย เช้านี้รู้สึกสดชื่นมากคับ เหมือนได้ชาจพลังเต็มที่ การเดินทางแต่ล่ะครั้งของผมคือจะอยู่กับสถานที่นั้นๆให้นาน พยายามจะไม่เก็บแลนด์มาร์คสำคัญๆ
เมื่อก่อนเคยทำแบบนั้นมันเหนื่อย พอเดินทางเยอะๆมันสอนเราได้ มันทำให้เรารู้จักตัวตน และ สอนให้ทำในแบบที่ชอบ
เช้านี้โล่งมากคับ ไม่มีใครพายเรือเลย ตอนแรกผมคุยกับแฟนว่าจะออกมาพายเรือแต่เช้าตรู่เลย แต่ผิดแผนคับ ตื่นสายไปหน่อย จนตอนนี้แดดก็เริ่มร้อนแล้ว แต่ก็จะพาย อ่าวเห้ย ไหนบอกจะพักผ่อนพายเรือให้เหนื่อยอีก
นี่แหละคับ การพักผ่อนของผมอีกแบบ คือ เราทำในสิ่งที่เราชอบ เหนื่อยกายแต่สบายใจ ก็เหมือนได้พักอาจจะไม่ใช่พักร่างกายแต่เป็นการพักจิตใจมากกว่า
ไม่มีใครพายเรือผมก็จัดเลยคับ คนเดียวก็เอา ชวนแฟน แฟนก็ไม่พาย
เช้านี้น้ำไหลแรงมาก แรงก็เมื่อวานตอนเย็นซะอีกคับ เหนื่อยมากพายไม่ไหวต้องปล่อยให้เรือไหลไปแล้วพายกลับมาใหม่
บอกตรงๆว่าไม่สะใจ ผมทิ้งเรือเลยล่ะกันแล้วกระโดดน้ำเล่นเลย แต่น้ำค่อนข้างแรงคับ เหนื่อยเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
เล่นน้ำเสร็จสายๆก็กลับมาอาบน้ำ นอนเล่นเตรียมเก็บของกลับ โหยจะต้องกลับแล้วหรอเนี่ย ยังไม่อยากกลับเลย อีกอารมณ์ที่ผมไม่ค่อยชอบคือ ติดลม 555
หลังจากอาบน้ำเก็บของเรียบร้อยก็เตรียมตัวกลับคับ ผมขนของมาไว้ที่ล๊อบบี้ นั่งกินไอติม ก็มีน้องๆกลุ่มนึงเดินมา
ผมได้ยินแว่วๆว่าจะเดินออกไปที่ถนนใหญ่แล้วโบกรถไปที่เมืองกาญ แล้วต่อรถกลับ กรุงเทพฯ ผมเลยบอกว่า “ไปด้วยกันก็ได้นะ ผมผ่านตัวเมืองพอดี”
จริงๆผมก็ไปถึงกรุงเทพฯแหละ แต่ถ้าให้พวกเค้านั่งไปถึงกรุงเทพฯต้องร้อนแน่ๆ ก็เลยบอกแค่ว่าไปถึงเมืองกาญ เค้าต่อรถทัวร์หรือรถตู้น่าจะนั่งสบายกว่า
นอกจากการเดินทางของตัวเองแล้วการได้ช่วยเหลือเพื่อนร่วมทางผมว่าก็ทำให้การเดินทางน่าจดจำมากขึ้น
นี่คงเป็นอีกหนึ่งความสุขที่เกิดขึ้นจากการเดินทาง ^^
End
The For Rest ถือว่าที่นี่ดีพอสมควรเลยคับ แพแถบๆนี้บรรยากาศก็จะคล้ายๆกันเกือบหมดนะคับ มีเรือลากแพใหญ่ ลากทวนน้ำขึ้นไปประมาณ 1 กม.แล้วปล่อยให้นักท่องเที่ยวลอยคอกลับมาที่รีสอร์ท มีเรือคายักไว้สำหรับใครที่อยากพายเรือเล่นเบบชิคๆ เหนื่อยจากการเล่นน้ำก็มีอาหารบุฟเฟ่ต์ให้ซัดกันได้ไม่อั้นตั้งแต่ หกโมงเย็นยันสามทุ่มกว่าๆ ดึกหน่อยก็มานั่งจิบเบาๆฟังเสียงน้ำไหลนอนดูดาวเพลินๆ เช้าตื่นมาก็มีอารหารคอยบริการตั้งแต่เช้าถึงสายๆเลยคับ และพนักงานของที่นี่บริการดีพอสมควรคับ 1000 บาท คุ้มมากคับ
2 วัน 1 คืน กำลังดีคับสำหรับใครที่ไม่ค่อยมีเวลา ที่สำคัญไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางสะดวกไม่ว่าจะขับรถมาเอง รถโดยสารประจำทาง รถไฟ หรือจะโบกรถมาก็โอเคคับ ฮ่าๆๆ ^^
สำหรับช่วงนี้ถึงปลายกันยา วันธรรมดา 1000/คน คับ วันหยุด 1200/คน คับ ผมแนะนำให้โทรจองล่วงหน้าสำหรับใครที่จะมา เสาร์-อาทิตย์ จากที่คุยกับพนักงานช่วงหน้าหนาวจะไม่ค่อยรับคนไทยคับจะเน้นต่างชาติคับ ^^
ทริปนี้ผมขับรถไปเองคับ ไปกันสองคน ค่าที่พัก + ค่าน้ำมัน เบ็ดเสร็จคนล่ะ 1500 บาทคับ
ฝากไว้ในอ้อมใจด้วยนะคับ ^^
รีวิวที่เที่ยวโดย: คุณ ทารก มิว สามารถตามไปฟอลโล่เขาคนนี้กันได้ที่เพจ: MoonMountainsBoy