วางแผนปิด “เกาะตาชัย” ถาวร ไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีก

วางแผนปิด "เกาะตาชัย" ถาวร ไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีก

ภายหลังอธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช สั่งปิดการท่องเที่ยวบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา บริเวณพื้นที่บนหาด และแนวปะการังรอบ ไม่มีกำหนด

ล่าสุด (29 พ.ค.) ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการทางทะเล ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก Thon Thamrongnawasawat ระบุว่า สำนักงานเลขาท่านนายกรัฐมนตรีฯ ได้ติดต่อสอบถามความคืบหน้าของเกาะตาชัยหลังจากมีคำสั่งปิดการท่องเที่ยวบนเกาะ กรมอุทยานฯ ประสานผมให้ ช่วยนำเสนอแผนประกอบการพิจารณา ผมดูจากแนวทางที่ท่านรัฐมนตรีสุรศักดิ์บอกไว้ “รักษาให้เป็นสมบัติของชาติ” และตามที่ท่านอธิบดีธัญญาเน้นย้ำ “เขตสงวนสภาพธรรมชาติ” เพราะฉะนั้น

1. เกาะตาชัยจะไม่หวนกลับไปเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนเนืองแน่น เกาะตาชัยไม่ใช่เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และไม่เคยเป็นเขตท่องเที่ยวในแผนใดๆ

2. จะไม่มีการสร้างอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการนักท่องเที่ยวบนเกาะเด็ดขาด

3. ในอนาคตหากมีการไปเกาะตาชัยจะไปในรูปแบบเรียนรู้ธรรมชาติเท่านั้น เช่น ค่ายเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์ ฯลฯ ที่มีกฎกติกาเป็นพิเศษ

4. การไปดูงานหรือไปศึกษาวิจัยใด ๆ ต้องขออนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานฯ เท่านั้น

5. ควรสนับสนุนหน่วยพิทักษ์บนเกาะตาชัยเป็นพิเศษ ทั้งเรือตรวจการณ์ เจ้าหน้าที่ เครื่องปั่นไฟ และอุปกรณ์ติดต่อสื่อสาร เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย

6. หลายฝ่ายเป็นห่วงเรื่องการประมงผิดกฎหมาย แต่ท่านอธิบดีได้เน้นย้ำตรงนี้กับหัวหน้าอุทยานทุกท่านเป็นพิเศษ การตรวจการณ์รอบเกาะตาชัยอาจต้องทำอย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น

เมื่อกรอบแนวคิดชัดเจน มาถึงการแบ่ง “เขตในพื้นที่” ผมยึดตามแนวทางที่ท่านรัฐมนตรีและท่านอธิบดีแถลงไว้ ได้แก่ “รักษา” และ “ฟื้นฟู” เมื่อนำทั้งสองคำ มาใช้กับพื้นที่เกาะตาชัย เราจะได้ 3 เขต ได้แก่

– เขตป่าชายหาดและชายหาด (Beach Forest & Sandy Beach)

– เขตปะการังด้านใน (Reef Flat)

– เขตแนวปะการังด้านนอก (Reef Edge & Reef Slope)

ผมลงแผนที่พอให้เห็นภาพว่า เราแบ่งเขตอย่างไร กิจกรรมในแต่ละเขตจะควบคู่กันไป ทั้งการฟื้นฟูสภาพให้กลับมาเป็นธรรมชาติ และการรักษาสภาพธรรมชาติให้ดำรงอยู่ รายละเอียดของกิจกรรมคงไม่สามารถอธิบาย ได้ในนี้ แต่บอกได้ว่ามีงานวิจัยหลายอย่างที่กำลังหาทางจัดการปัญหาปะการังฟอกขาว เช่น Super Coral – เพิ่มสาหร่ายให้ปะการัง ฯลฯ

นอกจากนี้ กรมทรัพยากรทางทะเลฯ และสมาคมวิทยาศาสตร์ทางทะเล ยังมีการศึกษาเรื่องการฟื้นฟูปะการังมายาวนาน อาจนำงานต่างๆ ทำร่วมกับกรมอุทยานฯ ในพื้นที่เกาะตาชัยที่ไม่ควรลืมคืองานฟื้นฟู/รักษาป่าชายหาดและหาดทราย เราสามารถนำเกาะตาชัยมาเป็นสถานที่ต้นแบบ โดยไม่ต้องห่วงเรื่องผลกระทบจากมนุษย์ อยากอธิบายเพิ่มว่า ป่าชายหาดเป็นระบบนิเวศป่าที่โดนคนถล่มมากที่สุด ปัจจุบันเราเหลือป่าชายหาดที่สมบูรณ์เพียงไม่กี่พันไร่ สุดท้ายคือลำดับ 3 ขั้นตอน ที่แบ่งเป็นระยะวางแผน (ช่วงมรสุม) ระยะทำงาน (ตั้งแต่เดือนตุลาคม 59 เป็นต้นไป) และระยะติดตามผล (ควบคู่ไปกับระยะทำงานและมีการประเมินตามช่วงเวลา)

หากทำทุกอย่างได้ เกาะตาชัยจะกลายเป็นเขตสงวนอย่างแท้จริง อีกทั้งยังเป็นแหล่งศึกษาวิจัยทั้งด้านป่าไม้และทะเลที่ปราศจากผลกระทบจาก มนุษย์ สำคัญสุดคือเป็นสถานที่เก็บไว้อวดลูกหลานและชาวโลกว่า ‪#‎ระบบนิเวศเกาะในอันดามันที่บริสุทธิ์สมบูรณ์ควรเป็นเช่นใด‬

แน่นอนว่ากรมอุทยานต้องพิจารณารายละเอียดของแผน สอบถามความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญท่านอื่น และวางแผนสอดคล้องกับการจัดการอุทยานหมู่เกาะสิมิลันที่เพิ่งมีการปรับ เปลี่ยนหัวหน้าอุทยานท่านใหม่ แต่นำมาให้เพื่อนธรณ์อ่าน เพื่อยืนยันว่า “ปิด” มิใช่เพียงแค่ “ปิดไว้เฉยๆ” เราเคยมีบทเรียนจากอดีตมาแล้ว

คำถามว่า “จะเปิดเมื่อไหร่” จึงไม่มีคำตอบ เพราะหนนี้ไม่ใช่การ “ปิดเพื่อรอเปิดใหม่” แต่เป็นการ “คุ้มครองตาชัย” จากการใช้ของคนรุ่นเรา เพื่อเป็นมรดกธรรมชาติแก่คนรุ่นต่อไป นั่นแหละคือความหมายของ “เขตสงวนในอุทยานแห่งชาติ”

วางแผนปิด "เกาะตาชัย" ถาวร ไม่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีก

ที่มา: news.sanook.com