4 วัน 3 คืน ชมทะเลคริสตัลหมู่เกาะสิมิลัน พังงา

สัมผัสความสวยงามของท้องทะเลใต้ เหยียบย่ำบนหาดทรายสีขาวเนียนละเอียดกับทริป “4 วัน 3 คืน เที่ยวชมหมู่เกาะสิมิลัน สวรรค์ของคนรักทะเล ความสวยงามของจังหวัดพังงา

ลางานไปเที่ยวกันเถอะ กับทริป 4 วัน 3 คืน “เที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน” ไปเที่ยวชิล ๆ ย่ำเท้าเที่ยวบนหาดทรายสีนวลนุ่มนิ่มแสนสวย ชมความสวยงามของน้ำทะเลสีฟ้าใส พักผ่อนใกล้ชิดชายหาด เยี่ยมเยือนโลกใต้ทะเลสุดมหัศจรรย์

Day1

เก็บกระเป๋า เช็คสภาพรถ เตรียมพร้อมออกเดินทางในช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืน มุ่งหน้าไปที่จังหวัดพังงากันเลย ระยะทางจากกรุงเทพฯ 788 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทาง 11- 12 ชั่วโมง ขับรถกันจนเมื่อยไปเลยจ้า แวะพักกายพักรถ กันตลอดเส้นทาง โดยขับไปตามทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง แล้วก็เข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดพังงา

เรามาถึงตัวเมืองพังงาเวลาเที่ยงพอดี ก็ไปหาอาหารอร่อย ๆ ใส่ท้องกัน ก่อนจะไปยังที่พักในอำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ที่อยู่ห่างประมาณ 57 กิโลเมตรจากตัวอำเภอพังงา ซึ่งวันนี้เราจะพักกันใกล้ ๆ ท่าเรือทับละมุ เพื่อที่จะออกไปขึ้นเรือไปยังเกาะสิมิลันได้ตั้งแต่เช้า พอเอากระเป๋าไว้ที่พักเสร็จแล้ว เราก็ขอพักผ่อน นอนหลับกันสักหน่อย 

ช่วงบ่าย เราก็มีแผนจะไปชมความงามอุโบสถ ไม้สักหลังงาม ของวัดท่าไทร และไปถ่ายรูปชิค ๆ ชมอาทิตย์ตกกันที่ประภาคารเขาหลัก พอทำธุระเสร็จเราก็ออกไปกันเลย

จุดแรกที่เรามา คือ วัดท่าไทร วัดริมชายหาด กลางป่าสน วัดที่มีความโดดเด่นด้วยโบสถ์ไม้สัก ที่ถูกเกาะสลักด้วยความประณีตละเอียดลออ สวยงามมาก ชมความงามของอุโบสถกันอย่างจุใจ แล้วก็ไปเดินกินลมกันที่ชายหาดข้างวัดเพลิน ๆ 

เราเดินทางมาถึงจุดที่สอง ซึ่งก็คือ ประภาคารเขาหลัก ก่อนอาทิตย์จะตกได้อย่างฉิวเฉียดเลย ความสวยงามของแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า เป็นอะไรที่สวยงามมาก ด้วยแสงสีส้มที่ถูกสะท้อนลงบนผืนน้ำทะเล เกลียวคลื่นที่ม้วนตัวสวยงาม ลมเย็น ๆ ที่พัดโชยมา เป็นบรรยากาศที่โรแมนติกมาก เราก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำก่อนจะเดินทางกลับไปที่พัก เพื่อพักผ่อนพร้อมลุยต่อในวันพรุ่งนี้ที่เกาะสิมิลัน

Day2

เช้าวันต่อมา เราก็เก็บของ เช็คเอาท์ออกจากที่พัก ขับรถไปจอดไว้ที่ท่าเรือทับละมุ เพื่อขึ้นเรือต่อไปยังหมู่เกาะสิมิลัน เป้าหมายในทริปนี้ของเรานั้นเอง 

ซึ่งคำว่า “สิมิลัน” เป็นภาษายาวี ซึ่งแปลว่า 9 โดยหมู่เกาะสิมิลันมีทั้งหมด 9 เกาะ ได้แก่ เกาะหูยง เกาะปายัง เกาะปาหยัน เกาะเมี่ยง เกาะห้า เกาะปายู เกาะหินปูซาร์ เกาะสิมิลัน และเกาะบางู ตามลำดับ แต่เกาะที่ 1 – 3 ถูกสงวนไว้จากทางอุทยานเพื่อเป็นการอนุรักษ์ให้สัตว์น้ำได้เพาะพันธ์ได้อย่างสมบูรณ์

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า ๆ เราก็มาถึงเกาะ 4 แต่ก่อนที่เราจะขึ้นเกาะ เขาก็จอดเรือให้เราทดสอบลงไปดำน้ำ เหมือนเป็นการทำให้เคยชินกับการใช้อุปกรณ์ ชมความงดงามของโลกใต้ทะเล 

ได้ดำน้ำกันไม่นาน เราก็ขึ้นเรือ และมุ่งหน้าเข้าเกาะ 4 หรือเกาะเมี่ยง ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ตรงกลางในหมู่เกาะสิมิลัน เมื่อมาถึงอย่างแรกเลยคือ เข้าที่พัก เก็บของ ซึ่งเราต้องติดต่อกับทางอุทยาน เพื่อจองที่พักไว้ก่อนที่จะมานะ ไม่งั้นไม่มีที่นอนแน่ ๆ 

แล้วเราก็ออกมาสูดบรรยากาศดี ๆ ทั้งต้นไม้ทั้งหาดทรายขาว เป็นอะไรที่สงบร่มเย็นมาก ลมพัดตลอด เดินเล่นหาดเล็ก ถ่ายรูปนักท่องเที่ยวเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มที่มีอยู่ตลอด ทำให้ผมที่มอง รู้สึกสนุกไปกับพวกเขาด้วย

รู้สึกตัวอีกทีก็ เวลาเที่ยงแล้ว เราก็ไปกินข้าวเที่ยงกันดีกว่า โดยข้าวเที่ยงบนเกาะ จะเป็นอาหารที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้นักท่องเที่ยว มีหลากหลายเมนูให้เลือกตักเลือกกินกันได้ เป็นโต๊ะอาหารแบบสาธารณะ ที่ไม่ว่าจะมาด้วยแพ็คเกจทัวร์หรือมาเอง ก็ได้มาทานร่วมกัน เราก็ค่อย ๆ กิน เพื่อรอไปดำน้ำกันที่เกาะ 8 มีเวลาอีกสักพักเลย

บ่าย 2 เขาก็ให้ขึ้นเรือเพื่อมายัง เกาะสิมิลัน หรือเกาะ 8 ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน มีอ่าวโค้งยาวเป็นเหมือนเกือกม้า มีหาดทรายขาวสะอาด น้ำใสจนเห็นปลาที่ว่ายอยู่ใต้น้ำ และพอมาถึงเขาก็ให้เราลงดำน้ำกันเลย เราก็ไม่รอช้ารีบลงไปกันเลย โลกใต้น้ำเป็นโลกที่สวยงามมาก ทรายข้างล่างเป็นเม็ดสีขาวสวยมาก น้ำทะเลสีฟ้าใส ปลาที่แหวกว่ายก็มีหลากสีหลากชนิดให้ถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้ได้เลย 

หลังจากเราดำน้ำไปเล่นกันจนเพลินแล้ว ก็ได้ไปลงเรือกันที่เกาะ 8 หาดทรายขาวนวลทอดยาว มีก้อนหินขนาดใหญ่มากมาย ซึ่งจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปกัน คือ บริเวณยอดกองหินเรือใบ ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้ว การขึ้นไป จะมีช่องทางเดินเล็ก ๆ ให้เดินขึ้นไปตามซอกหิน อาจะต้องทนหน่อย เพราะกลางวันแดดร้อน ทำให้หินร้อนไปด้วย 

เมื่อขึ้นมาถึง จุดชมวิวหินเรือใบ บอกได้เลยว่า ใครที่มาเที่ยวเกาะสิมิลันแล้วไม่ได้ขึ้นมาบนนี้ ถือว่าพลาดมากก เพราะมันสวยงามมาก บอกเลยว่าคุ้มค่ากับที่เหนื่อยเดินขึ้นมาจริง ๆ ได้เห็นวิวที่ท้องทะเลเป็นสีฟ้ารับกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมา น้ำใสจนเห็นแนวหินและแนวปะการังใต้น้ำได้อย่างชัดเจน ไปถ่ายรูปกันเถอะ

หลังจากได้ถ่ายรูปกันจนเมื่อย ก็ลงมาจากจุดชมวิวที่ถูกอกถูกใจของเรา ได้พักพอหายเหนื่อย เราก็ต้องขึ้นเรือเพื่อกลับเกาะ 4 กันแล้ว แนะนำให้พกครีมกันแดดไปทากันด้วยนะ เพราะแดดแรงมาก ก็แดดเมืองไทยอะเนอะ เข้าใจ ๆ 555555 

เราก็ลงน้ำกันต่อทันทีที่ลงจากเรือ เล่น ๆ พัก ๆ สนุกสนานมาก จนดวงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง เราก็เลิกเล่นและรอชมอาทิตย์ตรงดินที่ชายหาด แสงสีส้มที่ค่อย ๆ ลับขอบฟ้า ทะเลสะท้อนแสง ส่องประกายสวยงาม โรแมนติกสุด ๆ สักพักเราก็กินข้าวเย็น และกลับที่พักไปพักผ่อนเอาแรงไว้เที่ยวในวันพรุ่งนี้

Day3

ตื่นเช้ามา เราต้องรีบตื่นก่อนดวงอาทิตย์จะขึ้น เพราะเรามีแผนจะไปชมอาทิตย์ขึ้นกันที่ จุดชมวิวข้าหลวง บริเวณจุดชมวิวจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของ หาดเล็ก เกาะ 5 และเกาะ 6 พร้อมได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นไปในตัว ความสวยงามที่มองเห็นบนนี้ เป็นสิ่งที่ต้องมาชมกันให้ได้นะ 

หลังกลับจากจุดชมวิวข้าหลวง เราก็ลงมากินอาหารกันจนอิ่ม แล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อรอไปดำน้ำลึกที่เกาะ 7 ไปต่อมาสักพัก เราก็ได้ขึ้นเรือเดินทางมายังเกาะหินปูซาร์ หรือ เกาะ 7 ของเรานั้นเอง พอมาถึงจุดดำน้ำลึก เรือก็จอดให้เราได้ไปสนุกกับการดำน้ำดูปะการังอ่อนสีสันสวยงามกันจนเพลินไปเลย 

เราใช้เวลาตลอดเช้าในการอยู่บนเรือและดำน้ำ ดูความงามของทะเลอันดามันแสนสวยนี้ จนบ่าย ๆ เราก็ไปพักกินข้าวกันที่ อ่าวงวงช้าง อ่าวเงียบสงบมาก ร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน 

เราอยู่ที่นั้นจนเกือบเย็น และไปชมอาทิตย์ตกดินกันที่ หาดเจ้าหญิง หาดชื่อดังของเกาะ 4 ไปทานข้าว แล้วจึงเข้าที่พักไปพักผ่อน ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดหลายวัน ทำให้เราผล็อยหลับไปในทันที

Day4

เริ่มต้นเช้าวันสุดท้ายของทริปนี้ ด้วยการมาเดินเล่นกันที่ หาดเจ้าหญิง ตั้งแต่เช้า เพราะเราติดใจหาดนี้ตั้งแต่เมื่อวาน

ท้องเริ่มหิว เราก็ไปพักทานข้าวเช้ากัน ก่อนจะกลับไปที่พักเพื่อรอไปดำน้ำกันที่เกาะ 5 และ 6 และในเวลาต่อมาเราก็ขึ้นเรือและออกเดินทางสู่เกาะ 5 และ 6 ซึ่งถือเป็นจุดดำน้ำที่นักดำน้ำหลายคนชอบเป็นที่สุด

พอถึงเกาะ 5 เราก็ลงไปทำน้ำกันเลย เกาะ 5 เป็นเกาะเล็ก ๆ ใต้น้ำมีปะการังอ่อน มีเนินหินสลับซับซ้อนจึงต้องระวังกันหน่อย และหลายคน เรียกที่นี่ว่า สวนปลาไหล เพราะเป็นบ้านของปลาไหลมากมาย 

ดำน้ำได้สักพัก เราก็ไปต่อกันที่เกาะ 6 หรือเกาะปายู ใต้น้ำบริเวณด้านตะวันออกของเกาะ มีแนวปะการังที่กว้างมาก อาจะจะกว้างถึง 200 เมตรเลยก็ได้ เป็นอะไรที่มหัศจรรย์มาก แถมยังมีฝูงปลาแหวกว่ายอยู่ตลอดด้วย

เวลาผ่านไปไว้มาก แล้วเราก็กลับมาที่เกาะ 4 เก็บของ และทานข้าว เตรียมตัวกลับฝั่ง รู้สึกเศร้านิดหน่อย ที่ต้องกลับแล้ว ซึ่งเราก็ได้แอบเดินมาดินแปลกประหลาดที่อยู่ทางด้านเหนือของเกาะ หินรองเท้าบู๊ท ที่เขาพูดกัน เราก็ไม่รอช้า แอบแชะรูปเก็บไว้สักหน่อย เดินเล่นไม่นานเราก็ขึ้นเรือกลับขึ้นฝั่ง ที่ท่าเรือทับละมุ 

และกล่าวคำอำลา “หมู่เกาะสิมิลัน” เป็นอันจบทริป 4 วัน 3 คืน ย่ำเท้าเที่ยว หมู่เกาะสิมิลันแสนสวย สิ่งที่เราได้เห็นตลอดทริปนี้ก็คือ หาดทรายสีขาว ละเอียดนิ่มเท้ามาก ทะเลสีฟ้าที่ใสจนเห็นตัวปลา โลกใต้ทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และความสุข ความสนุกจากการได้มาพักผ่อน ที่ทีมงาน Paapaii อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้มาเที่ยวกันดูสักครั้ง