ออเจ้า ทั้งหลาย ออกไปตามรอยละคร “บุพเพสันนิวาส” ตามหาพี่หมื่นกันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แต่งชุดไทย เที่ยวเมืองเก่า ชมดินแดนประวัติศาสตร์ ท้าแดด ท้าลม ไปตามฉากในละคร
ก่อนอื่นเลย ก็ต้องเตรียมแต่งกายย้อนยุคแบบละครก่อน และก็วางแพลนว่าจะไปตามรอยกันที่ไหน วันนี้ที่จะไปก็จะมีทั้งหมด 4 สถานที่สำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และอยู่ในสถานที่ถ่ายทำของละครบุพเพสันนิวาส ได้แก่ วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทไธศวรรย์, อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา และ ป้อมเพชร
พร้อมแล้ว ไปออกตามหาพี่หมื่นกันเลยยย
เริ่มต้นที่สถานที่แรก “วัดไชยวัฒนาราม” โบราณสถานเก่าแก่และโด่งดังของจังหวัด ที่จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ สิ่งที่น่าสนใจคือ ปรางค์ประธานที่ตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของพื้น รายล้อมด้วยปรางค์บริวาร อีก 4 องค์
ค่าเข้าชมโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม : คนไทย 10 บาท / คน
หลังจากถ่ายรูปบริเวณด้านหน้าของ “วัดไชยวัฒนาราม” กันเสร็จแล้ว ก็เดินมาในส่วนของด้านข้างมีองค์พระปรางค์เก่าแก่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว
บริเวณด้านข้างของ “วัดไชยวัฒนาราม” ก็จะมีแม่น้ำตัดผ่านบริเวณด้านข้างวัด ถือเป็นอีกมุมสวยๆ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูป ไม่พลาดที่จะมาเก็บรูปมุมสวยๆ เป็น “แม่หญิงการะเกด” กันซะหน่อย
เดินเข้ามาในส่วนของภายในวัด เดินชมโบราณสถานเก่าแก่กันเพลินๆ ภายในนี้ก็จะมีมุมถ่ายรูปกันหลายจุด ชอบมุมไหน หยิบกล้อง แล้วเก็บภาพสวยๆ กันเลย … แต่การถ่ายรูปในโบราณสถานเก่าแก่ จะมีข้อห้ามด้วยนะ อย่าทำผิดกฎกันนะคร๊าบบบ
ก่อนจะไปจาก “วัดไชยวัฒนาราม” ขอเก็บภาพมุมสวยๆ ไว้เป็นที่ระลึกกันก่อน
ต่อมาที่สถานที่ตามรอยละครจุดที่ 2 “วัดพุทไธศวรรย์” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ถือว่าเป็นวัดสำคัญ วัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนที่จะเข้าพื้นที่วัด จะมีอนุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ไทย 5 พระองค์ ให้ทำการสักการะ ได้แก่ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, สมเด็จพระนเรศวรมหาราช, สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง), พระเอกาทศรถ และ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
พอเดินเข้ามาภายในวัด ก็จะพบกับ “ปรางค์ประธาน” ที่ยังมีความสมบูรณ์อย่างสุดๆ มีระเบียงคตรายล้อมกับองค์ปรางค์ประธาน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปปูนปั้นตลอดแนว
ก่อนอื่นเลยก็จะต้องกราบไหว้ ขอพร ขอสิ่งดีๆ กับองค์พระพุทธรูป กันซะหน่อย หุหุ … หลังจากไหว้พระกันเสร็จแล้ว ก็เดินชมภายในวัด มีมุมถ่ายรูปสวยๆ มากมาย ใครชอบมุมไหน เลือกกันได้เลยคร๊าบ หรือ จะเอามุมเป๊ะๆ แบบในละครก็จัดเลยคร๊าบ
ถ่ายรูปบริเวณรอบๆ กันแล้ว ก็เดินออกไปยังนอกระเบียงคต เพื่อที่จะไปยัง “วิหารพระพุทธไสยาสน์” ก่อนออกไปยังบริเวณวิหาร ก็มีมุมกำแพงอิฐเก่าแก่ เลยขอแวะถ่ายรูปกันก่อนไปสักการะองค์พระพุทธไสยาสน์
กราบไหว้พระกันเสร็จแล้ว ก็เดินทางมาตามรอยกันต่อที่จุดที่ 3 “อุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา” ที่นี่ถือได้ว่าเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ได้รับพิจารณาให้ได้เป็นมรดกโลก มีโบราณสถานที่เก่าแก่มากมาย ให้ได้เดินชม และเรียนรู้ถึงประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของที่นี่ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ของโบราณสถาน โบราณวัตถุ และสถาปัตยกรรมเก่าแก่มากมาย
ค่าเข้าชมโบราณสถานอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา : คนไทย 10 บาท / คน
เดินทางมาตามรอยกันต่อที่จุดที่ 4 “ป้อมเพชร” ประตูสู่กรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะเมืองอยุธยา นับได้ว่าเป็นป้อมปราการที่อยู่ใน จุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในการป้องกันข้าศึกของอยุธยาที่จะเข้ามาทางแม่น้ำ ยังคงมีความสมบูรณ์ของโบราณสถาน มีผนังก่ออิฐสลับกับศิลาแลงให้ใครที่มาที่นี่ได้สัมผัสถึงความเก่าแก่ของสถานที่
ในส่วนของบริเวณป้อมเพชรก็มีมุมถ่ายรูปมากมายให้ได้ถ่ายกัน ไม่ว่าจะเป็นถ่ายรูปริมแม่น้ำ มองชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา
หลังจากได้ตามรอยกับสถานที่ต่างๆ ตามในละครกันมาทั้งวัน ก็ได้เพลากลับเรือนที่ “คุ้มขุนแผน” ตั้งอยู่ใกล้กับ “วัดมงคลบพิตร” สร้างขึ้นเพื่ออนุรักษ์บ้านของขุนนางในสมัยก่อนไว้ให้ชนรุ่นหลังได้มาศึกษาสถาปัตยกรรมแบบโบราณ
ใน “คุ้มขุนแผน” ยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ ภายในบ้านไม้เรือนไทยโบราณ ให้ได้เลือกถ่ายกันอีกด้วย
จบอีกหนึ่งวันกับการตามรอยละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา การตามรอยละครครั้งนี้ เรามีสปอนเซอร์ใจดีสนับสนุนจากครีมกันแดด Banana Boat ที่ทำให้การตามรอยไม่ต้องกลัวแดด กลัวลม แถมยังทำให้ผิวเราชุ่มชื่นตลอดเวลา ไม่เหนียวเหนอะหนะด้วย
ใครกำลังที่จะไปตามรอยละคร “บุพเพสันนิวาส” ก็เตรียมหาชุดไทยให้พร้อม เตรียมกล้อง เตรียมพร๊อบ กันนะคร๊าบ จะได้มีภาพสวยๆ แบบในละคร