ชมความสวยงามของธรรมชาติ บนยอดเขาสูง 2,285 เมตร “ดอยผ้าห่มปก” ดอยที่มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย การไปเยือนที่นี่แม้จะเหนื่อย แต่จุดหมายปลายทางนั้น คุ้มค่าแก่การมาเยือนแน่นอน
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ทีมงาน Paapaii.com จะพาทุกคนไปเที่ยว “จังหวัดเชียงใหม่” กันเดี๋ยวนี้เลย ทริปนี้ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน สำหรับการพิชิตยอด “ดอยผ้าห่มปก” โดยไฮไลท์เด่น ๆ สำหรับการมาเที่ยวก็คือ เยือนบ่อน้ำพุร้อนฝาง กางเต็นท์บนกิ่วลม ชมพระอาทิตย์ตก นอนดูดาว ดูพระอาทิตย์ขึ้น และสัมผัสทะเลหมอก
การเดินทางมา “เชียงใหม่” จากกรุงเทพฯ จะมีระยะทางประมาณ 700 กิโลเมตร สามารถเปิด Google Maps แล้วขับรถตามเส้นทางมาได้เลย ซึ่งพอมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ สิ่งแรกที่เราต้องเจอเลยก็คือ “รถสองแถวแดง” ที่โดดเด่นและแล่นอยู่ทั่วไป หลังจากนั้นเดินทางกันต่ออีก 200 กิโลเมตร จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 ขับไปจนถึงตัวเมืองฝาง แล้วตรงไปจนพบสามแยกไฟแดง ให้เลี้ยวไปทางซ้าย 9 กิโลเมตร จะถึงที่ทำการ “อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก”
มาถึงแล้วก็เสียค่าเข้า “อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก” กันคนละ 50 บาท แล้วไปหามุมพักผ่อน จอดพักรถหลังจากขับมาเป็นเวลานานกันสักหน่อย ใครหิวที่นี่มีร้านค้าสวัสดิการให้ทานข้าว และซื้อของกินก่อนไปจุดกางเต็นท์ด้วยนะ
หลังจากพักเหนื่อยเรียบร้อย เราเลือกที่จะเดินไปชม “บ่อน้ำพุร้อนฝาง” ที่อยู่บริเวณใกล้ ๆ ทางเข้าอุทยานแห่งชาติฯ น้ำพุร้อนที่นี่ร้อนมาก ๆ มีควันขึ้นตลอดเวลา และทุก ๆ 15 – 20 นาที จะน้ำพุร้อนพุ่งออกมาจากพื้นดินด้วย สำหรับนักท่องเที่ยวท่านไหนที่พกไข่มา สามารถนำมาลวกบริเวณบ่อน้ำพุร้อนได้นะ
นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากนอนแช่ “บ่อน้ำพุร้อน” ทางอุทยานฯ เขาก็มีห้องแบบส่วนตัวให้ใช้บริการกันด้วยนะ ใครสนใจไปลองได้ อากาศหนาว ๆ แบบนี้ ได้แช่น้ำพุร้อนอุ่น ๆ น่าจะสบายตัวไม่น้อย
ถึงเวลาเดินทางต่อ สู่จุดหมาย “ดอยผ้าห่มปก” อีก 18 กิโลเมตร สภาพถนนจะเริ่มเป็นเส้นทางลูกรังสลับคอนกรีต ซึ่งต้องใช้ความชำนาญในการขับ และควรใช้รถกระบะ 4WD ขับขึ้นไปเท่านั้น ใครที่เดินทางมาด้วยรถรูปแบบอื่น สามารถเช่ารถกับทางอุทยานให้ขึ้นไปส่งได้ แล้วจอดรถทิ้งไว้ในจุดจอดของทางอุทยานฯ ได้เลย
มาถึงแล้วลานกางเต็นท์ที่สูงที่สุดในประเทศไทย “ลานกางเต็นท์กิ่วลม” ความสูงอยู่ที่ 1,924 เมตร ธรรมชาติบนนี้คือดีมาก มีป่าสนรอบล้อม และเจอเจ้าถิ่นมานอนข้างเต็นท์อีก 2 ตัว ฮ่า ๆ
ใกล้ ๆ บริเวณ “ลานกางเต็นท์กิ่วลม” มีจุดชมวิวสวย ๆ อยู่ด้วยนะ สามารถมองเห็นธรรมชาติ และทิวทัศน์ของภูเขาน้อยใหญ่ได้อย่างชัดเจน ซึ่งในช่วงเวลาเย็นสามารถชมแสง “พระอาทิตย์ตก” สวย ๆ พร้อมสัมผัสลมหนาวได้จากบริเวณนี้เลย
กลางคืนมาเยือนแล้ว หากใครจะใช้ไฟต้องรีบเลยนะ เพราะ ช่วงเวลา 2 ทุ่ม เจ้าหน้าที่จะปิดที่ปั่นไฟ ทำให้ทุกพื้นที่จะมืดสนิท ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเข้ามาอยู่ที่เต็นท์ของตัวเองกันหมด ซึ่งแม้บนกิ่วลมแห่งนี้จะมืดสักเพียงใด แต่บนท้องฟ้านั้นยังคงมีแสงสว่างระยิบระยับจากดวงดาวเต็มท้องฟ้า ซึ่งเป็นช่วงเวลาโรแมนติกที่เงียบสงบ และเหมาะกับการ “นอนดูดาว” นับล้านดวงมาก ๆ
เช้านี้เราตื่นขึ้นมาในช่วงเวลาตี 4 เพื่อที่จะเดินทางจาก “ลานกางเต็นท์กิ่วลม” ไปอีก 3.5 กิโลเมตร เพื่อขึ้นสู่จุดยอด “ดอยผ้าห่มปก” ไปชมแสงแรกจาก “พระอาทิตย์ขึ้น” ในยามเช้า ซึ่งการเดินป่าในเวลาที่ฟ้ายังมืดแบบนี้ ต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิดอันตราย และหลงป่าได้
เห็นป้ายนี้เมื่อไหร่ บอกกับตัวเองได้เลย คุณคือผู้พิชิต “ดอยผ้าห่มปก” ยอดดอยที่มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย ที่มีความสูง 2,285 เมตร จากระดับน้ำทะเลเรียบร้อย ความเหนื่อยล้าจากการเดินขึ้นเขากว่า 2 ชั่วโมง หายเป็นปลิดทิ้งเมื่อได้เห็นภาพ “ทะเลหมอก” สุดอลังการ ที่ลอยปกคลุมภูเขาเบื้องหน้าจนไม่เห็นอะไรเลย และอากาศยังหนาวสุด ๆ ซึ่งมันคุ้มค่ากับการเดินทางมาเยือนจริง ๆ
และนี่คือบรรยากาศช่วงเดินลงจากยอดดอยผ้าห่มปก ตลอดเส้นทางจะพบ “ป่าไม้เขียวขจี” ที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก ๆ แม้ทางจะชันบ้าง แต่ช่วงขาลงพอฟ้าสว่างแล้ว เดินง่ายกว่าขาขึ้นเยอะเลย
ถึงเต็นท์เรียบร้อย ปิดทริป 2 วัน 1 คืน พิชิต “ดอยผ้าห่มปก” สัมผัสลมหนาว บนยอดเขาสูง 2,285 เมตร ซึ่งเราอยากจะบอกว่าตลอดเส้นทางการท่องเที่ยว เป็นการผจญภัยที่สนุกมาก ๆ และดีใจจริง ๆ ที่ได้มาเห็นทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ ใครอยากมาฟินแบบเราอย่ารอช้า หาวันว่างให้พร้อม แล้ว Go to “เชียงใหม่” ได้เล๊ยยย !!
อ่านที่เที่ยวเชียงใหม่ เพิ่มเติม