ในที่สุดทริปแสนเก๋สุด ๆ กับการเดินทางขับรถตะลอนยาวนานกว่า ๆ 400 กิโลเมตร เพื่อไล่ล่าภาพของทุ่งนาสีเขียวและภูเขาหินปูน หลังตกหลุมรัก “เนินมะปราง” จากภาพถ่ายที่เคยนำมาทำคอนเทนต์เมื่อหลายเดือนกัน เพื่อดูให้เห็นกับตาว่าเนินมะปรางจะสวยแค่ไหน มันได้เริ่มขึ้นแล้ว
Let’s go. ไป…กันเถอะ
พวกเราออกเดินทางออกจากกรุงเทพ ตอนเวลา 11.00 น. ตั้ง Google Map มุ่งหน้าสู่เนินมะปราง โดยวิ่งเส้นทางหลัก ถนนสายเอเชีย การเดินทางไม่ลำบาก ยิ่งตรงยาวอย่างเดียว
***หากไปตาม Google Map มันจะบอกให้เราเลี้ยวซ้ายวิ่งเส้นอำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งพวกเราก็ไปตามครับ ทางเส้นนี้เป็นทางสายเก่าวิ่งยากกว่าเส้นหลัก เป็นถนน 2 ช่องทางและที่สำคัญมีรถใหญ่เยอะมาก เลยอยากแนะนำให้วิ่งตรงอย่างเดียวเลยครับ
แล้วค่อยมาเลี้ยวขวาที่แยก “สากเหล็ก” หลังจากนั้นก็วิ่งยาวไปประมาณ 30 กว่ากิโลจึงเลี้ยวซ้ายไปยังอำเภอเนินมะปราง วิ่งตรงไปสักพักก็จะถึงโรงเรียนเนินมะปรางศึกษา ตรงนี้จะเป็นสามแยกหากแยกซ้ายจะเป็นทางเข้าตำบลบ้านมุง ซึ่งถือเป็น “แลนด์มาร์ค” และไฮไลท์แรกของที่นี้
จุดหมายแรกของพวกเรา
พวกเราถึงเนินมะปราง ประมาณ 4 โมงกว่า ๆ ได้ครับเลยลองขับรถสำรวจไปเรื่อยๆ ถนนส่วนใหญ่ของที่นี้เป็นถนนลูกรัง รถใหญ่ขับได้แต่ลำบากพอสมควร
ด้วยเนินมะปรางเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ จึงทำให้ไม่มีป้ายบอกทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวให้เราได้เห็น ดังนั้นวิธีที่แก้ปัญหาได้ดีที่สุดคือถามชาวบ้านแถวนั้นเอา และมักได้คำที่ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก ตอบแบบว่าพวกเราอยู่ที่นี้มานานแล้ว >.<
พวกเราขับชมรอบหมู่บ้านไปเรื่อย วิวข้างทางก็สวยอยู่นะ แต่!! แล้วความเขียวของท้องนาหายไปไหน? คิดในใจแล้ววิว slow life ที่เค้าโพสกันแชร์กันละอยู่ไหนครับ
กระท่อมกลางนาในตำนาน ที่มักปรากฎขึ้นตามรีวิวเกือบทุกอัน แต่คราวนี้เราเจอแต่ความแห้งแล้งเพราะต้นข้าวที่เคยเขียวขจีในภาพได้ถูกตัดไปหมดแล้ว
บรรยากาศสองข้างทางเป็นทุ่งนา(ที่เก็บเกี่ยวแล้ว) ไร่ข้าวโพด, ไร่อ้อย และไร่มันสำปะหลังสลับกันไป แม้จะดูแห้งแล้งไปหน่อย แต่มันก็สามารถยั่วยวนให้พวกเราลงไปถ่ายรูปเล่นกันจนได้ 🙂
ในที่สุดก็มาถึงเนินมะปรางแล้วนะ
ต้นไม้ใหญ่ตรงปากทางเข้าวัดบ้านมุง
เส้นทางในหมู่บ้านเงียบสงบ แล้วแต่และวังเวงจริงๆ ปลอบใจตัวเองมันคงไม่มีอะไรหรอก แต่เด็กกรุงเทพอย่างเราเหรอจะสำรวจต่อ ขับรถกลับเข้าหมู่บ้านสิครับ!!
กลับมาตั้งหลักกันที่จุด “แลนด์มาร์ค” กลางหมู่บ้าน “บ้านมุง” เพื่อรอดูฝูงค้างคาวนับล้านๆตัวบินออกจากถ้ำบ้านมุงหากินยามเย็น แต่เรามาเร็วไปเลยต้องรอค้างคาว ระหว่างรอก็เดินเล่นแล้วก็พูดคุยกับชาวบ้าน คนที่นี้ใจดีครับ วันนี้ค้างคาวออกช้าน้องบอกว่าคงยังตั้งแถวไม่เสร็จ
ในที่สุดเราก็ได้เห็นฝูงค้างคาวบินต่อแถวยาวเหยียดหลายกิโลเมตร จุดนี้ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุด อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของที่นี้ แม้จะต้องใช้เวลาในการรอนาน แต่ถือว่าคุ้มครับ
คืนนี้นอนไหน?
ปัญหาเริ่มมาเยือนแล้ว เพราะทริปนี้เราไม่ได้จองที่พักไว้ ดังนั้นต้องหาที่พักให้ได้ก่อนมืด โชคดีที่ขามาระหว่างขับรถได้มองที่พักไว้บ้าง มีหลายแห่งปลูกอยู่กระจัดกระจ่าย เหลือแค่ Walk in เข้าไปสอบถาม
***แต่หากวันหยุดยาวช่วงเทศกาลแล้วแนะนำให้โทรไปสอบถามจองที่พักไว้ก่อนครับ
“พ่อแร่รีสอร์ท” คือเป้าหมายของคืนนี้เพราะอยู่ห่างจากจุดแลนด์มาร์คไม่มากนัก กลับออกมาเจอถนนใหญ่เลี้ยวขวาก็จะเห็นรีสอร์ทอยู่ทางขวามือ
โชคดีที่มีห้องว่าง ที่พักของเราคืนนี้เป็นบ้านหลังเล็กๆ มีราคาคืนละ 350 บาทเป็นแบบพัดลมและราคา 450 บาทเป็นแบบห้องแอร์ ตัวบ้านสะอาดมีทีวี และเครื่องทำน้ำอุ่นด้วย
***แต่ตอนกลางคืนค่อนข้างเสียงดังเพราะมีหนูเล่นอยู่บนหลังคา มีาน้องที่ไปด้วยนอนไม่หลับเลยเพราะนึกว่าเจอดีให้แล้ว เราเองพอได้ยินน้องเล่าตอนเช้าก็แอบขำ
เบอร์ติดต่อของพ่อแร่รีสอร์ท 062-042-2685
มื้อแรกที่เนินมะปราง
สำหรับคืนแรกพวกเราฝากท้องที่ร้านอาหารหารในตัวเมือง ลักษณะเป็นเหมือนร้านคาราโอเกะ ซึ่งมีอยู่หลายร้านเหมือนกัน ตัวอาหารมีให้เลือกไม่มากนักส่วนใหญ่เป็นแนวของกินเล่นและกับแกล้ม
เพราะต้องหาธรรมชาติ ท้องนาและวิวภูเขาสีเขียวให้เจอ
วันนี้ตั้งใจตื่นเช้า 06.00 น. ก็พากันกระโดดขึ้นรถ ไหนๆ ก็ไหนแล้วๆ แวะไปตลาดกันก่อนหาอะไรรองท้อง อยากมีความรู้สึกแบบคนต่างจังหวัด สองข้างทางระหว่างไปตลาดเต็มไปด้วยไร่ข้าวโพดเล็ก ๆ
ตัวตลาดค่อนข้างเล็กครับ มีของขายไม่มากนัก ของกินที่พอกินได้มีน้อยมาก อาจด้วยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเกิดใหม่ ยังไม่มีการจัดการในเชิงธุรกิจมากนัก วิถีชีวิตจึงยังคงเป็นแบบเดิม
เสร็จจากตลาดก็กลับมาตั้งหลักที่รีสอร์ทอีกครั้งเป้าหมายคือหาวิวท้องนาให้ได้ เริ่มด้วยการหาข้อมูลจากคนที่ดูแลที่พัก ในที่สุดเราก็รู้ว่าต้องไปที่ไหน
เริ้มด้วยออกจากตัวรีสอร์ทแล้วเลี้ยวซ้ายมาเรื่อย ๆ ตัวถนนทำจากดินลูกรังสีแดงสองข้างทางเป็นไร่มะม่วงยาวขนานไปกับถนน แนะนำว่าควรหาจักรยานซักคันปั่นชมทางไปอย่างช้าๆ ผมว่าเพลินดีนะ(รถใหญ่ไม่เหมาะ) ขับรถเลาะไปเรื่อยๆ ตามเส้นทางยาวไปเรื่อย ๆ มุ่งหน้าสู่เขาหินปูน
มีป้ายเล็ก ๆ แต่สีแดงชัดเจนคอยบอกทางไป “ถ้ำผา-นาคิน”
เพิ่งรู้เหมือนกันว่าที่เนินมะปรางเค้าปลูกยางพารากันด้วย ดังนั้นริมถนนสองข้างทางเชิงเขาจึงเห็นแต่ต้นยางพาราและต้นมะม่วงอยู่มากมายเพราะเนินมะปรางเป็นแหล่งปลูกมะม่วงขายส่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย
แวะชักภาพกันเบา ๆ
ในที่สุดเราก็ได้ยลโฉมกับท้องนาและภูเขาหินปูนสลับกันไปมาที่ทอดยาว รอบ ๆ หมู่บ้าน จนชาวบ้านขนานนามให้ว่า “คุนหมิงเมืองไทย” อีกแห่งครับ
วันนี้อากาศไม่เป็นใจมากนักเพราะมีสายหมอกบาง ๆ ล่องลอยเหนือขุนเขาใหญ่ สายหมอกบางๆ ทำให้มองวิวตรงหน้าเบลอๆ จนรู้สึกไม่สบายตา
ทุ่งนากับข้าวเขียวขจี สลับกับแนวทิวเขาหินปูนที่สวยงาม
เป้าหมายต่อไปคือ “อนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำคลองสากเหล็ก–บ้านมุง” เป้าหมายที่ตั้งใจ เมื่อขับรถเข้าไปสักพัก เขาหินปูนมากมายเริ่มทยอยอวดโฉมให้เห็นใกล้ ๆ แต่เราไม่สามารถถ่ายภาพมันได้ถนัดเพราะไร่อ้อยสูง ทำให้ไม่สามารถเข้าไปใกล้ได้ คงได้แค่ยิงกล้องบันทึกภาพจากไกลๆ
เส้นทางที่วิ่งผ่านที่พักนั้นสามารถนำพวกเราไปสู่ “อนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำคลองสากเหล็ก–บ้านมุง” อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว
ทิวเขาหัวโล้นที่ตั้งตะหง่านหลังไร่อ้อยและมันสำปะหลัง
แสงแดดเริ่มไล่มาอย่างช้า ๆ ในที่สุดก็ถึงเวลากลับรีสอร์ท เพื่อ check out และเตรียมตัวสำหรับไปไหว้พระขอพร “พระพุทธชินราช” ณ วิหารด้านตะวันตกในวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
จริง ๆ แล้วที่เนินมะปรางมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ยิ่งเป็นพวกถ้ำด้วยแล้วมีเยอะมากทุกตำบลมีถ้ำเกือบหมด แต่พวกเราไม่ชอบถ้ำอ่ะ เลยไม่ได้แวะ…
หลังจากได้มาสัมผัสด้วยตัวเองทำให้เราตกหลุมรักอำเภอเล็ก ๆ อย่างเนินมะปรางนี้เข้าเต็ม ๆ ทั้งที่บางคนบอกว่าที่นี่ไม่เห็นมีอะไรเลย
อากาศที่บริสุทธิ์รายล้อมไปด้วยขุนเขา ทุ่งนาสีทองมองแล้วทำให้รู้สึกสบายใจ ทั้งหมดตรงหน้าคือ เสน่ห์ ของที่นี่ แต่แอบเสียดายที่เรามาผิดฤดู หากได้มาเยือนช่วงปลายฝนต้นหนาวคงฟินกว่านี้ครับ
ลากันไปด้วยภาพน้อง “ริชชี่” ครับ มันเป็นภาพที่ผมชอบมากที่สุดของการออกทริป 🙂
“เนินมะปราง” เป็นอีกหนึ่งทริปของการเดินขับรถท่องเที่ยวสุดประทับใจที่ไม่มีวันลืม….
สำหรับใครที่สนใจอยากมาเที่ยว สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวอื่นๆ ได้ที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอำเภอเนินมะปราง ตั้งอยู่หน้าเทศบาลเนินมะปราง สอบถามเส้นทาง ที่พัก แหล่งท่องเที่ยว โทร.085-400-1727