ชวนไปลอง ของดีที่ร้าน “Brasserie Cordonnier” กัน

ชวนไปลอง ของดีที่ร้าน "Brasserie Cordonnier" กัน

บ้านเรามีร้านอาหารฝรั่งเศสมากมายเปิดใหม่แทบจะทุกวัน  และต่างก็นำเสนอเอกลักษณ์โดดเด่นกันไปต่าง ๆ นานา แต่จะมีร้านอาหารฝรั่งเศสกี่ร้านที่เสริฟกลิ่นอายของฝรั่งเศสจริงๆ ให้เราได้ลิ้มลองกัน

วันนี้เราจะพาไปกินของดี ที่ร้าน Brasserie Cordonnier อ่านว่า บราสเซอรี กอร์ดอนนิเยร์ อาหารฝรั่งเศสกลางซอยนานากันครับ

Brasserie Cordonnier (3)บรรยากาศภายในร้านที่เมื่อเข้าไปแล้วทำให้เราคิดถึงการย้อนกลับยุคในช่วงทศวรรษ 1930 ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ ที่นำมาตกแต่งร้าน รวมไปถึงสีของไฟภายในร้าน ทำให้ร้านถูกยกระดับให้ดูพรีเมี่ยมหรูหรายิ่งขึ้น

Brasserie Cordonnier (7)Brasserie Cordonnier (10)Brasserie Cordonnier (9)Brasserie Cordonnier (6)Brasserie Cordonnier (8)Brasserie Cordonnier (4)เริ่มต้นกันด้วยเมนูคลาสสิกที่เหมาะสำหรับทานเรียกน้ำย่อย Coldcuts & Cheeses Platter (480++) ชีส 3 ชนิด ประกอบด้วย Rocamadour (Goat Cheese) Fourme D’Ambert (Blue Cheese) และ Homemade Fresh Cottage Cheese และโคลด์คัท 3 ชนิด ประกอบด้วย Rossette (dry sausage) Jambon de Pays (cured ham) เสิร์ฟมาพร้อมแตงกวาดอง มะกอก และ มะเขือเทศแห้ง และ Homemade Pork and Pistachio terrine

Brasserie Cordonnier (27)thum Brasserie CordonnierBrasserie Cordonnier (22)ต่อกันด้วย  Chilled Ratatouille (280++) สตูว์ผัก ‘ราตาตุย’ อาหารสามัญประจำชาติชาวฝรั่งเศส ที่เชฟทวิสต์ด้วยการใช้เทคนิคผัดให้ร้อนแทนการต้ม โดยใช้มะเขือเทศ 3 แบบ ได้แก่ แบบสด แบบผสมบัลซามิก และแบบกงฟี (การตุ๋นน้ำมัน) โรยหน้าด้วยยอดอ่อนและเมล็ดทานตะวันกรุบกรอบเพิ่มสัมผัสและรสให้กลมกล่อม

Brasserie Cordonnier (21) Brasserie Cordonnier (19)มาที่ Terrine de Foie Gras Façon Cordonnier (560++) เมนูทานเล่นสุดหรู ของคนที่ไม่กลัวอ้วน เชฟนำฟัวกราส์หมักกับเกลือพริกไทยแล้วซูวีดก่อนบดแล้วแช่ในน้ำแข็ง กินกับบริออชโฮมเมดและชัตเนย์องุ่น

Brasserie Cordonnier (23) Brasserie Cordonnier (20)Brasserie Cordonnier (26)ซุปหัวหอม หนึ่งในคอมฟอร์ทฟู้ดของชาวฝรั่งเศส เสิร์ฟในถ้วยร้อนจัด French Onion Soup (280++) เมนูยอดนิยมที่ใครก็ติดใจ หอมใหญ่และแรดิชนำไปผัดจนหอมขึ้นสีน้ำตาลเข้ม ก่อนต้มรวมกับซุปไก่และดิจองมัสตาร์ด ตุ๋นจนเปื่อยยุ่ย ท็อปด้วยขนมปังฝรั่งเศสและชีสเอ็มเมนทอลแทนชีสกรูแยร์ตามปกติ รสชาติเข้มเต็มคำตั้งแต่คำแรกที่กิน

Brasserie Cordonnier (28) Brasserie Cordonnier (29)สำหรับเมนูเนื้อขอแนะนำ Beef Bourguignon (520++) แก้มเนื้อวัวออสเตรเลียนำไปหมักไวน์แดงหนึ่งคืน แล้วนำไปเคี่ยวไฟอ่อนๆ กับหอมใหญ่ กระเทียม และสมุนไพรหลากชนิด ปิดท้ายด้วยเห็ด แครอท และเบคอน เนื้อเปื่อยนุ่มแต่ไม่เละ รสชาติเค็มกลมกล่อม มีหวานเล็กน้อย กรุ่นกลิ่นไวน์และเบคอน ยิ่งหม่ำคู่กับขนมปังกรอบยิ่งอร่อยเพิ่มเป็นทวีคูณ

Brasserie Cordonnier (31)พลาดไม่ได้กับหอยทากฝรั่งเศส Burgundy Snails (390 บาท) หอยทากจากแคว้นเบอร์กันดีที่ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตหอยทากที่ดีที่สุดของฝรั่งเศสนำไปอบกับเนย กระเทียม และผักชีฝรั่ง (Parsley) และ เหล้าพาสติส เพื่อเพิ่มรสชาติและความชุ่มฉ่ำให้กับหอย เสิร์ฟมาในจานหลุมพร้อมอุปกรณ์ช่วยดึง เวลาทานให้ใช้คีมจับเปลือกหอยให้แน่นและใช้ส้อมดึงเนื้อ ส่วนน้ำซอสที่เหลือแนะนำให้ทาขนมปังตามแบบฉบับการทานของชาวฝรั่งเศส

Brasserie Cordonnier (39) Brasserie Cordonnier (42)Crispy Confit Pork Belly (420 บาท) หมูสามชั้นแช่น้ำเกลือหนึ่งคืนแล้วนำไป sous vide เสิร์ฟบนพูเร่หอมใหญ่ เสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งลูกเล็กที่ผ่านการ confit ผักร็อคเก็ต ต้นหอม และเนื้อแอปเปิลสไลซ์

Brasserie Cordonnier (32)Magret de canard poêlé (520++ บาท) อกเป็นเชอรี่ที่นำมา seared กับกระทะ ทานคู่กับมันฝรั่งบด สลัดผัก และซอสพิเศษของทางร้าน และยังเพิ่มความพิเศษเมื่อเสิร์ฟพร้อมกับฟัวกราส์ที่ seared มาอย่างดี

Brasserie Cordonnier (33)Brasserie Cordonnier (36)

เครื่องดื่มอยากให้ลอง With Love from Monet (350++) ที่หาดื่มไม่ได้จากที่ไหน ค็อกเทลรสเข้มที่ใช้เหล้าวิสกี้เป็นส่วนผสมหลัก ดัดแปลงจากเนโกรนียอดนิยม เสิร์ฟในกระป๋องเหล็กแบบพกพา พร้อมพู่กันและแยมเลมอนมะนาวโฮมเมด เวลาดื่มแนะนำให้ดื่มด่ำกับรสค็อกเทลฉบับดั้งเดิมก่อน จากนั้นค่อยลองหยิบพู่กันจุ่มแยมป้ายบนปากแก้วแล้วจิบชิม สร้างประสบการณ์ดื่มให้แปลกใหม่ คล้ายผลงานของโมเนต์ที่มองกี่ครั้งก็ไม่เคยหน่ายเลย

Brasserie Cordonnier (17)Moulin Sour (390++) เมนูที่ได้รับการดัดแปลงจาก New York Sour เมื่อสั่งเครื่องดื่มนี้ บาร์เทนเดอร์จะนำแก้วไปรมควันไม้เชอร์รี่เป็นอันดับแรก

Brasserie Cordonnier (18)

จากนั้นจะเตรียมค็อกเทลที่เบสด้วยสก็อตช์วิสกี้ที่ร้านเบลนด์เอง พร้อมผสมพอร์ตไวน์ ตามด้วยเห็ดทรัฟเฟิลเพื่อเพิ่มกลิ่น ทำให้ค็อกเทลแก้วนี้มีกลิ่นท่ีโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นของตัวเห็ดทรัฟเฟิลเอง หรือกลิ่นวิสกี้ และควันไม้ เหมาะสำหรับดื่มก่อนมื้ออาหาร (Aperitif)

Brasserie Cordonnier (16)

เราต้องปิดท้ายด้วยของหวานเสมอขอแนะนำ  Apple Tarte Tatin ทาร์ตตาแต็งแบบอัพไซด์ดาวน์ เนื้อแอปเปิลเป็นชั้นบางๆ กับพัฟเพสตรีบางเฉียบ กินกับไอศกรีมซินนามอน

Brasserie Cordonnier (41) Nougat glacé sauce fruits rouges (200++) เป็นขนมหวานเนื้อมูสเย็นๆ ภายในมีความหอมและกรุบกรอบจากถั่วนานาชนิดชนิดหนึ่ง ราดด้วยซอสเบอรรี่หอมๆเปรี้ยวๆ ตัดกับความหวานของ nougat glace ได้เป็นอย่างดี

Brasserie Cordonnier (43)Mousse Au Chocolat (180++) มูสช็อคโกแลต รสชาติมันเข้มข้น และเพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัสของมูสแนะนำให้ทานคู่กับช็อคโกแลตครัมเบิล และครีมช็องติยี่

Brasserie Cordonnier (40)พิกัดความอร่อย: 33/29,33/30 Sukhumvit Rd. Soi 11 Klong Toey Nua Wattana กรุงเทพมหานคร 10110 (ซอยสุขุมวิท 11 วัฒนา )
เวลาเปิด-ปิด: 18.00 – 00.00
โทรศัพท์: 02 038 5113
การจอง: chope.co
เว็บไซต์: www.cordonnierbkk.com
Facebook: www.facebook.com/cordonnierbkk

แผนที่:

Gallery ร้าน Brasserie Cordonnier