เก็บกระเป๋าไปพักผ่อนหน้าฝน ชมธรรมชาติ ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ สนุกสนานไปกับกิจกรรมสุดมันส์ในวันหยุดสุดผ่อนคลายที่ “River Kwai Village Hotel” จังหวัดกาญจนบุรี
“River Kwai Village Hotel” รีสอร์ทชื่อดังของจังหวัดกาญจนบุรี ให้คุณได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดในวันหยุดพักผ่อน ชิลไปกับบรรยากาศติดแม่น้ำแควน้อย สนุกสนานไปกับกิจกรรมมากมาย พร้อมผ่อนคลายไปกับบ่อน้ำพุร้อนแห่งเดียวในเมืองกาญจน์ ออนเซ็นระดับคุณภาพ และสปาชั้นดี มาพักผ่อนที่นี่จบในที่เดียว
เมื่อสายฝนยังคงโปรยปราย ได้เวลาเก็บกระเป๋าหาที่พักผ่อนแบบใกล้กรุง “จังหวัดกาญจนบุรี” คือคำตอบ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพ ประมาณ 3 ชั่วโมงนิด ๆ ขับมาทางน้ำตกไทรโยค ขับมาเรื่อย ๆ สังเกตทางซ้ายมือ ก็จะพบกับที่พักในทริปนี้ “River Kwai Village Hotel”
พอเข้ามาภายในพื้นที่ของรีสอร์ท “River Kwai Village Hotel” ก็จะพบกับธรรมชาติสีเขียวเต็มไปหมดเลย พร้อมทั้งชมความสวยงามของ “อุโมงค์ต้นไม้” สร้างความร่มรื่นตั้งแต่มาถึงที่พัก
“อุโมงค์ต้นไม้” ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์ของที่นี่ สิ่งสวยงามที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ลงไปเก็บภาพบรรยากาศ เดินชมวิว ชิลธรรมชาติ กันซะหน่อย
เดินชิล ชิล กับธรรมชาติ ก็เข้ามาถึงบริเวณในส่วนล็อบบี้ของ “River Kwai Village Hotel” ฮูเร่! หลักจากนั่งรถมาตั้ง 3 ชั่วโมง ก็ได้เวลายืดเส้น ยืดสายกันแล้ว … ภายในรีสอร์ทแห่งนี้นอกจากจะมีธรรมชาติที่ร่มรื่นแล้ว ยังเป็นแหล่งแช่บ่อน้ำพุร้อนแห่งเดียวในจังหวัดกาญจนบุรีอีกด้วย
เก็บกระเป๋าเข้าห้องพัก แล้วขึ้นเรือไปผ่อนคลายที่สปากันดีกว่าาาา …. การเดินทางมายังในส่วนของบ่อน้ำพุร้อนและสปา ตั้งอยู่ในพื้นของรีสอร์ท แต่ไม่สามารถเดินเท้ามาได้ จะต้องนั่งเรือมาเพียงเท่านั้น
ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ก็มาถึงที่ “Rock Valley Hot Spring & Fish Spa” ลงเรือปุ๊บ ก็สัมผัสถึงความผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติของที่นี่
ก่อนที่จะไปเปลี่ยนชุดเพื่อทำสปาและแช่บ่อน้ำพุร้อน มาทำความรู้จักกันก่อนดีกว่า “Rock Valley Hotspring & Fish Spa” แห่งนี้ เป็นน้ำแร่บริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ประกอบไปด้วย 15 บ่อ ได้แก่
- บ่อน้ำแร่ร้อนปรับระดับตามอุณหภูมิ 3 บ่อ
- บ่อสปาปลา (เล็ก-ใหญ่)
- บ่อชาจีน ชาใบหม่อน ว่างรางจืด
- บ่อดอกอัญชัน
- บ่อเปลือกส้ม ผิวมะกรูด ใบสะระแหน่
- บ่อกระเจี๊ยบแดง
- บ่อกาแฟ
- บ่อยูคาลิปตัส
- บ่อน้ำนม
- บ่อสมุนไพรไทย
- บ่อใบบัวบก
- บ่อน้ำแร่ร้อนระดับอุณหภูมิปกติ
เดินชมบรรยากาศรอบ ๆ บอกเลยว่าไม่แพ้กับการไปแช่ออนเซ็นที่ประเทศญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว ทั้งธรรมชาติที่ร่มรื่น และความเงียบสงบ ชมวิวเพลิน ๆ แค่คิดก็ฟินแล้ววว
ก่อนที่จะลงไปแช่บ่อน้ำแร่ร้อน ต้องมานวดสปา 5 ขั้นตอน เพื่อความผ่อนคลายจากการเดินทาง เริ่มต้นด้วยการนวดหน้า พร้อมขัดหน้าด้วยทานาคา และพอกโคลนจากภูโคลน “โคลนบ่อน้ำพุร้อน” จากจังหวัดแม่ฮ่องสอน ภูโคลน โคลนสุขภาพ 1 ใน 3 ของโลก เลยน้าาาาา ไม่ต้องไปถึงจังหวัดแม่ฮ่องสอน แต่มาที่ “Rock Valley Hot Spring & Fish Spa” ก็ได้น้า
ต่อด้วยการนวดเท้า ล้างเท้าด้วยน้ำขมิ้น นวดผ่อนคลายด้วยเกลือสปา ขัดเท้าด้วยเกลือสปา แล้วล้างเท้าด้วยครีมน้ำนม เพิ่มความผ่อนคลายไปกับการนวดคอ บ่าไหล่ สบายตัวสุด ๆ
จากนั้นก็ไปพอกตัวด้วยโคลน พอกไปชมบรรยากาศธรรมชาติไป พอรู้ตัวอีกทีตัวดำซะแหละ การพอกหน้าพอกตัวด้วยโคลนสุขภาพนั้น จะช่วยทำให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว สร้างเซลล์ใหม่เร็วขึ้น กระตุ้นผิวให้ได้รับออกซิเจนมากขึ้น พร้อมยังดูดจับความมันส่วนเกิน สารพิษตกค้างและสิ่งสกปรกฝังลึก และทำให้สบายตัวมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
หลักจากทำ 5 ขั้นตอนของทางสปา ได้เวลาแช่บ่อน้ำแร่ร้อน ถ้าแช่ทั้ง 15 บ่อ ตัวคงเปื่อยพอดี ฮ่า ๆ ดังนั้นจึงเลือกแช่บ่อที่ชอบที่สุด ได้แก่ “บ่อน้ำนม” ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิว ต่อต้านการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวเนียนนุ่ม และ “บ่อกระเจี๊ยบแดง” ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในผิวหนัง ช่วยทำให้ผิวขาวเนียนใส
และมาแช่น้ำผ่อนคลายสบายอารมณ์ ฟินกับธรรมชาติ และบรรยากาศที่เงียบสงบที่ “บ่อน้ำแร่ร้อนระดับอุณหภูมิปกติ” ก่อนเดินทางกลับไปยังฝั่งรีสอร์ทในโซนห้องพัก
พักอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ากันเรียบร้อยก็ถึงเวลาอาหารเย็นที่ “Jungle View” ระหว่างรอเดินชมบรรยากาศห้องอาหารของทางรีสอร์ท บอกเลยว่าใหญ่มว๊ากกก มีทั้งแบบโซนห้องแอร์ที่เพิ่งเปิดให้บริการ และโซนด้านนอก
ชมการแสดง “รำมอญ” วัฒนธรรมที่สวยงาม และความน่ารักของน้อง ๆ
อาหารเย็นของทางรีสอร์ทจะมีให้เลือกทั้งแบบอาหารไทย อาหารนานาชาติ และอาหารป่าที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดกาญจนบุรี เช่น ปลาคังลวกจิ้ม ผัดเผ็ดหมูป่า แกงป่าไก่บ้าน เมี่ยงปลาทับทิม และน้ำพริกลงเรือ แต่ละอย่างบอกเลยว่าน่ากินมากกก วัตถุดิบก็ดี แถมอร่อยสุด ๆ
กินของอร่อย หน้าตาก็จะฟิน ๆ แบบนี้
หลังจากกินมื้อเย็นกันเสร็จแล้ว เดินทางออกมาชมอีกหนึ่งไฮไลท์ของทางรีสอร์ทที่ “หมู่บ้านหิ่งห้อย” ที่ทางรีสอร์ทได้มีการเพาะพันธุ์ และเลี้ยงดูไว้แบบธรรมชาติ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มาพักได้มานั่งชมสิ่งสวยงามของธรรมชาติในยามค่ำคืน แห่งเดียวในจังหวัดกาญจนบุรี โดยการจัดออกเป็น 4 ฐานหลัก ๆ ให้มานั่งชมความสวยงามในยามค่ำคืนของเจ้าหิ่งห้อยตัวน้อย
ภายใต้ความมืดมิด และความเงียบสงบ พบกับแสงไฟดวงเล็ก ๆ ของ “หิ่งห้อย” วิบวับ บินผ่านไป ผ่านมา อยู่บริเวณด้านหน้า รู้สึกผ่อนคลายและสวยงามเป็นที่สุด แถมยังได้เห็นดวงดาวและท้องฟ้าที่สวยงามกันอีกด้วย
เริ่มต้นมื้อเช้ากันที่ห้องอาหาร Jungle View กับเมนูไข่ที่สั่งได้แบบไข่ดาวและออมเล็ต แฮม เบค่อน ไส้กรอก ขนมปัง ชา กาแฟ น้ำผลไม้
หลังจากอิ่มมื้อเช้า เดินชิล ชิล ผ่อนคลายกับบรรยากาศภายใต้ธรรมชาติที่ร่มรื่น ภายในรีสอร์ทจะมีการแบ่งโซนห้องพักออกอย่างชัดเจน บอกเลยว่าพื้นที่ของรีสอร์ทแห่งนี้ใหญ่มากกกกก
นอกจากธรรมชาติที่สุดร่มรื่น ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย พร้อมสระว่ายน้ำถึง 3 สระ ให้ได้มาเล่นน้ำ นั่งเล่น นอนเล่น พร้อมมุมพักผ่อนอีกเพียบบ
เดินเก็บบรรยากาศกันเสร็จ ได้เวลาของความมันส์กับกิจกรรมของทางรีสอร์ทที่จัดอยู่ในพื้นที่กว่า 30 ไร่ ที่ “Xtreme Centric Park” เริ่มต้นกันที่ Paintball Shooting ทดสอบความแม่นยำในระยะต่าง ๆ ด้วยปืนเพ้นท์บอล แล้วไปสวมวิญญาณ แคทนิส เอเวอร์ดีน ในภาพยนตร์ The Hunger Game ที่ฐาน Archery ธนู Recurve Compound ฝึกทดสอบสมาธิได้เป็นอย่างดี
ต่อมาอีกโซนกันที่ “สมรภูมิเพ้นท์บอล” สนุกสนานกันแบบเป็นทีม ยิงกันให้เพลิน ๆ กับการแบ่งฝั่ง ที่อื่นเล่นกันแบบชิงธง แต่ที่นี่เล่นกันแบบเป็นเวลายิงกันจนกว่าลูกกระสุนจะหมดกันไปข้าง ฮ่า ๆ
ไปสนุกกันต่อที่ “Zorbing Ball” ลูกบอลยักษ์ขนาด 3 เมตร กลิ้งลงมาจากด้านบนที่มีระดับความสูง 10 เมตร ด้วยระยะทางกว่า 200 เมตร ในส่วนนี้จะมีอุปกรณ์เซฟตี้และเจ้าหน้าที่ชำนาญงานคอยดูแลอย่างใกล้ชิด
มาต่อกันที่โซนความเร็วกับรถ ATV (All-Terrain Vehicle) รถขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่พร้อมลุยทุกพื้นที่และทุกสภาพพื้นผิวถนน และรถตีนตะขาบ (DTV Shardder) แห่งแรกและแห่งเดียวในเมืองไทย ที่มีการเล่นโดยการยืน และบังคับเหมือนการเล่นสเก็ตบอร์ด ขอบอกเลยว่าสนุกสุด ๆ กันไปเลย
สนุกสุดมันส์กับกิจกรรมความเร็ว ก็ไปต่อที่กิจกรรมสุดเสียวกับ “Rope Bridge” สะพานเชือกความยาว 70 เมตร สูงจากหน้าผา 20 เมตร เพื่อเดินไปปยังที่ฐาน “Sky Cycling” ปั่นจักรยานลอยฟ้าที่มีความสูง 20 เมตร ด้วยระยะทาง 100 เมตร ทดสอบความเสียว พร้อมชมวิวสวย ๆ ของธรรมชาติรอบข้าง กิจกรรมนี้ไม่ถึงแม้จะเสียว แต่อุปกรณ์เซฟตี้ของที่นี่รับรองว่าความปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้องห่วง
หลังจากสนุกสนาน เพลิดเพลินกับกิจกรรมสุดมันส์ สุดหวาดเสียว ขอถ่ายรูปเก็บภาพเป็นที่ระลึกกันซะหน่อยย กิจกรรมมันส์ ๆ แบบนี้ ถ้าใครมาพักที่นี่บอกเลยว่าต้องมาเล่นกันน้าา
และปิดท้ายด้วยกิจกรรม “Bamboo Rafting” ล่องแพเปียกและลอยคอแม่น้ำแควน้อย ชมวิว ชิลธรรมชาติ และสายน้ำที่เย็นสบาย ผ่อนคลายตามสไตล์เมืองกาญจน์
จบลงไปกับกิจกรรมสุดมันส์ของทางรีสอร์ท เข้าห้องพักอาบน้ำแต่งตัว
ที่พักภายในรีสอร์ท “River Kwai Village Hotel” จะมีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบด้วยกัน ทั้งแบบชมวิวภูเขา ชมแม่น้ำแควน้อย สามารถเลือกได้ตามที่คุณต้องการ แต่ถ้าใครอยากใกล้ชิดธรรมชาติของแม่น้ำแควน้อย ที่นี่มี “ห้องพักแพ” (Thai Raft Room) ให้ได้มานั่งชมวิว ชิลบรรยากาศแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ภายในห้องพักตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สวยงาม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องชงกาแฟ
บรรยากาศด้านนอกของ “ห้องพักแพ” (Thai Raft Room) สามารนั่งชมวิว ชิลธรรมชาติ รับลมเย็นสบาย
ชมบรรยากาศ “ห้องพักแพ” (Thai Raft Room) กันแล้ว ได้ขอพนักงานช่วยเปิดห้องให้ได้เก็บบรรยากาศเพิ่มเติม ไว้เป็นตัวเลือกในการมาพักผ่อน ระหว่างทางเดินเต็มไปด้วยธรรมชาติสุดร่มรื่น ฟังเสียงสายน้ำที่ไหลผ่าน มันช่างสบายตัวและเพลินหูสุด ๆ
“ห้องพักอาคารพลูวิง” (Pool Wing Room) สัมผัสธรรมชาติสีเขียว ๆ อย่างใกล้ชิด มองเห็นแม่น้ำแควน้อยแบบไกล ๆ ภายในห้องขนาดกว้างสวยงาม ตกแต่งด้วยสไตล์ Modern แบ่งโซนห้องนอน และโซนนั่งเล่นออกเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจน เหมาะกับการมาพักแบบครอบครัว พาเด็ก ๆ มาเล่นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ใกล้ห้องพัก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องชงกาแฟ
ภายในห้องน้ำมีการแบ่งโซนแห้ง โซนเปียก พร้อมอุปกรณ์เครื่องใช้ในห้องน้ำอย่างครบครัน
ด้านนอกระเบียงห้องพัก มีมุมพักผ่อนให้คุณได้ชมวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำแควน้อย
“ห้องคลิฟวิง” (Cliff Wing) โซนห้องพักบนอาคาร 3 ชั้น ด้วยการออกแบบดูทันสมัย เรียบง่าย แต่ดูหรู ใกล้ชิดวิวทิวทัศน์ทั้งภูเขาและแม่น้ำแควน้อย ภายในห้องมีขนาดกว้าง แบบแยกออกเป็นสัดส่วนทั้งมุมนั่งเล่น และมุมห้องนอน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แอร์ ทีวี ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องชงกาแฟ
ภายในห้องน้ำมีขนาดกว้าง แบ่งแยกโซนแห้ง โซนเปียก พร้อมอุปกรณเครื่องใช้ในห้องน้ำอย่างครบครัน
บรรยากาศด้านนอกระเบียง สามารถยืนชมวิว ชมธรรมชาติของภูเขา ชมสายน้ำแม่น้ำแควน้อย
เก็บภาพบรรยากาศมุมสูง กับธรรมชาติสีเขียวขจีในช่วงหน้าฝน สายน้ำที่ไหลเชี่ยวสร้างบรรยากาศสุดชิลในช่วงหน้าฝน รายล้อมอยู่รอบ ๆ รีสอร์ท “River Kwai Village Hotel”
หากใครกำลังมองหาที่พักผ่อนในช่วงวันหยุด หรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวาย แล้วไปใช้ชีวิตผ่อนคลายให้เต็มที่ ลองมาพักผ่อนที่รีสอร์ท “River Kwai Village Hotel” คุณจะได้สัมผัสถึงความพักผ่อนอย่างแท้จริง ชิลไปกับธรรมชาติ ผ่อนคลายไปกับบ่อน้ำแร่ร้อนและสปา สนุกสนานสุดมันส์กับกิจกรรมของทางรีสอร์ท … ลองมาพักกันน้า แล้วจะติดใจกับบรรยากาศ
พิเศษสุด! สำหรับเพื่อน ๆ แฟนเพจพาไป โทรจองห้องพักกับทางรีสอร์ท “River Kwai Village Hotel” ตั้งแต่วันนี้และเข้าพักภายในไม่เกินวันที่ 30 พ.ย. 62 เพียงแค่แจ้งรหัส “PaapaiiRKV” ก็รับส่วนลดค่าห้องพักไปทันที 50% พร้อมเยี่ยมชมหมู่บ้านหิ่งห้อยฟรี และยังได้รับส่วนลดกิจกรรม Xtreme ทุกชนิด 10 % อีกด้วย คุ้มสุด ๆ กันไปเลย
ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของทางรีสอร์ท River Kwai Village Hotel ได้ที่
- Website : https://www.riverkwaivillagehotel.com
- Facebook Fanpage : River Kwai Village Hotel
- 02-251-7828 (ออฟฟิศกรุงเทพ)
- 081-922-4661 (กาญจนบุรี)