หลังจากที่ ร้านสุกี้ Coca ได้สร้างชื่อเสียงจนเป็นที่รู้จักมานับสิบๆ ปีจะมีใครรู้บ้างว่ายังมีร้านอาหารไทยชื่อดังในเครือของร้านสุกี้ Coca อีกหนึ่งร้านที่มีดีไม่แพ้กันนั้นคือร้าน Mango Tree
ร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงไปหลากหลายประเทศทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งหมดนี้คือข้อมูลความเป็นมาของร้านแบบคร่าวๆ ที่ตัวผมเองก็เพิ่มทราบจากทีมงานเหมือนกันครับ
เกริ่นความเป็นมากันพอสมควรแล้ว เข้าเรื่องของเราดีกว่าสำหรับในวันนี้นั้นเราได้มีโอกาสไปลิ้มรสอาหารอร่อยๆ ที่ Mango Tree On The River ซึ่งตั้งอยู่ผ่านในโครงการยอดพิมานริเวอร์วอร์ค (Yodpiman Riverwalk)
ปล. งานนี้ต้องขอขอบคุณเพื่อนต้น แห่ง อุ๊ตะ อร่อย By Nuntisz น้องไนท์ แห่ง NightPhoomin และคุณพี่ Ken ที่หยิบยื่นอาหารดีๆ ของค่ำคืนนี้ให้บล็อกเกอร์ตัวน้อยๆ แห่ง พาไปดอทคอมปกติเคยไปแต่งานของคนไอที วันนี้เจองานของคนที่รักความสวยความงามเรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่สิ่งสวยงาม ผมนี่ลัลล่าตลอดทั้งคืน!!
แถมได้เจอคนดังหลายๆ คนไม่ว่าจะเป็นน้อง Tuniez83 หรือน้อง เอิ๊ก เอิ๊ก สองสาว Beauty Blogger ชื่อดังและบล็อกเกอร์คนดังอื่นๆ อีกมากมาย
ร้าน Mango Tree On The River ที่สาขา Yodpiman นั้นมีด้วยกันทั้งหมด 4 ชั้นครับแต่หากนับจริงๆ ก็เปิดให้บริการแค่ 3 ชั้นเท่านั้น
เพราะชั้นแรกเค้ามีไว้สำหรับปรุงอาหาร บรรยากาศของแต่ละชั้นเน้นความรู้สึกโปร่ง ทำให้ภายในแต่ละชั้นนั่งสบายมีพื้นที่กว้างขวาง ทั้งโซนอินดอร์และเอ้าดอร์
สามารถนั่งชมวิวพร้อมรับลมแบบสบาย ๆ แนะนำโซนเอาท์ดอร์ซึ่งเรียบง่าย มีพื้นที่กว้างขวางแบ่งเป็นสัดส่วนและทุกชั้นของร้านก็มีโซนเอาท์ดอร์ให้เลือกนั่ง
มาสำรวจต่อกันที่ชั้น 3 ครับเป็นส่วนของบาร์เครื่องดื่มที่เราคุ้นเคย…หากขึ้นมาชั้นนี้นั้นเราสามารถมองเห็นบรรยากาศริมน้ำในระดับสายตา ชั้นนี้เลยเป็นที่นิยมของนักดื่มทั้งไทยและเทศ
บวกกับยามค่ำคืนภาพที่เห็นเบื้องหน้านั้นคือเรือไฟ วิ่งผ่านไปมาทำให้ได้อารมณ์ไปอีกแบบ!!
สำหรับชั้นนี้นั้นมีดนตรีขับกล่อมในยามค่ำคืนด้วย หากทานอาหารอิ่มแล้วสามารถขึ้นมานั่งรับลมฟังเพลงแบบ ชิลล์ๆ ต่อได้ที่ชั้นนี่
ขึ้นสำรวจชั้น 4 กันนิดหน่อยดีกว่าครับ สำหรับโซนชั่นบนสุดนี้เป็นส่วนที่ Executive ที่สุดรับเฉพาะกรุ๊ปเหมาเท่านั้น รองรับคนได้ประมาณ 20-30 คนส่วนราคาคงไม่ต้องพูดถึง
ปิดท้ายกันด้วยภาพสวยๆของพระอาทิตย์ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า อยากถ่ายให้สวยกว่านี้แต่ทำได้แค่นี้จริงๆ ครับ
มาถึงเวลาสำคัญของค่ำคืนนี้แล้วครับ ได้เวลาหาของกินแล้วครับ
เวลคัมดริ้งของเราคือ Mango Tree Bellini ไฮไลต์เด่นของร้านซึ่งทำจากเนื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สดยกมาเสริฟแบบเย็นๆ ไม่ต้องพึ่งน้ำแข็ง
สำหรับเครื่องดื่ม Signature Mocktail ทั้งหมดในค่ำคืนนี้นั้นเป็นน้ำสูตรพิเศษของทางร้าน รสชาติออกเปรี้ยวนำ อนุญาตติดเรื่องชื่อของเมนูนี้ไว้ก่อนนะครับ
ออร์เดิร์ฟแรกสำหรับเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารจานหลักจะมา่ของเราในค่ำคืนนี้เป็น “เมี่ยงคำ” ของว่างแบบไทยๆ ที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์
เมี่ยงคำจะอร่อยหรือไม่อร่อยก็ให้สัง้กตุที่ “น้ำเมี่ยง” นี้แหละครับ สำหรับที่ Mango Tree นั้นรสชาติเข้มข้น อร่อยดีจริงๆครับ ถึงน้ำถึงเนื้อ..ทุกคำที่รับประทาน จัดมาพอดีคำในแก้วช็อตส่วนปลายนนั้นใช้ปลีกหั่นเป็นวงแหวนครอบทับมาอีกทีเพื่อความสวยงาม
เราเริ่มมื้อนี้ด้วย “สลัดปลาหมึกย่าง” สลัดผักกับปลาหมึกย่างราดด้วยน้ำสลัดใสๆ รสชาติเปรี้ยวๆ
มาที่จานหลักจานแรกกันครับ “ซี่โครงหมูลาบ” น้ำลาบรสชาติจัดจ้านตามตำรับลาบไทยที่บรรจงราดลงบน ซี่โครงหมูที่ผ่านการอบจนได้ที่ อร่อยมากจนเกือบเผลอกินเข้าไปเยอะ ทั้งกลิ่นหอมของข้าวคั่วและพริกเผา คุณเอ่ยพูดเลยเกือบเบรคไม่อยู่จริงๆ
มาต่อกันที่ “ต้มข่าไก่” สำหรับอาหารจานนี้สำหรับคนไทยแท้อย่างผมรู้สึกว่า หวานนำ มาก่อนเลยไม่ค่อยถูกปากนัก
อาหารจานหลักอีกอย่าง “แกงเผ็ดเป็ดย่าง” สำหรับจานนี้ผมว่าเด่นครับ ด้วยหากไม่เก่งจริงเรื่องเป็ดแล้ว ปัญหาตามมาแน่ เพราะเป็ดส่วนใหญ่มักมีกลิ่นสาบ แต่เมนูนี้เป็ดเนื้อนุ่ม กัดเข้าไปรู้สึกได้เนื้อเป็ดนุ่มไม่แห้ง ใช้พริกแกงทำเองและใส่ลิ้นจี่ และที่สำคัญไม่มีกลิ่นสาบแน่นอน
สำหรับใครไม่ชอบทานเป็นอยากแนะนำให้มาลองทาน “แกงเผ็ดเป็ดย่าง” ที่ Mango Tree On The River สักครั้ง
อีกจานเด่นที่ถือเป็นเมนู signature นั้นคือผัดไทยล๊อบสเตอร์ ผัดไทยที่เวลาทานแล้วทำให้ย้อนไปถึงอดีต รสชาติกำลังดี ไม่หวานแทบจะไม่ต้องปรุงเลย
แต่ที่เป็นไฮไลต์นั้นคือเค้านำล๊อบสเตอร์มาเป็นส่วนประกอบของผัดไทยนั้นเอง สำหรับราคาจานนี้นั้นตกเกือบ 3 พันบาทไม่อยากบอกราคาเต็มๆ เดี่ยวมีช็อคยังไงหาข้อมูลเพิ่มเติมเอาเองละกัน ยั่วไว้เท่านี้พอ!!
ที่จริงจานนี้น่าจะเป็นอาหารรองท้องคั่นจานหลักมากกว่านะ สำหรับ “ทอดมันกุ้ง” สำหรับจานนี้ผมไม่ได้ลองทานครับ มั่วแต่เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพและอีกอย่างมันมาแค่จานเดียว ยกให้สาวๆ เค้าละกัน
ของคาวจานสุดท้าย “สลัดปูอลาสก้า” จานนี้เนื้อปูหวานอร่อยมากส่วนผักอืนๆ เหมือนกับ “สลัดปลาหมึกย่าง”
ปิดท้ายด้วย “ข้าวเหนียวมะม่วง” จานนี้ผมชอบมากอาจจะเป็นเพราะสีสันของข้าวเหนียวมะม่วงในจาน และไอเดียของน้ำทะทิ ซึ่งใส่มาในแก้วใบเล็กๆ มีเนื้อเป็นทับทิมกรอบ กะทิหอมๆ ความอร่อยอยู่ที่ความฉ่ำของมะม่วงและความเข้มข้นของน้ำกะทิ ที่เข้ากันดี๊ดี…….
ส่งท้ายกันด้วยภาพสวยๆ ยามค่ำคืนถ่ายจากชั้น 3 ของร้านอาหารที่มีดีไม่แพ้อาหาร เพราะสามารถเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ยาวคดเคี้ยว และตึกระฟ้ายามคำ่คืนยาวสุดลูกหูลูกตา
สรุปสั้นๆ ว่า อาหารร้านนี้รสชาติดีไม่แพ้บรรยากาศ ส่วนใครที่กังวลเรื่องของราคานั้น ไม่ต้องคิดมากครับอาหารที่ MANGO TREE ON THE RIVER ทีให้เลือกทานหลายราคา ขึ้นอยู่กับอาหารที่สั่งมาราคาหลักร้อยก็มีครับ
และมากินลมชมวิวดูกันได้ การเดินทางก็สะดวกสะบาย MANGO TREE ON THE RIVER เปิดให้บริการทุกวัน ร้านอาหาร 11.00 น. – 23.00 น. บาร์ 11.00 – 01.00น. สำรองที่นั่งโทร. : 021100820
บทความรีวิวร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และแนะนำวางแผนเที่ยว เป็นบทความที่ทางเว็บขอสงวนลิขสิทธิ์ผลงานการเขียน ห้ามทำซ้ำ หรือคัดลอกเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อในเว็บอื่นๆ และสื่อตีพิมพ์ จนกว่าจะได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทีมงาน
:. ติดต่อทีมงาน Paapaii.com ได้ที่ E-Mail: paapaiiai@gmail.com .: