เมื่อลมหนาวไม่มา เราก็ต้องไปตามล่าหาเอาเอง! ในเมืองไทยของเราคงจะมีแต่บนยอดดอย หรือภูเขาสูง ที่จะพอได้สัมผัสกับฤดูหนาวที่แท้จริงบ้าง และช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์
ไฮไลท์สำคัญคือ “ดอกนางพญาเสือโคร่ง” หรือ ซากุระเมืองไทย ที่จะเบ่งบานออกดอก เนรมิตให้ภูเขาทั้งลูกกลายเป็นสีชมพู
หนาวนี้จุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่ชอบอากาศเย็นและดอกไม้สวยๆ คงต้องมี “ภูลมโล” อยู่ในแพลนวันหยุดอย่างแน่นอน แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่ามีสถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นประตูสู่ ภูลมโล นั่นก็คือ “บ้านร่องกล้า” ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก
ทริปสั้นๆ ครั้งนี้มีได้เพราะ “ณเดชน์ ” ไปถ่ายละครแล้วหลงเสน่ห์หมู่บ้านเล็กๆ อย่าง “บ้านร่องกล้า” จึงได้ยื่นมือเข้าไปช่วยสนับสนุนกิจกรรมของชุมชนอย่าง “ตลาดนัดเด็กดอย” ก่อนมาเชิญชวนแฟนคลับอย่างเรา รวมถึงนักท่องเที่ยวทั่วไป ให้ขึ้นไปสัมผัสความน่ารักของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้งแห่งนี้ด้วยกัน ตอนนั้นเราก็ไม่ได้คิดอะไร รู้แต่ว่าณเดชน์ไปก็ต้องไป ตามประสาแฟนคลับนั่นแหละ
การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ยังไม่มีรถโดยสารไปถึง ต้องเดินทางโดยรถส่วนตัว หรือนั่งรถทัวร์มาลงที่อ.นครไทย และติดต่อรถรับจ้างเพื่อขึ้นไปยังอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ใช้เส้นทางเดียวกับไปภูลมโลได้เลย คณะเราเดินทางด้วยรถตู้ตั้งแต่สายๆ วันที่ 4 ธันวาคม ยิงยาวจากกรุงเทพมาทางพิษณุโลก เพราะถนนหนทางดีกว่าขึ้นทางหล่มสัก เพชรบูรณ์ ไปถึงหมู่บ้านตอนเย็นๆ ซึ่งก็ได้จองที่พักไว้ที่ “ร่องกล้ากรีนวิว” เป็นบ้านพัก มี 4 เตียง นอนได้ 8 คน ราคาคืนละ 2,000 บาท
ยิ่งดึกอากาศยิ่งเย็นจนหายใจออกมาเป็นไอ จะมีอะไรดีไปกว่านอนซุกตัวในผ้านวม หรือหากใครยังไม่อยากนอน ออกมายืนดูดาวเต็มฟ้านอกระเบียง ก็ฟินไปอีกแบบ หากใครหิวก็มีร้านอาหารเปิดให้บริการ ทั้งหมูกระทะ อาหารตามสั่ง ร้านขายของชำก็มี สะดวกมาก หมู่บ้านเล็กๆ เดินถึงกันหมด
เช้าวันรุ่งขึ้น 5 ธันวาคม ตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่วิวจากที่พักจะไม่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเป็นสีส้มๆ อย่างที่ใจหวัง เพราะภูเขาบัง กว่าเจ้าก้อนส้มๆ จะโผล่พ้นแดดก็จ้าเกินไปเสียแล้ว แต่หากเป็นช่วงที่หนาวจัดๆ ตรงนี้คงเต็มไปด้วยหมอกแน่นอน
หลังกินลมชมวิวแปลงกระหล่ำปลี แปลงสตรอว์เบอร์รีจากหน้าบ้านพัก สัมผัสอากาศเย็นฟินๆ จนหนำใจ ก็อาบน้ำแต่งตัวแล้วเดินไปยังที่จัดงาน “ตลาดนัดเด็กดอย” โรงเรียนบ้านห้วยน้ำไซ สาขาร่องกล้าวิทยา ซึ่งจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันนี้ ตลาดตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้านไม่ไกลจากที่พัก สังเกตได้จากหลักกิโลเมตร 0 ตั้งตระหง่านอยู่นั่นเอง
ไปถึงตลาดนัดก็พบว่าพ่อค้าแม่ค้าตัวน้อย แต่งชุดประจำเผ่าสีสันสดใส เริ่มนำพืชผักผลไม้ปลอดสารพิษผลผลิตของครอบครัวมาตั้งร้านกันแล้ว เด็กและชาวบ้านที่นี่จะพูดคุยกันด้วยภาษาเผ่า แล้วก็สามารถคุยภาษาไทยกับเราได้ อาจจะมีแปร่งๆ ไปบ้าง แต่สื่อสารกันรู้เรื่องแน่นอน
แม่ค้าตัวน้อยแต่ละคนเพิ่งจะเรียนชั้นประถม ตื่นแต่เช้ามาขายของได้ก็เก่งแล้ว นั่งเฝ้าร้านช่วงไหนไม่มีลูกค้าก็กินขนมรอ น่าเอ็นดูมาก
ไปอยู่ที่นั่นแค่ไม่กี่ชั่วโมง คนเมืองอย่างเรารู้สึกอิจฉาคนที่นี่เหลือเกิน หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติ อากาศดีตลอดทั้งวัน ชุมชนนี้ผสมผสานความเป็นอยู่ระหว่างคนไทยและชาวไทยภูเขาเผ่าม้งอย่างลงตัว วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น เด็กๆ น่ารักสดใส ชาวบ้านน่ารักอัธยาศัยดี แม้อากาศจะเย็นแต่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของชุมชนเล็กๆ ไร้มลพิษเล็กแห่งนี้ ที่คนมาเยือนจะต้องหลงรัก
ที่นี่มีการเพาะปลูกพืชเมืองหนาวหลายชนิด เช่น กะหล่ำปลี แครอท หัวไชเท้าม่วง และอื่นๆ อีกมากมาย และนำมาจำหน่ายที่ตลาดนัดเด็กดอยในราคาไม่แพง และที่เป็นดาวเด่นของที่นี่ก็คือ “สตรอว์เบอร์รีร่องกล้า” พันธุ์พระราชทาน 80 ที่ทั้งหวานหอมอร่อย ขนาดลูกเล็กๆ ไม่แดงมากก็ยังหวาน
ที่สำคัญคือพืชผักที่นี่ปลูกแบบปลอดสารพิษ ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า พื้นที่เพาะปลูกที่นี่ค่อนข้างกว้าง ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลงมันแพง ใช้แล้วก็ไม่คุ้ม และยังอันตรายอีกด้วย ชาวบ้านเลยใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ทำมาจากขี้ไก่แทน เจ๋งสุดๆ
น่าเสียดายที่เราขึ้นมาเร็วไปหน่อย เพิ่งจะต้นธันวา เลยได้เห็นนางพญาเสือโคร่งออกดอกเพียงต้นเดียว แต่ชาวบ้านบอกว่า ช่วงปลายปี มกรา-กุมภา เมื่อดอกนางพญาเสือโคร่งบานสะพรั่ง ทั้งหมู่บ้านจะกลายเป็นสีชมพูงดงาม และจากที่บ้านร่องกล้านี้สามารถเดินทางไปเที่ยวได้ทั้ง ลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง ทุ่งดอกกระดาษ โรงเรียนการเมืองการทหาร รวมถึงภูลมโล และ ภูทับเบิก เรียกได้ว่าหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้เป็นประตูสู่การท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่ไม่อยากให้มองข้ามหรือเห็นเป็นแค่ทางผ่าน
อีกไม่นานดอกไม้จะบานสะพรั่งทั้งหมู่บ้าน แต่เสน่ห์แท้จริงที่อยากให้ทุกคนไปเยือนหมู่บ้านแห่งนี้ คือ ความน่ารักของชุมชน ทั้งคน สัตว์ สิ่งของ พืชผักผลไม้ คงต้องขอบคุณการเป็นติ่งณเดชน์ ที่ทำให้เราได้รู้จักสถานที่แห่งนี้ ถ้าใครอยากรู้ว่าหมู่บ้านธรรมดาๆ ทำให้คนตกหลุมรักได้ยังไง ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองถึงจะเข้าใจ และอาจจะได้พบความสวยงามยิ่งกว่ารีวิวนี้ก็เป็นได้
บ้านร่องกล้า มาเยือนได้ทุกวันตลอดทั้งปี ส่วน ตลาดนัดเด็กดอย เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ครูเทียน 086-205-9376 / ครูแซ็ก 086-203-3325