พาไป “สกลแลนด์” ดินแดนแห่งวัฒนธรรม

พาไป "สกลแลนด์" ดินแดนแห่งวัฒนธรรม

“สกลนคร” ดินแดนอารยธรรมเก่าแก่ของภาคอีสาน ที่ยังคงมีขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน มีประเพณีที่ขึ้นชื่ออย่าง “ประเพณีแห่ดาว” ของชาวคริสต์ที่จัดขึ้นทุกปี และพระธาตุคู่ขวัญประจำเมืองสกล “พระธาตุเชิงชุม” จนกลายเป็นอีกจังหวัดหนึ่งที่มีมนต์เสน่ห์แห่งดินแดนภาคอีสานของไทย จะน่าหลงใหลและน่ามาเที่ยวกันขนาดไหน เก็บกระเป๋าแล้วไปพร้อมกันเลย

แอดได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวจังหวัดสกลนคร ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา จีงอยากจะมาเชิญชวนให้เพื่อนๆ มาเที่ยวชมวัฒนธรรมความเก่าแก่และประเพณีท้องถิ่นของที่นี่กัน

การเดินทาง : ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองในช่วงเช้า ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็เดินทางมาถึงที่สนามบินสกลนคร

เริ่มตะลุยเที่ยวสกลนครกันที่ “ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม” ตั้งอยู่ที่อำเภอเจริญศิลป์ ระยะทางการเดินทางประมาน 90 กิโลเมตรจากสนามบิน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็มาถึงกัน

2

เข้ามาด้านในศูนย์ ก็จะพบกับเครื่องปั้นดินเผามากมาย มีลวดลายที่สวยงาม ให้ได้เดินชมกัน ถ้าใครสนใจจะซื้อกลับบ้านหรือจะซื้อไปเป็นของฝากก็สามารถซื้อได้เลย ราคาก็ขึ้นอยู่ที่ขนาดและลวดลายที่ต้องการซื้อกันครับ

73
4
1
3

หลังจากได้เดินชมเครื่องปั้นที่สวยๆ กันเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลามาเดินชมขั้นตอนการทำเครื่องปั้นกันบ้างละ ขอบอกเลยว่าที่นี่จัดระเบียบการทำงานเป็นขั้นตอนมากๆ จะมีการแบ่งกันเลยว่า คนไหนจะเป็นคนปั้น, ใครจะเป็นคนลงลายเส้น, ใครจะเป็นคนลงสี ซึ่งจะเป็นการทำงานแบบเป็นทีละขั้นตอนไป จนกลายเป็นเครื่องปั้นที่สวยงามมาให้ได้ชมกัน

74
68
75
69
71
72
67

พิเศษสุดๆ เลยทางศูนย์ ได้มีการให้การเข้าร่วมกิจกรรมวาดลวดลายลงบนผลิตภัณฑ์เครื่องปั้น หลังจากทำเสร็จแล้วทางศูนย์จะทำการส่งมาให้ถึงที่กรุงเทพกันเลยทีเดียว ใจดีสุดๆ เลย

70

ที่ “ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม” ถือได้ว่าเป็นศูนย์รวมฝึกอาชีพของคนอำเภอเจริญศิลป์ ที่จะมารวมตัวศึกษาขั้นตอนต่างๆ จากผู้ชำนาญงานจากกรมศิลปากร เพื่อจะมาเรียนรู้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของแต่ละคนกัน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนครที่น่ามาเที่ยวชมกัน

หลังจากได้เที่ยวชมที่ศูนย์กันเสร็จแล้ว ก็เดินทางไปต่อที่ “บ้านท่าแร่” ชุมชนคาทอลิก เพื่อมารอชม “ประเพณีแห่ดาว” ประเพณีขึ้นชื่อของตำบลท่าแร่ ที่จะจัดชึ้นทุกปีในช่วงวันคริสต์มาส การเดินทางจากศูนย์มาถึงบ้านท่าแร่ ประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที ก็จะถึงชุมชนบ้านท่าแร่กัน

พอถึงบ้านท่าแร่กันแล้ว ก็มุ่งต่อไปที่ “อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล” มีนักท่องเที่ยวต่างๆ รวมไปถึงคนท้องถิ่นก็เริ่มออกมารวมตัวกันที่นี่ เพื่อที่จะมารอรับชมประเพณีแห่ดาว ที่จะเริ่มขึ้นในเวลา 19.00 น.

5

มีการประดับดวงดาวตามต้นไม้ กิ่งไม้ต่างๆ ด้านรอบโบสถ์ ยังมีการจัดซุ้มต่างๆ ตามประเพณีของชาวคริสต์กันอีกด้วย

6
77
76

และแล้วก็ได้เวลาของการเริ่ม “ประเพณีแห่ดาว” ของชุมชนบ้านท่าแร่ กันแล้ว  ซึ่งวันนี้จะเป็น “ขบวนรถดาวใหญ่” มาดูกันดีกว่าว่าจะสวยงามขนาดไหน

เริ่มต้นด้วยขบวนแรกจาก “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” โดยมีรองอันดับ Miss All Nation Thailand 2 คน นั่งโบกมือโชว์ความสวยงามให้กับนักท่องเที่ยวรอบข้างกันด้วย

18
16
17
20

หลังจากขบวนแรกผ่านไปก็จะมีขบวนของชุมชนต่างๆ ที่นำมาร่วมพิธีกันทยอยตามกันมา จนทำให้ถนนเส้นนี้กลายเป็นถนนแห่งดวงดาว สีสันสดใสทั่วถนน มีความสวยงามสุดๆ กันเลยทีเดียว

7
9
15
8
13
12
11

พอชมการแห่ขบวนรถดาวใหญ่กันเสร็จแล้ว ท้องก็เริ่มร้อง หิว หิว … เลยเดินหาของกินข้างทาง พร้อมซื้อกลับไปกินต่อที่พัก เป็นการจบการท่องเที่ยวสกลนครในวันแรกครับ

14

นอนเต็มอิ่ม ตื่นมาก็ได้เวลาไปเที่ยวต่อได้ … เริ่มต้นการเที่ยวสกลนคร วันที่ 2 กันที่ “ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพาน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ” การเดินทางจากที่พักประมาน 17 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็จะมาถึงที่นี่กัน

37

ด้านในศูนย์มีรถรางไว้บริการสำหรับนักท่องเที่ยว ให้ได้นั่งชมภายในศูนย์ โดยมีวิทยากรคอยบรรยายให้ฟังตลอดทั้งเส้นทาง

กิจกรรมของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานฯ ครอบคลุมทุกด้านที่มีผลต่อการพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมอันเหมาะสมแก่สภาพพื้นที่ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของราษฎรในพื้นที่ เริ่มต้นที่ งานศึกษาและพัฒนาการเกษตรกรรม ให้ได้ชมการปลูกเห็ด ปลูกข้าว และพืชพันธุ์ต่างๆ

24
25
26
27
28

ต่อมาจะเป็นงานส่งเสริมและพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการประมง มีกิจกรรมให้ได้ร่วมเล่นโดยการป้อนอาหารปลาคราฟในบ่อปูน และมีการสอนการเลี้ยงเป็นบนบ่อปลา โดยการใช้มูลของเป็ดเป็นอาหารของปลา

29
30

มาถึงไฮไลท์จุดสำคัญของศูนย์ “3 ดำมหัศจรรย์” ผลผลิตที่สำคัญของศูนย์ นั่นก็คือ ไก่ดำ, หมูดำ และโคดำ ซึ่งทั้ง 3 สัตว์ดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นผลผลิตที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสกลนครกันเลยทีเดียว

35
34
33
36

หลังจากที่ได้เยี่ยมชมและศึกษาเรียนรู้กันที่ศูนย์ศึกษาพัฒนาภูพานกันเสร็จแล้ว ก็เดินทางมาต่อกันที่ “ทะเลสาบหนองหาร” เพื่อที่จะนั่งเรือไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวอันซีนอีกแห่งของจังหวัดสกลนคร อัตราค่าโดยสารในการนั่งเรือ คนละ 150 บาท (ไป-กลับ) ใช้เวลาล่องเรือประมานครึ่งชั่วโมง

38

นั่งเรือชมวิวเพลินๆ ของทะเลสาบหนองหารกันสักพัก ก็ถึงแล้วที่ “เกาะดอนสวรรค์” เพื่อไปกราบไหว้พระขอพรกันบนเกาะ ที่บึงหนองหารและเกาะดอนสวรรค์แห่งนี้มีเรื่องลี้ลับและเรื่องเล่าขารกันมาอย่างยาวนาน ถ้าอยากรู้กันก็ต้องลองไปเที่ยวกันน่ะครับ

39
41
40

หลังจากเดินเที่ยวชมบนเกาะดอนสวรรค์กันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาล่องเรือกลับเข้าฝั่งเพื่อเข้ามาชมประเพณีแห่ดาววันที่ 2 กัน ระหว่างล่องเรือกลับ พระอาทิตย์กำลังค่อยเคลื่อนลงมาผ่านก้อนเมฆ เลยขอถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันสักหน่อย

42

มาถึงฝั่งกันแล้วก็เข้าไปต่อที่ “ชุมชนบ้านท่าแร่” ไปดูวิธีการทำดาวมือถือของคนท้องถิ่นกัน ซึ่งบอกเลยว่ากว่าจะได้ดาวมือถือออกมาแต่ละอัน ต้องใช้ทั้งความปราณีตและสมาธิ รวมไปถึงความเชี่ยวชาญกันอีกด้วย

79

หน้าตาของดาวมือถือที่ทำเสร็จแล้ว ก็จะสวยวิบวับ สีสันโดดเด่นประมาณนี้

43

หลังจากได้ไปดูการทำดาวมือถือกันเสร็จแล้ว ก็หาที่เดินเล่นเพลินๆ ในชุมชนท่าแร่ จนมาเจอมุมนึงเห็นแล้วถูกใจเลยทีเดียวกับ “ตึกร้างท่าแร่” อาคารเก่าแก่ที่สร้างมาเป็นร้อยปีหลังนี้ ถือว่าเป็นอีกมุมถ่ายรูปสวยๆ ของท่าแร่ ที่ยังคงมีความเก่าแก่และมีเสน่ห์ในตัวอยู่มากทีเดียว

44
46
45

เดินเพลินๆ ไปเรื่อยๆ ก็ถึงเวลาของประเพณีแห่ดาวในวันที่ 2 กับ “ขบวนแห่ดาวเล็กแบบดั้งเดิม (ดาวมือถือ)” ซึ่งถือว่าเป็นพิธีการแบบฉบับดั้งเดิมที่มีมาอย่างยาวนานของชุมชนคาทอลิกที่บ้านท่าแร่ ซึ่งมีคนร่วมเดินขบวนทั้งคนในพื้นที่ ทั้งเด็กเล็ก ผู้ใหญ่ รวมไปถึงโรงเรียนต่างๆ และยังมีนักท่องเที่ยวชาวคริสต์จากจังหวัดอื่นก็มาร่วมในประเพณีนี้กันอีกด้วย ขอทิ้งท้ายค่ำคืนวันที่ 2 ไปกับรูปบรรยากาศประเพณีแห่ดาวกันนะครับ

50
47
48
49

และแล้วก็เดินทางมาถึงการท่องเที่ยววันที่ 3 ในจังหวัดสกลนคร … เริ่มต้นกันที่ “พระธาตุภูเพ็ก” การเดินทางจากที่พัก 35 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 45 นาที

51

การเดินทางขึ้นไปกราบไหว้พระธาตุจะต้องเดินเท้าขึ้นบันได้ไป 491 ขั้น มาถึงตอนเช้าลมเย็นๆ ไม่ร้อนมาก มีธรรมชาติสีเขียวอยู่รอบๆ ตลอดขั้นบันได

52
53
54

ถึงแล้ว … “พระธาตุภูเพ็ก” จะมีองค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ ที่ยังคงมีความเก่าแก่ของสิ่งก่อสร้าง ให้ได้เข้ามากราบไหว้สักการะขอพรกัน

57
58
56

ขอพรกันเสร็จแล้ว ก็มานั่งพักชมวิวบนยอดเขาภูพานกันสักหน่อย ก่อนจะเดินลงไปกัน

59
55

ลงมาถึงด้านล่าง ก็ออกเดินทางกันต่อเลยที่ “ศูนย์ฝึกอาชีพชุมชนบ้านดอนกอย” อำเภอพรรณานิคม การเดินทางจากพระธาตุภูเพ็ก 24 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ก็จะถึงศูนย์กัน

60

ภายในศูนย์ก็จะได้พบกับช่างฝีมือทอผ้าระดับมืออาชีพ นั่งทอผ้ากันอย่างจริงจัง พอไปยืนดูแล้วอยากลองทำบ้างจัง … แต่อย่าดีกว่า ฮ่าๆ

62
61

กว่าจะมาเป็นสินค้าที่สวยงามขนาดนี้ออกมา ก็ต้องผ่านขั้นตอนต่างๆ ที่ต้องใช้ความชำนาญกันเลยทีเดียว

63
64

ปิดท้ายทริปจังหวัดสกลนคร กันที่พระธาตุคู่เมือง “วัดพระธาตุเชิงชุม” ปูชนียสถานสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสกลนครมาแต่โบราณ เพื่อกราบไหว้ให้เดินทางกลับบ้านโดยความปลอดภัย

65
66

จบแล้วน่ะครับ กับทริป 3 วัน 2 คืน กับการเที่ยวชมวัฒนธรรมและประเพณีของจังหวัดสกลนคร ยังมีที่เที่ยวอีกมากมายในจังหวัดสกลนครท่ีน่าไปท่องเที่ยวกัน ใครที่กำลังมีแพลนไปเที่ยวสกลนคร ลองแวะไปเที่ยวแบบแอดกันได้นะครับ