ถ้าพูดถึงฮ่องกงแล้ว คนส่วนใหญ่ก็จะต้องนึกถึงของกินอร่อยๆ หรือไม่ก็ที่ช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์
Let’s Go……..
เริ่มด้วยภาพสวยๆ ของพวกเราบนเครื่องบินเรียกได้ว่า กดชัตเตอร์กันรัวๆ มุมยอดนิยมที่เชื่อเหอะใครก็อดใจไม่ไหวต้องถ่ายทุกครั้งที่ได้บิน….
บินจากกรุงเทพไม่นานสองชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้ว Hongkong International Airport สวัสดีฮ่องกงที่รัก แค่ลงจากเครื่องบินแบบที่ว่ายังไม่ออกจากสนามบิน เราก็มีมุมสวยๆ ให้ถ่ายรูปเพียบ!!!
เริ่มด้วยมื้อเที่ยงที่ภัตตาคารที่ชื่อว่า Federal Palace ตั้งอยู่ใน Citygate Outlet ของอร่อยที่นี่คือ ติ่มซำ ครับ แต่พวกสั่งอาหารหลักมากินกัน(หิวข้าว) เมนูมีภาษาอังกฤษและภาพอาหาร สะดวกในการออเดอร์…
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเดินทางต่อไปหมู่บ้านนองปิง จุดหมายแรกที่พวกเราจะไปไหว้พระกัน และเราต้องนั่งกระเช้า Ngong Ping 360 เพื่อขึ้นไปบนเขาด้วยเพราะ พระใหญ่ลันเตาประดิษฐ์สถานอยู่บนเขา
นั่งกระเช้าลอยฟ้าข้ามอ่าวฮ่องกงเพื่อเดินทางไปไหว้พระองค์ใหญ่ จุดไฮไลท์ก็คือกระเช้าพื้นใส ที่สามารถมองเห็นวิวได้ 360 องศาแต่ถ้าใครกลัวก็สามารถเลือกนั่งแบบปกติได้ครับ นั่งประมาณ 20 นาทีกว่าๆ ครับ
ด้วยวิวรอบๆ กระเช้าที่สวยมากทำให้รู้สึกว่านั่งไม่นาน
วิวทิวทัศน์ฮ่องกงมุมสูงของตึกรามบ้านเรือน สะพาน สนามบิน ท้องทะเล เรียกได้ว่าสวยไปอีกแบบ แถมมีลมเย็นๆ พัดผ่านหน้า สดชื่นที่สุด!!
นั่งเพลินๆ ก็ถึงวัดด้านบนแล้วครับ วัดแรกในการไหว้ในทริป “ไหว้พระ เสริมเฮง กับซีพีที่ฮ่องกง”
ต้องเดินต่อไปอีกหน่อยครับ
ส่วนใครที่กลัวขึ้นไปข้างบนแล้วจะไม่มีอะไรกินหรืออยากได้ของฝากไม่ต้องกลัวเลยครับเพราะข้างบนมี Ngong Ping Village มีร้านค้าขายของที่ระลึกมากมาย แม้กระทั้งร้านกาแฟสตาร์บัค ก็ยังมี
วิวสวยๆ จากหมู่บ้านนองปิง
เมื่อถึงสถานีปลายทางต้องเดินอีกนิดหน่อยเพื่อนขึ้นบันได 268 ขั้น พระพุทธรูปเทียนถาน พระพุทธรูปทองสัมฤทธิ์ประทับกลางแจ้งองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากขออะไรก็มักจะสมความปรารถนา องค์พระใหญ่อีกมุมอีกหนึ่งมนต์เสน่ห์แห่งเกาะฮ่องกง คนฮ่องกงเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มากๆ ครับ
ลานขอพร เราต้องเดินไปยังจุดกึ่งกลางของลานนี้มีวงกลมอยู่ ให้มองหน้าองค์พระพร้อมทั้งกว่าบอกชื่อ นามสกุล ขอพรท่านพร้อมทั้งกล่าวคำว่าสาธุ ดังๆ ออกมา 3 ครั้ง
วิวท้องฟ้ายามเย็น จากบนกระเช้านองปิง Ngong Ping Cable Car ขากลับก็สวยไปอีกแบบครับ
การเดินทาง ขึ้นรถ MTR ลงที่สถานี Tung Chung Station ทางออก B >> จากนั้นเดินประมาณ 2 นาทีก็จะถึงสถานีขึ้นกระเช้า Tung Chung Cable Car Terminal
มาเที่ยวฮ่องกงรอบนี้เราเลือกพักที่ โรงแรม Eaton Hotel ส่วนตัวเราการวางผังเมืองของฮ่องกงนะ เพราะมันได้ฟิลแบบอยู่ประเทศทางฝั่งยุโรป จะถ่ายมุมไหน ยังไงก็สวย
Day 2
วันนี้เราจะไปนมัสการเทพเจ้าหวังต้าเซียน ซึ่งประดิษฐานที่วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple) มีผู้คนจากทั่วโลกเดินทางกราบไหว้มากมายส่วนใหญ่จะมาเพื่อขอพรด้านสุขภาพครับเพราะท่าน ท่านศักดิ์สิทธิ์มากๆ
ส่วนการไหว้คือขอพร 1 ครั้ง ใช้ธูปทั้งสิ้น 9 ดอก ปักธูปจำนวน 3 ดอก ที่กระถาง แล้วเดินต่อไปยังตำแหน่งที่สอง และที่สามตามลำดับ
บริเวณหน้าศาล เต็มไปด้วยประชาชนผู้ศรัทธาในองค์เทพเจ้าหวังต้าเซียน
บรรยากาศภายในวัดและรอบๆ วัด
ชาวฮ่องกงเชื่อว่าหากมาจับลูบตัวปี่เซียะ(วัดหวังต้าเซียน) แล้วจะโชคดี
แล้วเดินทางต่อไปนมัสการเจ้าแม่กวนอิฮ่องฮ่า ที่ศาลเจ้าแม่กวนอิม อันเก่าแก่ของฮ่องกง ตั้งอยู่ย่าน Hung Hom มีชื่อเสียงเรื่องการเสี่ยงเซียมซี
ศาลเจ้าเล็กๆ ที่ทุกคนเดินทางมายื่มเงิน(ขอกู้เงินท่าน) เพื่อเป็นศิริมงคล หากสมปราถนาแล้วเรานำมาคืนท่าน (อย่าลืมมาคืนท่านนะครับ)
อย่างที่บอกครับเมืองนี้มีมุมดีๆ ระหว่างทางให้เลือกถ่ายรูป แทรกตัวไปตามถนนต่างๆ เยอะแยะไปหมด
ในฮ่องกง แม้เมืองจะดูวุ่นวาย แต่หากได้ลองเดินตามซอกซอยดู คุณจะได้เจอมุมดีๆ ในการถ่ายรูปเพียบ
จากนั้นพวกเราก็เดินทางกันไปสู่ “วัดแชกุง” หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันว่า “วัดกังหัน” มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรให้สมหวัง ที่วัดจะเป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพแชกงหรือแม่ทัพแชกุงองค์โต ในท่ายืนถือดาบด้วยหน้าตาดุดัน
กระดาษเขียนคำอธิฐาน ราคา 39 เหรียญ เขียนอะไรลงไปก็ได้ เขียนบอกเล่าให้เทพเจ้าท่านรับทราบ
ตั้งจิตอธิษฐานขอสิ่งที่เราอยากได้ วิธีการหมุนหมุนกังหันคือใช้นิ้วชี้หมุนกังหันตามเข็มนาฬิกา หากปีชงหรือชีวิตไม่ดีให้หมุนไปซ้ายไปขวา ส่วนถ้าดีอยู่แล้วก็ให้หมุนกังหันกลับจากขวาไปซ้าย (ให้แรงที่สุด) ให้หมุน3ครั้ง
หลังจากนั้นให้ทำการตีกลอง 3 ครั้งเป็นอันเสร็จสินการขอพรครบ(ระหว่างที่ตีให้มองตาของเทพแชกงด้วยครับให้ท่านได้รับรู้)
รูปปั้นเทพแชกงหรือแม่ทัพแชกุงองค์โต ในท่ายืนถือดาบหน้าตา เขาบอกว่าหน้าตาดุแบบนี้แต่ศักดิ์สิทธิ์นัก
ส่วนใครที่ได้บูชากังหันมาสวมใส่ ก็สามารถนำมาทำพิธีทีนี้ได้ครับ และขอบอกว่าตรงนี้หลังจากท่านทำบุญเสร็จแล้วท่านจะได้ผงธูปกลับบ้านไปเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย
ต่อกันที่กันขึ้นไปชมความงามของอ่าววิคตอเรีย ชมวิวที่ยอดเขาวิคตอเรียพีค : วิคตอเรีย พีค (Victoria Peak) คือ จุดชมวิวที่สวยที่สุดบนเกาะฮ่องกง เมื่อขึ้นไปถึงจุดนั้นไม่เพียงแต่จะเห็น ท้องฟ้า ตึกสูงท่ามกลางภูเขา และอ่าวฮ่องกง
แต่คุณจะได้เห็นฮ่องกงทั้งเมืองด้วย และที่พลาดไม่ได้เลย คือ การนั่งรถรางเพื่อขึ้นไปชมความงามของทัศนียภาพโดยรอบ
ส่งท้ายวันนี้ด้วยการไหว้ขอพร เจ้าแม่กวนอิม ณ Repulse Bay ทางตอนใต้ของเกาะฮ่องกง อีกหนึ่งในเทพศักดิ์สิทธิ์ของฮ่องกง
ไฮไลท์ของการมาที่นี่คือการได้นมัสการเจ้าแม่กวนอิม เทพเจ้าแห่งโชคลาภที่เขาว่าศักดิ์สิทธิ์มากๆ ครับ คนฮ่องกงเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่ว่าจะขอพรสิ่งใดก็จะสมความปรารถนาทั้งสิ้น
ซึ่งนอกจากเจ้าแม่กวนอิมแล้วบริเวณนี้ก็จะมีเจ้าแม่ทับทิม, พระสังกัจจายน์, เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย ฯลฯ ให้ได้กราบไหว้กันอีกด้วย
ไหว้ขอพรเจ้าแม่ทับทิมพร้อมทั้งทำการเสี่ยงทายด้วยการโยนเหรียญเสี่ยงทายคำอธิษฐาน
สะพานอายุยืน
ขอบอกว่าองค์เจ้าแม่กวนอิมมีความศักดิ์สิทธิ์มากๆ ไม่ว่าใครจะขอพรอันใดก็สมหวัง สมความปรารถนาทุกประการ
ยังๆ คืนนี้อีกยาวไกล!!! กินข้าวเสร็จก็ได้เวลาเดินย่อยอาหาร เพราะเราจะไปเดินเล่นกันที่ “มงก๊ก” ไปง่ายๆ ด้วย MRT จากที่พักของเราไปก็ไม่ไกลมากครับ ประมาณ 2 สถานีราคาตั๋วอยู่ที่ 4 เหรียญกว่าๆ ขึ้นที่สถานี Mongkok Station
เรานั่งรถไฟใต้ดินจากที่พักไปราคาบัตร 4 เหรียญว่าๆ จะไม่ได้ นั่งไปสอง เอาเป็นว่านั่งง่ายๆ คล้ายๆ บ้านเรา (ใครไม่รู้ว่าใช้งานยังไงถามแอดมาได้)
“มงก๊ก” ย่านดังที่ไม่ควรพลาด!! ขอต้อนรับคุณเข้าสู่ย่านอันคึกคักที่สุดในฮ่องกง ที่นี่เป็นที่ที่คุณจะได้เห็นท้องถนนที่อัด แน่นไปด้วยร้านค้าและแผงขายของริมทาง
เอาละมาลุยกันดีกว่าไหนๆ ใครๆ ก็พูดตลอกว่าหากมาเที่ยวฮ่องกง ต้องแวะมาเดินเล่นที่ “มงก๊ก” ย่านอันคึกคักที่สุดในฮ่องกง หากได้แวะมารับรองล้มละลายแน่…พูดเลย !!
ไปดูบรรยากาศยามค่ำคืนของถนนสายนี้กันดีกว่าครับ
Day 3
วันสุดท้ายกับการได้อยู่บนเกะสวรรค์แห่งนี้ เราเริ่มต้นกันด้วยการเดินทางไปกินโจ้กเจ้าอร่อยในตำนาน ที่เขาลือกันว่าหากใครมาฮ่องกงต้องแวะมาลอง!!!!
ภาพของห้องพัก ตึกสูง ที่เห็นจนชินตา รู้มั้ยว่าปัจจุบันเกาะแห่งนี้แทบจะหาบ้านเดี่ยวไม่ได้แล้ว หากคุณไม่รวยล้นฟ้าจริงๆ
ร้าน 彌敦粥麺家 Nathan Congee & Noodle แต่เมนูที่ชอบที่สุดของมื้อนี้คือตับลวกชิ้นโต โอ่ย!!! อร่อยมากโครตดี อีกอย่างที่อยากให้ลองคือคะน้าฮ่องกงราดน้ำมันหอยไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมอร่อยกว่ากินที่เมืองไทย
หากใครแวะมาก็ลองสั่งดูนะ ส่วนโจ้กก็เนียนหอม ข้นดีมากจะต่างจากโจ้กบ้านเรานิดหน่อย (แถมว่าทีเด็ดอีกอย่างคือโจ๊กเป๋าฮื้อแต่ราคาสูงอยู่)
ส่วนโจ้กหมู, เครื่องใน, ไข่เยียวม้าอร่อยดี ร้านนี้เราว่ารสชาติสัมผัสได้ถึงความเป็นเกาะฮ่องกง ต้องลองๆ
ระหว่างทาง เชื่อเรายังว่าเมืองนี้มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะมาก จะเอาฮิปเบอร์ไหนละ?
อิ่มท้องแล้วก็เที่ยวต่อ คร่าวนี้เราจะนั่งรถเมล์สาย 11 ไปกัน นั่งมาสุดสาย แล้วเดินผ่านห้าง Element ไปที่ sky100 ซึ่งอยู่ที่ชั้นที่ 100 ของตึก ICC ได้เลยครับ
ว่าด้วยเรื่องของรถเมล์ที่ฮ่องกงไม่เหมือนกับบ้านเรานะครับ เพราะที่บ้านเขาไม่มีกระเป๋ารถเมล์แบบบ้านเรานะครับ เพราะงั้นควรเตรียมเงินค่ารถให้พอดีเป๊ะ ๆ เนื่องจากมันจะไม่มีการทอนเกิดขึ้น 555 หรือเราจะซื้อบัตร Octopus ก็ได้ครับ(ข้อรถสามารถดูได้จากป้ายที่ตั้งอยู่บริเวณป้ายรถบัสได้เลย)
การใช้งานรถบัสที่ฮ่องกงก็ไม่ยาก ให้ไปยืนรอรถบัสให้ถูกกับตำแหน่งที่รถจะจอด เพราะที่ป้ายรถบัสจะมีจุดจอดรถหลายจุด ให้ขึ้นที่ประตูหน้าและลงประตูกลาง ส่วนการใช้บริการรถราง หรือ Tram ก็เหมือนกันเลย แต่ให้ขึ้นหลัง ลงหน้า
sky100 ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของที่นี่ครับ แม้วันนี้ฟ้าฝนจะไม่เป็นใจกลายเป็นวันฟ้าหม่น แต่มาแล้วก็ขอขึ้นหน่อยละกันครับ
และนี่คือภาพที่เราเห็นหลังจากขึ้นไปถึงชั้นที่ 100
เฮ้ยยยยยยยยยย….. มันเหมือนเอาเลโก้ของเล่นเมืองฮ่องกงมาวางไว้ใต้แทบเท้าเราเลย
จากนั้นนั่งรถใต้ดินที่สถานี Tung Chung Line ไปสถานี จิมซาจุ่ย( Tsim Sha Tsui Station) เพื่อไปหาไรกินที่ถนน Canton Road คร้าบ (เดินกันสนุกสนุก) และเดินช้อปปิ้งก่อนกลับไทย…
ถึงสักทีร้าน Harbour City ชั้น 3 ตั้งอยู่ในตึก Crystal Jade ร้านนี้เรารับรองความอร่อย
หลังจากอิ่มก็ได้เวลา Free Day ครับ จุดหมายต่อมาเราพามาคือแหล่ง ซิมซาจุ่ย(Tsim Sha Tsui ) ใครอยากช้อปอะไรตามใจเลย เพราะที่ย่านนี้มีให้เลือกช้อปกันอย่างจุใจจริงๆ
อีกมนต์เสน่ห์ของเกาะคือผู้คนมากมายภาพกลางเมืองหลวง
เดินจนขาล้า…เราเลยขอออกมานั่งรอที่ร้านกาแฟ THE COFFEE ACADEMICE ลองให้เขาแนะนำเลยได้ Manuka ราคา 55 HKD, Pink Lemonade แล้วก็ Carrot Cake มากินกัน
ในที่สุดก็ได้เวลากลับบ้าน หมดสนุกแล้วสิ สำหรับทริปนี้ถือเป็นทริปทำบุญที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ครับเพราะพวกเรามากันในวันที่ 23 เดือน 9 ซึ่งคนฮ่องกงถือว่าดีมากครับ
ทริปนี้นอกจากการพาตัวเองมาพักผ่อนแล้วยังได้ความประทับใจจากคณะผู้โชคดีของซีพีอีกด้วยครับ ขอบคุณ CP ที่่คิดแคมเปญนี้ออกมาได้ดี จนกลายเป็นทริป “ไหว้พระเสริมด้วยกับซีพี ที่ “ฮ่องกง” ในครั้งนี้ขึ้นมา
….ถ้ารู้ว่าดีขนาดนี้มานานแล้ว ฮ่องกงเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีทุกอย่างจริงๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นกาอธิษฐานขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้สมปรารถนา หรือจะรตระเวนหาของกินอร่อยๆ ที่หาได้ทุกซอกมุม แหล่งช้อปปิ้ง สินค้าแบรนด์ดังๆ ที่ปลอดภาษี รวมไปถึงเหมาะกับการเดินเล่นถ่ายรูปอย่า
Sponsored by CP เจ้าแห่งเทศกาล