เปลี่ยนวันธรรมดา ให้กลายเป็นวันพักผ่อนสุดพิเศษ ณ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” ที่เที่ยวใกล้กรุงสุดฮิต ที่มากี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อ กับบรรยากาศธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ ยิ่งช่วงนี้ลมหนาวมาแล้ว การมานอนกางเต็นท์คือไฮไลท์ที่ห้ามพลาด
หากคิดถึงสถานที่กางเต็นท์ดี ๆ สักหนึ่งแห่ง ที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพ และมีที่เที่ยวให้มาผจญภัยเยอะมาก ทีมงาน Paapaii.com ต้องบอกว่าที่แรกที่เรานึกถึงเลยก็คือ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เพราะ สามารถมาเที่ยวได้ทั้งวันธรรมดา และวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ขับรถมาจากกรุงเทพไม่ไกลเพียง 2 ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึงแล้ว และเตรียมไปเดินป่า ขึ้นเขา เที่ยวน้ำตก สัมผัสอากาศหนาว นอนดูดาว และชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกฟิน ๆ
การเดินทางมา “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” ทุกคนสามารถใช้เส้นทางถนนพหลโยธินมุ่งตรงไปรังสิตถึงจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนมิตรภาพผ่านมวกเหล็ก และเลี้ยวขวาอีกครั้งเมื่อถึงทางแยกก่อนถึงอำเภอปากช่อง (กม.ที่ 58) เพื่อเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 2090 (ถนนธนะรัชต์) แล้ววิ่งต่อไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร จะถึงปากทางเข้าอุทยานฯ
ระหว่างทางก่อนถึง “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” ประมาณ 10 กิโลเมตร เราก็ไม่พลาดที่จะไปเยือนน้ำตกชื่อดังอย่าง “น้ำตกเหวนรก” ที่ได้รับฉายาว่า เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก และมีขนาดใหญ่ที่สุดในย่านปากช่องแห่งนี้ ซึ่งพอเราได้ไปเห็นกับตาก็ต้องบอกเลยว่า ความสวยงามนั้นของจริง สายน้ำสีขาวใสไหลตกลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 150 เมตรนั้น ให้ความรู้เย็นสบายและชุ่มช่ำสุด ๆ
หลังจากเดินทางเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เรียบร้อย จุดแรกที่เราจะไปเยือนกันในวันนี้คือ “อ่างเก็บน้ำสายศร” ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณทางเข้า เป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติ ที่บรรยากาศดีมาก ๆ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการมาถ่ายรูปเล่น และเก็บภาพบรรยากาศของวิวทิวทัศน์สวย ๆ
หลังจากเพลิดเพลินกับการกินลม ชมวิวของอ่างเก็บน้ำสายศรกันไปแล้ว เราก็เดินทางเข้าที่พักกันเถอะ จุดกางเต็นท์ที่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” จะมี 2 ที่ นั่นก็คือ ลานกางเต็นท์ “ผากล้วยไม้” และลานกางเต็นท์ “ลำตะคอง” สำหรับใครที่เอาเต็นท์มาเองก็ไปเลือกทำเลดี ๆ ได้เลย ส่วนใครไม่มีเต็นท์ ไม่ต้องกังวลไป เพราะ ทางอุทยานเขามีให้เช่าพร้อมอุปกรณ์ให้ครบเลย
กางเต็นท์เรียบร้อย เก็บของเรียบร้อย พักกินข้าวให้เต็มอิ่ม แล้วเตรียมไปเดินป่ามันส์ ๆ เพื่อไปเยือน “น้ำตกเหวสุวัต” ที่อยู่ห่างจากที่ตั้งของจุดกางเต็นท์ “ผากล้วยไม้” ไปประมาณ 3 กิโลเมตร น้ำตกแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยงามมาก ๆ อีกหนึ่งแห่งในเขาใหญ่ มีน้ำไหลตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตร น้ำค่อนข้างใส และเย็นสบายมาก ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ชิล ๆ หรือจะนั่งพักเหนื่อยซึมซับบรรยากาศธรรมชาติก็ดีงามสุด ๆ
หลังจากเที่ยวมาทั้งวัน ก็ได้เวลากลับจุดกางเต็นท์มาพักผ่อน ช่วงเวลายามค่ำคืนของเขาใหญ่ นักท่องเที่ยวหลายคนจะได้สัมผัสกับลมหนาวเย็น ๆ และ “นอนดูดาว” เพลิน ๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เงียบสงบ และโรแมนติกมาก ๆ
นอนหลับพักผ่อนกันจนเต็มที่ “แสงแรก” ในยามเช้าก็สาดส่องเข้ามาที่เต็นท์ เปรียบเสมือนนาฬิกาปลุกจากธรรมชาติ ที่ทำให้นักท่องเที่ยวทุกคนรู้ว่าเช้าวันใหม่มาเยือนแล้ว อากาศในยามเช้าก็ยังหนาวอยู่เช่นเดิม แถมมีหมอกจาง ๆ ให้เราได้สัมผัสอีกด้วย
ว่าแล้วก็ไม่ให้เป็นการเสียเวลา รีบเดินขึ้นเขาไปเยือนจุดชมวิวสุดฮิต อย่าง “ผาเดียวดาย” กันดีกว่า ที่นี่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 900 เมตร ซึ่งมีจุดเด่นคือ ลานหินที่ยื่นออกมาจากหน้าผา นักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาที่นี่สามารถสูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติได้อย่างเต็มปอด และสามารถชมทะเลหมอกสวย ๆ ที่ปกคลุมภูเขาได้อย่างชัดเจน
ช่วงสาย ๆ หลังจากลงมาจาก “ผาเดียวดาย” อีกหนึ่งกิจกรรมห้ามพลาดของการมาเยือน “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” คือการไป “ส่องสัตว์” นานาชนิดที่อาศัยอยู่บนผืนป่าสีเขียวขจีแห่งนี้ ซึ่งระหว่างทางเดินนั้นธรรมชาติรอบ ๆ ตัวเรามีความอุดมสมบูรณ์มาก ๆ
หลังจากเดินมาสักพักก็ถึงจุดหมาย “หอดูสัตว์หนองผักชี” ที่นี่เราสามารถชมสัตว์ป่าที่ออกมากินดินโป่ง โดยสัตว์ที่จะพบเห็นส่วนใหญ่จะเป็น กวาง, ช้าง, นก และหากใครมาแล้วเจอแรร์ไอเทมอย่างกระทิง ถือว่าคุณดวงดีสุด ๆ
หลังจาก “ส่องสัตว์” เสร็จ เราก็เดินทางมาเก็บเต็นท์เตรียมกลับบ้าน ซึ่งตอนมาเก็บเต็นท์นั้น เจอเจ้ากวางที่ยังนอนไม่ตื่นด้วย สงสัยจะง่วงมาก ๆ เพราะตอนกลางคืนออกมาเดินหากิน รื้อของไปทั่ว ฮ่า ๆ
และแล้วก็ถึงเวลาปิดทริป 2 วัน 1 คืน ณ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” ซะแล้ว ทริปนี้ถือเป็นทริปพักผ่อนสั้น ๆ ที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพมากนัก สำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนชิล ๆ สูดอากาศดี ๆ การมาเยือนเขาใหญ่ จะทำให้คุณได้รับความสุขและความสนุก จากการท่องเที่ยวกลับไปเป็นของฝากแน่นอน
อ่านที่เที่ยวช่วงหน้าหนาว เพิ่มเติม