หน้าร้อนมาแล้ว สำหรับสายเที่ยว ทะเลอันดามันคงเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากความสวยงามของแสงแดดร้อนๆที่กระทบกับท้องทะเล เกิดเป็นสีโทนเย็นที่แสนสบายตา และตัวผมเองเลือกที่จะเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็น “มัลดีฟส์เมืองไทย”
อีกหนึ่งความท้าทายของทริปนี้คือ Concept ” low price high experience ” ของวิชา Gen441 ของมหาวิทยาลัยผม ที่จะต้องออกไปเที่ยวหาประสบการณ์ให้คุ้มค่าแต่ใช้จ่ายให้ประหยัดที่สุด ดังนั้นรีวิวนี้จะทำให้คุณได้เที่ยวแบบคุ้มค่าและเซฟเงินในกระเป๋าแน่นอน
Backpack Trip เกาะหลีเป๊ะ-เกาะอาดัง หมู่เกาะอาดัง-ราวี จังหวัดสตูล 11-13 มีนาคม 2560
เบอร์โทรติดต่อสำคัญระหว่างทริป
– เรือเฟอรารี่ + รถตู้ ไป-กลับ จองผ่านสุโขทัยทัวร์(ถูกกว่าไปซื้อเอง) : 086-695-8449
– เรือหัวโทงดำน้ำ บังยูริ : 089-734-1885
– อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา(ติดต่อเช่าเต๊นท์บนเกาะอาดัง) : 074-783-597
Day 1 เสาร์ที่ 11 มีนาคม 2560 (เกาะอาดัง)
– 09:50-11.15
เดินทางสู่ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ไฟลท์ SL-706
– 11:30-13:30
ขึ้นรถตู้จากสนามบินไปท่าเรือปากบารา ใช้เวลา 2 ชม.
– 13:30-15:00
ถึงท่าเรือเช็คอินที่บริษัทเรือ กินข้าว ซื้อเสบียงไปเกาะ
– 15:00-16:30
เดินทางสู่เกาะหลีเป๊ะ
– 16:30-17:00
นั่งเรือหัวโทงจากหลีเป๊ะไปเกาะอาดัง
– 17:00
ติดต่ออุทยาน กางเต๊นท์ เดินเล่นรอบๆเกาะอาดัง
DAY 2 12 มีนาคม 2560 (เกาะหลีเป๊ะ)
– 07:00-08:00
– เดินเล่นถ่ายรูป ดำน้ำ รอบๆเกาะอาดัง
– 08:30-17:00
นั่งเรือหัวโทงไปดำน้ำ 7 จุด แวะเกาะต่างๆในหมู่เกาะอาดัง-ราวี (FULL DAY)
– 17:00-17:30
เรือหัวโทงไปส่งที่เกาะหลีเป๊ะ
– 17:30-18:00
Check in ที่พัก เกาะหลีเป๊ะ
– 19:00-21:00
เดิน walking street ดูโชว์ควงกระบอกไฟที่หาดพัทยา
Day 3 13 มีนาคม 60
– 07:00-08:00
check out ที่พัก เอาสัมภาระไปฝากที่จุดขึ้นเรือกลับฝั่ง
– 08:00-12:30
เดินเล่นชายหาดรอบๆหลีเป๊ะ เดินเที่ยวทั่วๆเกาะ เล่นน้ำ
– 13:00-14:30
เดินทางจากหลีเป๊ะด้วยเรือรอบสุดท้าย สู่ท่าเรือปากบารา
– 15:00-16:30
นั่งรถตู้กลับสนามบิน (เราให้รถตู้ไปส่งที่ตัวเมืองได้ถ้าใครอยากเที่ยวต่อ)
– 16:30-19:30
Free Time in หาดใหญ่ เดินเล่นเซนทรัล หรือซื้อของที่ตลาดกิมหยงได้
– 19:30-20:00
นั่งTaxi กลับไปที่สนามบินหาดใหญ่
– 22:00-23:25
เดินทางสู่ท่าอากาศยานดอนเมือง ไฟล์ท SL-725
5 ข้อควรรู้ก่อนไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ
1. เรือจากท่าเรือปากบาราไปเกาะรอบสุดท้าย 15:00น. ให้มาไฟลท์ถึงหาดใหญ่ไม่เกิน12:00น. เรือออกจากเกาะรอบสุดท้าย 13:00น. ให้จองไฟลท์บินกลับหลัง18:00น. เป็นต้นไป
2.พกเงินสดไปเผื่อด้วย ตู้ATM บนเกาะมี3-4ตู้ และเสียบ่อย
3.อาหาร เครื่องดื่ม และของใช้บนเกาะราคาคูณสองจากบนฝั่ง ซื้อจากท่าเรือปากบาราไปได้ถ้าแบกไหว
4.หาดหลังเกาะจะสวยที่สุด วอล์คกิ้งสตรีท โชว์แสงสีต่างๆ ที่พักสวยๆ จะอยู่หลังเกาะ ซึ่งจุดขึ้นเรือไปกลับท่าเรือ-เกาะ จะอยู่ฝั่งนี้ด้วย
5.บนเกาะจะมี Taxi (ซาเล้ง) รับ-ส่งบริเวณรอบเกาะ ราคาคนละ50บาทต่อเที่ยว แต่ถ้ามีเวลาว่างก็เดินจากหลังเกาะไปหน้าเกาะได้ ไม่ไกลมาก
***ที่นี่น้ำทะเลมีแตนทะเลเยอะ ที่เวลาเราไปดำน้ำแล้วจะรู้สึกคันๆยิบๆ แต่จะมองไม่เห็นตัว แนะนำให้ใส่เสื้อแขนยาว เราไป7คนผื่นขึ้นไป4 ลองหาข้อมูลในกระทู้ก็มีหลายคนที่โดนเหมือนกัน
ค่าใช้จ่ายระหว่างทริป หลักๆ (ต่อคน)
ค่าเครื่องไป-กลับ 1883 บาท (ขึ้นอยู่กับการจองไม่แน่นอน มือไวอาจถูกกว่านี้)
ค่าแพกเกตรถตู้สนามบิน-ท่าเรือ+เรือสปีดโบ๊ทไปเกาะของสุโขทัยทัวร์ (ไปกลับ) 1200 บาท
ค่าเรือเหมาดำน้ำเต็มวัน 2500บาท 7คน ตกคนละ 360 บาท
ค่าทำเนียมขึ้นเกาะ 40 บาท ใช้ได้ทุกเกาะ
ค่าเรือหัวโทงจากหลีเป๊ะไปอาดัง 100 บาท
ค่าที่พัก หลีเป๊ะ 290
ค่าที่พักเต๊นท์ อาดัง 200 (ไม่เกิน200)
ค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำ (สน้อคเกิ้ล ตีนกบ) 50 บาท
ค่า Taxi (ซาเล้ง) ไปหน้าเกาะ 50 บาท
รวม 4,173 บาท ต่อคน รวมค่าเครื่อง ไม่รวมค่ากิน
ค่ากิน บริหารกันเองได้ ซื้อเสบียงจากฝั่งไป หรือจะหาร้านถูกๆบนเกาะก็มี ร้านราคาสูงแต่ของทะเลสดๆก็มี แล้วแต่สไตล์แต่ละคน
ก่อนเข้าเรื่อง ต้องขอบคุณรีวิวดี ๆ จากเพจ : Journey right on / เที่ยว-ดี-นัก เอาเป็นว่าใครสนใจทริปเดินทางสวย ๆ ก็สามารถเข้าไปตามฟอลโล่กันได้น๊า
Let’s go…
ทริปนี้พิเศษกว่าทริปอื่นคือ เรามีสมาชิกทั้งหมด7คน จากปกติที่จะแบกเป้กันไป2คน เนื่องจากconcept ที่เราได้มาเราจึงหาข้อมูลการท่องเที่ยวจนสุดท้ายก็ตกผลึกที่ “ทริปหมู่เกาะอาดัง-ราวี” หมู่เกาะนี้เป็นที่ตั้งของเกาะสวยงามมากมายในทะเลอันดามัน เราใช้เวลา 3วัน 2คืน และพัก 2เกาะ คือที่ “เกาะอาดัง” และ “หลีเป๊ะ”
สาเหตุที่เราเลือกพักที่เกาะอาดังด้วยก็เพราะว่า อยากไปสัมผัสวิถีชีวิตเรียบง่ายริมเกาะ อยู่แบบง่ายๆบ้านๆ ไปสังเกตว่าคนที่อยู่เกาะนานๆหลายเดือน เค้าอยู่กันยังไง และเราก็จะไปคุยกับพี่ๆอุทยานถึงความรู้ทางทะเล ประวัติต่างๆของที่นี่ หมู่เกาะอาดัง-ราวี
เตรียมตัว ก่อนเดินทางหนึ่งเดือนเรา
– จองไฟลท์ไปกลับ ดอนเมือง-หาดใหญ่ ไว้แล้ว
– ติดต่อรถตู้ล่วงหน้าให้มารับที่สนามบินไปส่งที่ท่าเรือ
– ติดต่อจองเรือไป-กลับท่าเรือปากบารา-เกาะหลีเป๊ะ
(เราจองรถตู้+เรือกับบริษัทสุโขทัยทัวร์ เพราะรวมทั้งหมดประหยัดกว่าไปซื้อเองตามหน้าสถานที่ ตั้ง200บาท และทางทัวร์จัดการให้หมดเลย)
การเดินทางไปท่าเรือนั้นค่อนข้างไกล ไปรถตู้สะดวกสุด ถ้าไปรถประจำทางต้องไปขึ้นที่ขนส่งและใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว แถมเสียค่าใช้จ่ายพอกัน
– ติดต่อเหมาเรือหางยาวดำน้ำเต็มวันกับบังยูริ เจ้านี้ใจงาม บริการดี ดังนั้นคิวแน่นมาก
– ติดต่ออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา เพื่อจองเต๊นอุทยานสำหรับนอนคืนแรกที่เกาะอาดัง (หมู่เกาะอาดัง-ราวี เป็นหมู่เกาะย่อยของหมู่เกาะตะรุเตา)
– ติดต่อที่พักสำหรับคืนที่2 บนเกาะหลีเป๊ะ
เริ่มต้นจากการเดินทางโดยเครื่องบิน เราหาข้อมูลแล้วเราบินไปลงที่หาดใหญ่เป็นวิธีที่สะดวกที่สุด และราคาก็ไม่สูงมากเพราะเราจองล่วงหน้าไว้เกือบ2เดือน เราเดินทางไฟล์ท10โมง เพราะประหยัดที่สุด ณ เวลาที่จองตอนนั้น ใช้เวลาประมาณ1ชม.25นาที ก็ถึงสนามบินหาดใหญ่
ออกจาก Gate เดินมารอที่ประตูทางออก5 รถตู้จะมารับเราที่นี่ ล้อเครื่องบินแตะพื้นปุ๊บ โทรมาหาเราทันที เร็วมากๆ เราใช้บริการรถตู้+เรือไปเกาะหลีเป๊ะกับสุโขทัยทัวร์ ราคาคนละ1200บาท เค้าจะจัดการให้เราหมดเลยทั้งการจอง การมารับ-ส่ง ที่สำคัญประหยัดกว่า สะดวกกว่าเราไปขึ้นรถตู้ในเมืองแล้วไปซื้อตั๋วเรือที่ท่าเองซึ่งคำนวณแล้วแพงกว่านี่200บาท
รถตู้จะไปส่งเราที่ท่าเรือปากบารา จังหวัดสตูล ใช้เวลา 2ชม.
นั่งรถไปเพลินๆ เราก็มาถึงท่าเรือปากบาราแล้ว คนขับรถตู้ซึ่งเป็นตัวแทนของสุโขทัยทัวร์จะให้ตั๋วเรือ และตั๋วรถตู้ ไป-กลับ กับเรา เราก็เดินไปที่บริษัทเรือและเก็บสัมภาระสำหรับโหลดใต้เรือ เรามาถึงตอนบ่ายสอง มีเวลา 1ชม. ในการกินข้าว และเตรียมเสบียงขนไปเกาะ
รถตู้แถบส้มเป็นคิวรถเข้าเมืองหาดใหญ่ ถ้าเราไม่มากับทัวร์ก็ต้องใช้บริการคิวนี้เลย
ของบนเกาะราคาคูณ2ของบนฝั่ง ทางที่ดีของใช้จำเป็น ของกินที่ขนได้ ขนไปเลยครับ เจอข้าวจานละ90 น้ำกระป๋องละ30 คงกินไม่ค่อยอร่อย555 เอ้อ เกาะอาดังไม่มีน้ำแข็ง!!! ซื้อจากฝั่งใส่ลังโฟมไปนะครับ สำหรับคนที่จะพักเกาะอาดัง
ซื้อเสบียงเสร็จแล้ว ไปรอขึ้นเรือที่ท่าเทียบเรือกัน
ก่อนเข้าไปที่ท่าเรือเราเดินไปที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ในนั่นมีแผนที่ คู่มือท่องเที่ยวแจกฟรี ช่วยได้ดีมากครับ แนะนำให้เข้าไปสอบถามข้อมูลจากพี่เจ้าหน้าที่ได้เลย
มีค่าธรรมเนียมขึ้นท่าเรือคนละ 20บาท
เรือไปเกาะจะมีรอบ
09:30น. 11:30น. 13:30น. และ15:00น.
เรือออกจากเกาะมีรอบ
09:30น. 11:30น. 13:00น.
วางแผนดีๆนะครับ ส่วนเรือที่จะนั่งไปมี2ประเภทคือเรือเฟอรารี่และสปีดโบ๊ท ถ้าจองผ่านทัวร์ก็ต้องรอลุ้นว่าจะได้นั่งลำไหน
ประมาณบ่ายสามหน่อยๆ พนักงานจะเรียกขึ้นเรือ เรือที่เราไปเป็นเรือสปีดโบ๊ทลำใหญ่ครับ ไม่ต้องแย่งกันเพราะเรียงตามคิว ขึ้นก่อนเลือกที่ก่อน
ออกเดินทางกันต่อครับ
เรือใช้เวลาประมาณ 1ชม.ครึ่ง ก็ถึงเกาะหลีเป๊ะ
เรือจะมาส่งเราที่หลังเกาะครับ จุดขึ้น-ลงของเรือทุกบริษัทจะอยู่ที่นี่ รวมทั้งวอล์คกิ้ง สตรีท บาร์ต่างๆ หาดนี้คือหาดพัทยาจะสวยที่สุดในเกาะ
วันนี้น้ำลงครับ เรือเข้าไปเทียบริมหาดไม่ได้ จึงต้องลงเรือหัวโทงเข้าฝั่งอีกที ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
มาถึงที่หาดแล้ว สอบถามพี่ๆชาวบ้านว่าเราจะไปเกาะอาดังต่อ ต้องขึ้นเรือที่ไหน ก็ได้ความว่า เกาะอาดังอยู่ฝั่งหน้าเกาะ เราต้องขึ้นTaxiไปคนละ50บาท แล้วไปขึ้นเรือหัวโทงข้ามไปเกาะอาดังคนละ100บาท ถ้าเราขึ้นหัวโทงจากฝั่งหลังเกาะไปอาดัง200บาท แพงกว่าครับ
ถึงบริเวณหน้าเกาะแล้ว นี่คือชมรมเรือหัวโทงเกาะหลีเป๊ะครับ อยากรู้ข้อมูลอะไร รวมถึงประวัติของชาวบ้านก็ถามพี่ๆได้เลย
มุ่งหน้าสู่ เกาะอาดัง ครับ ไม่ไกลจาก เกาะหลีเป๊ะ มองเห็นกันได้ เหมือนเรานั่งเรือข้ามฝาก แปปเดียวก็ถึงครับ
เกาะด้านหลังนั่นคือหลีเป๊ะที่เราเพื่งเดินทางมาครับ
ขึ้นฝั่งมาก็ติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่ศูนย์บริการได้เลยครับ
เกาะอาดังเป็นเกาะที่สงบ และมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ครับ นั่งท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ มาพักที่นี่เป็นเดือน เป็นปีก็มี
หากเราเคยดูในละครที่มีการใช้ชีวิตอยุ่ในเกาะ กางเต๊นท์ ก่อไฟ ตกปลา คุณจะได้เห็นที่นี่ครับ ที่นี่เป็นอุทยาน มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เราสามารถเข้าไปติดต่อ ชำระค่าธรรมเนียม เช่าเต๊นท์ ขอข้อมูลต่างๆจากเจ้าหน้าที่ได้
ภายในศูนย์บริการยังมีนิทรรศการที่ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติของหมู่เกาะตะรุเตา ความรู้เกี่ยวกับสัตว์ทะเลให้ได้เรียนรู้มากมาย
บนเกาะอาดังนี้ จะมีจุดให้กางเต๊นท์ ซึ่งจะเช่าของอุทยานหรือนำมาเองก็ได้ ที่อุทยานมีหมอน ฟูก เครื่องนอนให้เช่าครบครัน ราคาหลังนึงไม่เกิน200บาทครับ นอนได้2คน ผมจำตัวเลขไม่ได้
แต่ที่นี่ก็มีห้องพักให้พักนะครับแต่จำนวนน้อย หลังละ600บาท แต่บรรยากาศก็จะต่างกับเต๊นท์ ห้องน้ำที่บนเกาะเป็นห้องน้ำารวมแยกชายหญิง ค่อนข้างใหม่ น้ำไหลแรงดี
ร้านค้าสวัสดิการมีอาหารตามสั่ง เครื่องดื่มจำหน่าย ราคาก็2เท่าของบนฝั่ง และใกล้ๆจะมีศาลานั่งเล่น ลานกว้างๆ ที่มีรูปลั๊กไฟให้เราไปนั่งชาร์จแบตได้
อันนี้เต๊นท์ของชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่บนเกาะนี้กันไม่ต่ำกว่าสามเดือน >o<
ที่นี่จะใช้ไฟฟ้าได้ตั้งแต่18:00-22:00น. เท่านั้น นอกนั้นจะตัดไฟ นั่นหมายความว่าคุณจะได้มาสัมผัสบรรยากาศเรียบง่าย อยู่กับธรรมชาติจริงๆ ยามค่ำคืนเดินเล่นริมหาดมีแต่แสงจากพระจันทร์ส่องลงมา มีแพลงตอนอยู่ไม่น้อย มองข้ามไปเห็นแสงสี ความวุ่นวาย บนเกาะหลีเป๊ะช่างต่างกันมาก
ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่หน้าเต๊นท์เลยครับ สวยงามมาก
ชาวต่างชาติบางคนก็จะมาตกปลา แล้วเอาไปก่อไฟทำอาหารทานเอง (แต่ปลาตัวนิดเดียวเอง) คงหนีไม่พ้นร้านค้าสวัสดิการ555
หาดทรายหน้าจุดกางเต๊นท์
ที่เกาะอาดังนี้ นอกจากหาดทรายที่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังมีผาชะโดที่สามารถเดินขึ้นไปชมวิวเกาะหลีเป๊ะทั้งเกาะได้เลย รวมไปถึงน้ำตกโจรสลัดที่มีประวัติน่าสนใจ
ส่วนผมเองเมื่อวานมาถึงเกาะอาดังก็เย็นเลยมีเวลาน้อย ถ้าใครอยากมาพักอาดังด้วย แนะนำมาไฟล์ทเช้าๆ แล้วขึ้นเรือที่ปากบารารอบ11โมง จะได้มีเวลาเที่ยวเยอะๆเนอะ
น้ำใสมาก บรรยากาศสงบจริงๆ เป็นเกาะธรรมชาติที่แท้จริงที่เรายังสัมผัสได้อยู่
ที่สำคัญความอุดมสมบูรณ์ของที่นี่ทำให้มีสัตว์มากมาย รวมไปถึงปูเสฉวนที่มีมาก มากจริงๆ เดินกันเป็นขบวน กลางคืนก็จะเป็นปูทะเล กับแพลงตอน ขึ้นมาเต็มหาด สวยงามจริงๆครับ แต่ถ่ายแพลงตอนแล้วไม่ติด เลยไม่ได้เอารูปมาลง มาดูด้วยตาดีกว่าครับ
ถึงเวลาเก็บของลุยกันต่อครับ เราจะไปดำน้ำกัน ซึ่งเราใช้บริการเรือดอลลาร์ของบังยูริ ที่ขึ้นชื่อถึงการบริการที่ดีมากๆ ค่าใช้จ่ายก็ตั้งแต่2000-2500บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนคนและโปรแกรมดำน้ำตื้นที่เราเลือก เรือหัวโทงนั่งได้8คน มาเยอะก็หารกันถูก
โปรแกรมดำน้ำแบ่งเป็น ดำรอบนอกหรือรอบใน (ครึ่งวัน)และทั้ง2อย่าง(เต็มวัน) แต่มาทั้งทีแนะนำแบบเต็มวันเลยครับ ราคาไม่ต่างกันมาก
ลุยยยยย…..
เริ่มจากการไปดำน้ำรอบนอกก่อนนะครับสำหรับช่วงเช้า
ทริปนี้ผมไม่มีภาพบรรยากาศใต้น้ำมาให้ดูนะครับ เพราะวันที่ผมไปนั้น น้ำเชี่ยวและคนเยอะ เลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ แต่ก็มีนีโม่ให้เห็นนะ ปลาสวยๆในเรื่องนีโม่มีให้เห็นครบเลยแต่จะอยุ่ลึกหน่อย สงสัยเพราะวันเสาร์คนเยอะ กล้องผมซูมไม่ถึง ต้องถอดชูชีพดำลงไป ส่วนมากจะให้เด็กเรือดำลงไปถ่ายให้ แต่ลำผมไม่มีก็เลยอด
น้ำใสมากครับ อีกหนึ่งเกาะสำคัญใน หมู่เกาะอาดัง-ราวี ครับ นั่นก็คือเกาะราวี เราจะพักทานอาหารเที่ยงกันที่นี่ และเล่นน้ำกัน หาดที่เกาะนี้น้ำใสมากที่สุดในทริปนี้สำหรับผม
ก่อนขึ้นเกาะทุกเกาะจะต้องเสียค่าธรรมเนียม แต่! ถ้าเราจ่ายไปแล้วที่เกาะไหนเกาะนึง ใบเสร็จใบเดียวขึ้นได้ทุกเกาะครับ โชว์ให้เจ้าหน้าที่ดู อันนี้สำคัญเดี๊ยวจะเสียหลายต่อ
เรือหัวโทงจะมาจอดให้ทานมื้อเที่ยงกันที่นี่ ซึ่งจะมีร้านค้าสวัสดิการอยู่ แต่ทางที่ดีเตรียมซื้อใส่กล่องมาเองดีกว่าครับ ไม่ต้องรอนาน เอาเวลาไปเล่นน้ำดีกว่า เพราะคนเยอะมาก มารวมกันที่นี่หมด
สำหรับผมนะ น้ำทะเลที่เกาะนี้ใสที่สุด
ทานข้าวเที่ยง เล่นน้ำทะเลเสร็จแล้ว เดินทางไปดำน้ำกันต่อ
อีกหนึ่งเกาะที่จะขึ้นไปถ่ายรูปเกาะนี้ชื่อว่า เกาะหินงาม ครับ ถ้าเราเอาน้ำสาดใส่หินแล้วถ่ายรูปหินจะดำเงาสวยมาก
กลับจากดำน้ำ เรือก็จะมาส่งเราที่หลีเป๊ะ เราก็เช็คอินที่พัก ที่พักที่เราพักที่หลีเป๊ะเราจะไม่เอ่ยชื่อ…. เรามาเที่ยวในคอนเซ็ป lowprice high experience
ลักษณะที่พักก็จะเป็นแคมป์ปิ้งครับ บวกกับเต๊นท์ ราคาก็จะต่างกันไป จากประสบการณ์การไปแคมป์มาแล้วหลายเกาะ ผมเข็ดกับที่นี่ครับ
ที่พักสมราคา แต่บริการติดลบเลย
– จองจากagoda มีหลักฐานพร้อม ราคา600มีห้องน้ำในตัว ถึงปุ๊บอ้างว่าagodaพลาด ราคานี่ต้องห้องน้ำรวม เอาหลักฐานให้ดูก็โทษagodaอย่างเดียว ไม่ขอโทษเราเลย ชักสีหน้าใส่เรารุนแรงมาก
– นอน7คน 3ห้อง ขอผ้าห่มไป บอกจะเอามาให้ สรุปเอามา1ผืน
– เราติดมาม่ามา ของยืมชาม1ใบ ก็พูดกระแทกใส่เราว่ามาหลีเป๊ะ ต้องเตรียมพร้อม ไม่พกมาม่ากระป๋องมาหละ (อันนี้เราผิด) พีคสุด เอาชามมาม่าไปคืน พูดว่า”จะประหยัดอะไรขนาดนั้นอะ ประหยัดคุณแต่จนเราอะ”
– ออกไปทานข้าว เราตั้งใจเปิดไฟในห้องทิ้งไว้เพราะกลัวของหายเป็นแคมป์รวม (ปลั๊กอื่นดึงออกหมด) เดินมาบ่นเราว่าทำไมไม่ปิดไฟ จะสับคัทเอาท์ละ
การบริการนั้นต่างกับที่เค้าบริการชาวต่างชาติมากซึ่งพูดจาดี ยิ้มแย้ม ผมไม่เคยเจอแบบนี้ครับรู้สึกอึ้งนิดหน่อย แต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องการบริการ มาลองเข้าพักได้นะครับเพราะเรายอมรับว่าที่นี่ราคาถูกจริงๆ ประหยัดได้เยอะ
แต่เรามาในคอนเซ็ป Low price ครับ ตัดเรื่องบริการออกไป ก็ยอมรับสภาพแหละ ไม่เป็นไรเราอยู่ได้5555
ต่อๆ เข้าที่พักแล้วออกมาก็ เดินไปหาดsunsetครับ ไปดูพระอาทิตย์ตก ที่เกาะหลีเป๊ะไม่ใหญ่มากครับ เดินถึงกันหมด
ฟ้าเริ่มมืดก็เดินตามทางมาที่walking street ครับ หามื้อเย็นทานกัน ก็เดินจากหาดsunset มาเข้าทางด้านหลัง walking
ร้านนี้เป็นร้านบุฟเฟ่ต์ครับ 490บาท กินของทะเลไม่อั้น น่าลองมาก แต่ผมมาคอนเซ็ป lowcost ของดก่อน แต่รอบหน้ามาผมไม่พลาดแน่ ใครลองแล้วมาเล่าให้ฟังบ้างน้าา
ของทะเลแน่นจริงๆครับ มีบริการย่างให้ด้วย
ตลอดเส้นทางมีร้านอาหารทะเลเยอะมาก
แล้วอาหารทะเลที่นี่สดจริงๆ ตัวใหญ่จริงๆ ผมถามพี่ๆชาวประมงเค้าบอกว่า ชาวบ้านออกไปจับเอง แถบนี้ทะเลยังอุดมสมบูรณ์ ถ้าอยากกิน อยากเห็นเค้าจับ เช้าๆ นั่งเรือหัวโทงไปซื้อจากเรือประมงกลางทะเลได้เลย กุ้งลายเสือตัวใหญ่มากกก ใหญ่กว่าฝ่ามือ หอยก็เช่นกัน ตัวประมาณ3เท่าของหอยแครงแถวบ้าน
พิซซ่าเตาถ่าน ทำใหม่ๆร้อนๆ
ไอติมมะพร้าว อร่อยดีครับ
หลังจากอิ่มท้องแล้วเราก็จะไปนั่งบาร์ และดูโชว์กันแถวริมหาดพัทยา
จากประสบการณ์การดูโชว์ควงกระบองไฟมา3เกาะ ที่นี่เก่งมากๆครับ พี่เค้าท่าเยอะ
พรุ่งนี้เช้าเราจะมาเล่นน้ำส่งท้ายก่อนกลับบ้านกัน
ตื่นเช้ามา เราเช็คเอาท์ที่พักแล้วก็เอากระเป๋าไปฝากที่จุดขึ้นเรือกลับไว้ จากนั้นก็เดินตัวป่าว ชุดเล่นน้ำหนึ่งชุด แล้วเดินเล่นรอบเกาะกันครับ เรามีเวลาถึงเที่ยง แล้วกลับมารอขึ้นเรือกลับฝั่ง
ขากลับจากเกาะไปสนามบิน ทุกอย่างเหมือนเดิมครับ ดูได้จากตารางเวลาด้านบน สำหรับใครที่อยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เรายินดีให้คำแนะนำครับ
ติดตามรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่อื่น แบบละเอียดได้ที่เฟสบุ๊คเพจของเราครับ Journey right on /เที่ยว-ดี-นัก
