“ฮักน่าน นานนานนะ” พาไปหลงชมธรรมชาติและสายหมอก

ช่วงนี้ใครๆ ก็หลงรักน่าน … ทีมงาน Paapaii.com จะพาไปชมธรรมชาติที่สวยงามและตามหาสายหมอกในยามเช้า มนต์เสน่ห์แห่งเมืองที่เงียบสงบ “น่านนคร” จนใครๆ ก็ต้องมาหลงรักกับจังหวัดนี้ จะมีอะไรที่น่าหลงใหลบ้าง มาดูกันเลย

เริ่มต้นกับทริปหลงฮักน่านกันที่พระธาตุคู่เมืองของชาวน่าน “พระธาตุแช่แห้ง” สีเหลืองทองอร่าม ตั้งเด่นสง่าอย่างเห็นได้ชัด ที่นี่ยังถึอว่าเป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต และที่นี่ยังเป็นพระธาตุประจำ “ปีเถาะ” ที่คนที่เกิดปีเถาะต้องมานมัสการพระธาตุประจำปีเกิดขอสิ่งดีๆ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตกัน

หลังจากนมัสการขอสิ่งดีๆ กันเสร็จแล้ว … ก็มาต่อที่ “ซุ้มลีลาวดี” บริเวณด้านหน้าของ “พิพิธภัณฑ์แห่งชาติน่าน” ที่นี่ยังถือว่าเป็นมุมถ่ายรูปสุดฮิตของนักท่องเที่ยวที่จะมาถ่ายรูปเล่นกันเมื่อมาถึงจังหวัดน่าน

เดินถัดมาอีกนิดก็มาเที่ยวที่วัดเก่าแก่คู่เมืองน่าน “วัดภูมินทร์” ถ้าใครได้มาถึงจังหวัดน่านกันแล้ว และไม่ได้เดินทางมาที่วัดนี้กันถือว่ามาไม่ถึงจัดหวัดน่านกันนะ ภายในวัดมีจิตรกรรมฝาผนังที่ได้แสงถึงวัฒนธรรมของชาวล้านนาตะวันออกกันอีกด้วย

มุมสำคัญของจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดภูมินทร์ที่ไม่ควรพลาดกับภาพวาด “กระซิบรักบรรลือโลก” ของปู่ม่าน ย่าม่าน ที่โด่งดังไปทั่วทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ภาพนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างไรบ้าง ต้องลองไปเที่ยวกันนะครับ จะมีมัคคุเทศก์น้อยคอยเล่าถึงประวัติความเป็นมาของภาพนี้ให้ฟังกัน

มุมสวยๆ ของวัดภูมินทร์ในตอนกลางคืน มีนักท่องเที่ยวมากมายมายืนถ่ายรูปกัน

บริเวณด้านหน้าและด้านข้างของวัดภูมินทร์ ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะมี “กาดข่วงเมืองน่าน” ถนนคนเดินแหล่งรวมนักท่องเที่ยว ให้ได้เดินเลือกช้อปสินค้าพื้นบ้าน เดินชิมอาหารพื้นเมือง และนั่งฟังดนตรีกันเพลินๆ ที่ลานข่วงเมือง กินไป ฟังเพลงไป รับลมเย็นเบาๆ ก็ฟินไปอีกแบบนะ

หลังจากเที่ยวชมสถาปัตยกรรมของในตัวเมืองน่านกันเสร็จแล้ว … ก็ตัดมาตอนเช้าเลยละกัน มาชมความงามในตอนเช้าของพระอาทิตย์และทะเลหมอกกันที่ “ดอยเสมอดาว” ที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน ที่นี่มีลานกางเต็นท์สำหรับคนที่ชอบสัมผัสลมหนาว นอนชมดาวแบบใกล้ชิด ตื่นมาดูทะเลหมอกแค่เอื้อมมือ ฮ่าๆ ขอบอกว่าต้องมาที่นี่กันเลยนะ เพราะที่นี่จะทำให้คุณฟินกับทะเลหมอกในยามเช้ากันแบบสุดๆ เลยทีเดียว

แสงแรกกำลังจะขึ้น ก็มาพร้อมกับนักท่องเที่ยวมากมายที่มารอชมกัน … อยากจะกระโดดลงไปนอนบนทะเลหมอกจัง อิอิ

อยากดูทะเลหมอกกันจนเพลินละ หันมาด้านข้างกันบ้างนะ มี “ผาหัวสิงห์” รอให้ถ่ายรูปกันอยู่ เป็นหน้าผาที่มีรูปร่างเหมือนสิงโตนอนหมอบหันหน้าไป ทางทิศตะวันออกสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา กันเลยทีเดียว

ในอุทยานแห่งชาติศรีน่านแห่งนี้ ไม่ได้มีลานกางเต็นท์แค่ที่ “ดอยเสมอดาว” นะ ที่สามารถชมทะเลหมอกสวยๆ กัน แต่ยังมีลานกางเต็นท์ที่ “ผาชู้” หรือ ผาเชิดชู อีกหนึ่งสถานทีตำนานของความรัก ที่นี่มีความงดงามของทะเลหมอกไม่แพ้ดอยเสมอดาวเลยด้วยนะ

บริเวณลานกางเต็นท์ของผาชู้ ด้านหลังมองขึ้นไปด้านบนก็จะพบกับเสาธงชาติที่สูงที่สุดได้อีกด้วย

เมื่อชมสายหมอกในยามเช้ากันเสร็จแล้ว ก็ไปชมธรรมชาติของสายน้ำกันบ้างดีกว่าที่ “แก่งหลวง” ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นแก่งน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ มีบรรยากาศเงียบสงบ สามารถเข้าไปเดินชมภายในโดยการเดินผ่านโขดหินที่เรียงรายและก็จะได้พบกับชายหาดสีขาวที่ทอดยาวริมแก่งที่ซ่อนอยู่ในป่าเขา

อีกแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติศรีน่านที่ต้องมาเที่ยวกันคือ “เสาดินนาน้อย” เป็นผืนดินขนาดใหญ่กว่า 50 ไร่ มีลักษณะเป็นเสาดินขนาดใหญ่ที่เกิดจากการทรุดตัวของผิวดิน ถูกน้ำกัดเซาะ มานานหลายปีจนได้กลายเป็นรูปร่างต่างๆ จนเกิดเป็นความสวยงามที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่แห่งนี้มีความคล้ายกับที่ “แพะเมืองผี” แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตของจังหวัดแพร่กันอีกด้วย

หลังจากชมธรรมชาติกันเสร็ดแล้ว ก็ได้เวลาไปชมความสถาปัตยกรรมเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดน่านกัน นั่นก็คือ “วัดพระธาตุเขาน้อย” อารามเก่าบนยอดดอย ที่สุดวิวล้านนาตะวันออก มีองค์พระธาตุเจดีย์ที่ก่อด้วยปูนทั้งองค์เจดีย์ ได้รับศิลปะของพม่าผสมผสานของชาวล้านนา มีความแปลกตาที่ไม่เหมือนใคร

ด้านข้างขององค์พระธาตุเจดีย์ มี “พระพุทธรูปมหาอุดมมงคลนันทบุรีศรีน่าน” พระพุทธรูปปางประทานพรบนฐาน ดอกบัวสูง 9 เมตร ที่ยืนอย่างสง่างาม ให้ได้ไปสักการะกัน พร้อมกับชมวิวของเมืองน่านที่ว่ากันว่าเป็นมุมที่สวยที่สุดของเมืองล้านนาตะวันออกกันอีกเลยทีเดียว

ชมวิวเมืองน่านกันเสร็จแล้ว ก็ไปชมแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดน่าน “ดอยตีดู้ว์” จุดชมวิวทะเลหมอกสุดอันซีนแห่งใหม่ที่นักท่องเที่ยวมาชมกัน ชมวิวธรรมชาติของภูเขาที่ไกลสุดตา แถมมีไร่สตรอเบอร์รี่ให้ได้ชมกันอีกด้วย

มุมชิงช้า นั่งชิลล์ๆ หรือ จะไปยืนที่ชาน มองดูวิวธรรมชาติของภูเขา พร้อมถ่ายรูปสวยๆ ไว้ไปอวดเพื่อนก็ดีนะ

หลังจากเที่ยวในเมืองและอำเภอใกล้เคียงกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาไปขึ้นเขารับลมหนาวกันต่อที่ “อุทยานแห่งชาติดอยภูคา” อ.ปัว ไปรอดูพระอาทิตย์ตรงดินที่ “ลานดูดาว” ลานกางเต็นท์ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์นอนกัน

ข้อดึของการนอนกางเต็นท์บนเขา นั่นก็คือ ดวงดาวที่สวยงามนับล้านดวง สวรรค์ในยามค่ำคืน เพลิดเพลินกับดวงดาว ฟินในยามดึก ดีไม่ดีอาจจะเจอทางช้างเผือก กันด้วยน้า

หลังจากดูดาวตอนกลางคืนกันเสร็จแล้ว … ก็ได้เวลาตื่นมารอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ “จุดชมวิว 1715” เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นของอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จะมีนักท่องเที่ยวมารอชมแสงแรกของวันกันอย่างมากมาย

หลังจากดูพระอาทิตย์ขึ้นกันแล้ว ก็ได้เวลาเที่ยวกันต่อที่ “โรงเรียนชาวนา” ไปชมวิวสวยๆ ของทุ่งนา แต่น่าเสียดายที่มาตอนเกี่ยวหมดแล้ว ถ้ามาตอนยังไม่เกี่ยวและมีสีเขียวขจีทั่วทุ่งนาคงจะสวยน่าดู แหะๆ ที่นี่จะทำให้คุณได้เรียนรู้วิถีชาวนา ขั้นตอนต่าง และได้มีการสาธิตการทอผ้าให้ด้วยกันด้วยนะ แถมที่นี่ยังมีบริการที่พักกันอีกด้วย

หลังจากเที่ยวมาเพลินๆ กันแล้ว ก็ได้เวลาหาอะไรลงท้องกันบ้าง มาถึงอำเภอปัวทั้งที ต้องมาหาเมนูเพื่อสุขภาพกินกันที่ “ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ํา” กินเพลินๆ บรรยากาศเงียบสงบ กินไป ชมวิวไป เมนูที่ไม่ควรพลาดที่มาแล้วต้องสั่งกัน คือ พิซซ่าเห็ด และ เห็ดหอมผัดซีอิ้ว ขอบอกเลยว่าต้องมาชิมกันจริงๆ แล้วคุณจะรู้สึกฟินกับบรรดาเมนูเห็ดทั้งหลายกัน

กินอิ่มกันแล้ว ไปหาที่เดินย่อยกันซะหน่อยดีกว่า! ไม่ใกล้ ไม่ไกล ข้างๆ ฟาร์มเห็ดนี่เอง ที่ “วังศิลาแลง” แกรนด์แคนยอนแห่งจังหวัดน่าน ชมสีเขียวของธรรมชาติ และความงดงามของสายน้ำและโขดหิน ที่นี่ยังถึอว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อันซีนของจังหวัดน่านกันอีกด้วยนะ

มาต่อกันอีกที กับจุดเช็คอินที่ห้ามพลาดของอำเภอปัว นั่นก็คือ “กาแฟบ้านไทลื้อ” หรือเรียกอีกชื่อว่า “ลำดวนผ้าทอ” มาจิบกาแฟ เดินชมทุ่งนา ถ่ายรูปชิคๆ ชิลล์ๆ กับสะพานไม้คู่กับผ้าทอ หรือจะเลือกซื้อเป็นของฝากกันได้ด้วยนะ ที่นี่ผ้าทอเค้าทอเองกับมือแถมสวยทุกผืนเลย ผ้าทอสวย กาแฟก็อร่อย แถมวิวดีอีกตั้งหาก สมควรแล้วที่เป็นจุดเช็คอินสุดฮิตของอำเภอปัว หรือถ้าใครอยากจะมาพักที่นี่ก็ได้นะ ที่นี่มีบริการที่พัก นอนชิลล์ๆ ข้างทุ่งนา รับบรรยากาศเงียบสงบ พร้อมตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้ากันได้อีกด้วย

หลังจากเที่ยวมาทั้งวัน ก็ได้เวลาหาที่พัก … แอดเลือกพักที่ “ปวินท์ศิลป์” ที่พักติดทุ่งนา ชมวิวธรรมชาติ มองภูเขา รอชมสายหมอกในยามเช้า เป็นอีกหนึ่งที่พักที่แนะนำกเลย เมื่อเลือกที่จะมาเที่ยวอำเภอปัวกัน

บรรยากาศยามเช้าหน้าที่พัก เพียงแค่เดินออกมาไม่กี่ก้าว ก็พบกับสายหมอกที่ปกคลุมอยู่ทั่วทุ่งนา พร้อมรับชมพระอาทิตย์ขึ้นกันได้เลยทีเดียว

หลังจากตะลุยเที่ยวเมืองน่านกันมา 2 วันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพ ก่อนที่จะกลับหาอะไรกินมื้อเที่ยงกันซะหน่อยที่ร้าน “จ๊างน่าน” อำเภอเวียงสา ร้านอาหารเก๋ๆ ร้านกาแฟ มึมุมถ่ายรูปมากมาย ร้านนี้กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวจังหวัดน่านกันอีกด้วย

ความพิเศษของกาแฟร้านนี้ คือ เมล็ดพันธุ์กาแฟที่ได้ปลูกไว้ที่ดอยภูคา เป็นเมล็ดพันธุ์กาแฟที่ขึ้นชื่อของจังหวัดน่าน มีความหอมและกลมกล่อมสุดๆ

ที่ร้านนี่มีขายทั้งเมนูอาหารอย่างเช่น ก๋วยจั๊บญวน, แหนมเนือง และมีเมนูเครื่องดื่มอีกมากมาย

นี่เป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวส่วนหนึ่งของจังหวัดน่านเท่านั้น ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวชมธรรมชาติ เที่ยวชมสถาปัตยกรรมเก่าแก่ และอุทยานแห่งชาติที่น่าไปเที่ยวภายในจังหวัดอีกมากมายรอให้ได้ไปเที่ยวกัน แล้วหาเวลาว่างไปให้ภูเขามาโอบเรากันดีกว่า แล้วคุณจะหลงฮักน่าน เหมือนที่ใครๆ เค้ามาหลงฮักที่นี่กัน