วงการอาหารชาวไทยกำลังจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่จากแบรนด์ไก่ทอดระดับโลก Wingstop (วิงสต๊อป) ที่กำลังจะเปิดสาขาแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการที่ MBK Center ชั้น 2 ในวันที่ 13 ธันวาคม 2568 โดยมี เนม-ปราการ ไรวา นักร้องนำวง Getsunova ก้าวขึ้นเป็นผู้บริหารแบรนด์ Wingstop ประเทศไทย หรือ Wingstop Bro

Wingstop เป็นแบรนด์ระดับโลกที่มีมากกว่า 3,000 สาขาใน 18 ประเทศทั่วโลก สร้างชื่อเสียงจากความเป็น Global Pop Culture ที่แทรกซึมอยู่ในไลฟ์สไตล์ของผู้คนทั่วโลก ตั้งแต่การถูกกล่าวถึงในเนื้อเพลงฮิตของวงการฮิปฮอป การเป็นมีมและไวรัลในวงการกีฬาบาสเกตบอลระดับโลก ไปจนถึงปรากฏการณ์การต่อคิวที่ยาวเหยียดในบางประเทศจนถูกเข้าใจผิดว่าเป็นทางเข้าไนต์คลับชื่อดัง สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า Wingstop ไม่ใช่เพียงแบรนด์อาหาร แต่คือไลฟ์สไตล์ที่คนรุ่นใหม่ทั่วโลกหลงใหล
ธุรกิจแห่งรสชาติ ไม่ใช่แค่ไก่ทอด
เนม-ปราการ ไรวา ผู้บริหารแบรนด์ Wingstop ประเทศไทย เผยถึงแนวคิดของแบรนด์ว่า “เราไม่ได้ทำธุรกิจไก่ทอด (Wings Business) แต่เราทำธุรกิจแห่งรสชาติ (Flavor Business)” โดยเชื่อว่ารสชาติไม่ใช่แค่เรื่องของอาหาร แต่เป็นประสบการณ์ที่สะท้อนตัวตนและทำให้ชีวิตของผู้คนมีรสชาติพิเศษขึ้นในทุกวัน นี่คือวัฒนธรรมความอร่อยแบบใหม่ที่แบรนด์ตั้งใจมอบให้กับคนไทยได้สัมผัสร่วมกับผู้คนในหลายประเทศทั่วโลก
แนวคิด “Bring The Flavor” ของ Wingstop มุ่งเน้นการส่งมอบประสบการณ์ที่ไปไกลกว่าความอร่อยของอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการสร้างปรากฏการณ์ทางด้านรสชาติที่จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนไทย
มาตรฐาน Made to Order และกรรมวิธีพิเศษที่ทำให้ต่างจากคู่แข่ง
ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านรสชาติ Wingstop ให้ความสำคัญกับคุณภาพอย่างจริงจัง ด้วยมาตรฐาน Made to Order ซึ่งหมายความว่าปีกไก่จะไม่ถูกทอดทิ้งไว้ภายใต้โคมไฟอุ่นร้อน แต่จะเริ่มทอดก็ต่อเมื่อมีคำสั่งซื้อเข้ามาเท่านั้น จึงรับประกันความสดใหม่ในทุกออเดอร์
กรรมวิธีที่เป็นเอกลักษณ์ของ Wingstop คือการคลุกเคล้าซอสด้วยมือในชามสแตนเลสใบใหญ่ เพื่อให้รสชาติซึมลึกเข้าเนื้อทุกอณูและสร้างความเข้มข้นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว วิธีการนี้ถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ Wingstop โดดเด่นจากคู่แข่งในตลาด
9 รสชาติซิกเนเจอร์บน Flavour Scale
Wingstop นำเสนอไลน์อัพรสชาติครบทุกสเปกตรัม โดยจัดระดับตาม Heat Scale ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่
ในกลุ่ม No Heat หรือไม่เผ็ดแต่อร่อย ประกอบด้วย Garlic Parmesan (การ์ลิก พาร์เมซาน) ที่นำเสนอความหอมเค็มกลมกล่อมแทรกความมันนัว Lemon Pepper (เลมอน เปปเปอร์) ราชินีแห่งรสชาติที่ผสานความเปรี้ยวสดใสของเลมอนกับพริกไทยในรูปแบบ Dry Rub หรือแบบแห้งที่ช่วยคงความกรอบ และ Hickory Smoked BBQ (ฮิกคอรี สโมก บาร์บีคิว) ซอสบาร์บีคิวเข้มข้นเคลือบไก่ทอดร้อนจนฉ่ำวาว หอมกลิ่นควันไม้ฮิกคอรี่ผสานกับความหวานเค็มนัว
ในกลุ่ม Some Heat หรือเผ็ดกำลังดี มีให้เลือก 3 รสชาติ ได้แก่ Hot Honey Rub (ฮอท ฮันนี่ รับ) การผสมผสานระหว่างน้ำผึ้งหวานฉ่ำกับพริกเผ็ดร้อนในรูปแบบ Dry Rub ที่ช่วยล็อคความกรอบ Louisiana Rub (หลุยเซียน่า รับ) ไก่ทอดคลุกเคล้าเครื่องเทศ Cajun (เคจัน) ซึ่งเป็นเครื่องเทศผสมสูตรพิเศษจากหลุยเซียน่าในรูปแบบแห้งที่ช่วยคงความกรอบและหอมฟุ้ง และ Texas Buffalo (เท็กซัส บัฟฟาโล) รสชาติแห่งจุดเริ่มต้นที่เป็นซอสสูตรแรกของแบรนด์ เป็นตำนานความเผ็ดเปรี้ยวจากเท็กซัสที่จัดจ้านและถูกใจผู้คนทั่วโลก

สำหรับกลุ่ม All The Heat หรือเผ็ดถึงใจ มีรสชาติสุดท้าทาย 3 แบบ ได้แก่ Mango Habanero (แมงโก ฮาบาเนโร) ความหวานฉ่ำของมะม่วงตัดกับความเผ็ดของพริก Habanero (ฮาบาเนโร) ซึ่งเป็นพริกที่มีความเผ็ดสูงชนิดหนึ่ง Inferno (อินเฟอร์โน) ความเผ็ดแบบไฟลุกระดับ 3 ดาวที่จำลองความระอุของเปลวไฟภายในปาก และ Atomic Blast (อะตอมมิค บลาสต์) ความเผ็ดระดับปรมาณูที่ระเบิดในคำแรกแล้วค่อยๆ กระจายความแสบร้อนออกมา เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความท้าทาย โดยรสชาตินี้เป็นรสชาติพิเศษที่มีเฉพาะใน 2 ประเทศในโลกเท่านั้น คือไทยและอินโดนีเซีย
เครื่องเคียงไฮไลท์และซอสดิปสูตรเฉพาะ
นอกจากปีกไก่รสชาติหลากหลายแล้ว Wingstop ยังมีเครื่องเคียงไฮไลท์อย่าง Voodoo Fries เฟรนช์ฟรายส์ราดชีสเยิ้มและเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ และที่ขาดไม่ได้คือ Ranch แรนช์ดิป ซอสจุ่มสูตรต้นตำรับที่เป็นลายเซ็นของ Wingstop ที่ทำสดใหม่ในร้านทุกวัน ไม่ใช่ซอสสำเร็จรูป ด้วยรสชาติความนัวที่เป็นเอกลักษณ์จนกลายเป็นต้นแบบที่หลายแบรนด์พยายามเลียนแบบ
Wingstop ยังมีเมนูเครื่องเคียงซิกเนเจอร์อื่นๆ เช่น เฟรนช์ฟราย โคลสลอว์ (สลัดกะหล่ำปลี) รวมถึงชีสดิป เพื่อมอบประสบการณ์รสชาติครบเครื่องในทุกมื้อ
Lifestyle Hub ของคนรุ่นใหม่
การเปิดตัวที่ MBK Center ครั้งนี้ไม่ใช่แค่การเปิดร้านอาหาร แต่ Wingstop ตั้งใจให้พื้นที่นี้เป็น Space ของคนรุ่นใหม่ที่ทุกคนสามารถมาพบปะสังสรรค์และเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม Bring the Flavor สาขาแรกนี้จะเปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-02.00 น. เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้บริโภคในเมืองไทย



