𝐀𝐋𝐓 – 𝐃𝐫𝐲 𝐀𝐠𝐞 ร้านอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจและความร่วมมือกันระหว่างเชฟแก้ว –ปวีณ์นุช ยอดปรีชาวิจิตร แชมป์มาสเตอร์เชฟไทยแลนด์คนแรก และเชฟสัญ – เวชกร เจริญปัญญาวุฒิ ผู้ผ่านเวทีมาสเตอร์เชฟไทยแลนด์มาแล้วเช่นกัน และหุ้นส่วนอีกหนึ่งคน จนเป็นที่มาของร้านอาหารไวบ์ดีน้องใหม่ย่านสาทร ที่มาพร้อมคอนเซปต์การ Dry Aged ให้คุณได้ลิ้มรสความอร่อยกัน
อาหารของร้านนี้เค้าเน้นเป็น ingredient ที่แต่ละอย่างล้วนผ่านการ Dry Aged มีตู้สำหรับดรายเอจตั้งโชว์อยู่หน้าร้านเลยก็ว่าได้ เค้าเอาทั้งเนื้อวัว เนื้อเป็ด และ Seafood ไปผ่านกระบวนการดรายเอจ จะ 14 วัน 30 วัน หรือ 45 วัน ก็ว่ากันไป จนได้ตามที่ต้องการจึงนำสู่กระบวนการปรุงอาหารให้เราได้ลิ้มลองกัน ทำให้ รสชาติเข้มข้น อร่อยยิ่งขึ้น ซึ่งอาหารที่เราไปจิมมีดังนี้ อ่อก่อนเข้าสู่อาหาร ร้านนี้เค้าจะทำออกมาแนว อาหารตะวันตกผสมผสานตะวันออก (เอเชียผสมฝรั่ง) ประมาณนี้ … เริ่มรีวิวกันเลย
เริ่มกันด้วยเมนู starter อย่าง Aged Hamichi Tartare เป็นการนำเนื้อปลาฮามาจิดรายเอจมาทำการหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วปรุงด้วยเครื่องปรุงสูตรเฉพาะของทางร้าน ใส่ลงมาในแป้งปานิปุริ ด้านล่างมีข้าวพองที่เราสามารถโรยเพิ่มความกรุบกรอบ มันเข้ากันอย่าบอกใคร
ระหว่างที่รออาหาร ทางร้านจะมีขนมปังที่ทางร้านทำเองทานคู่กับเนยให้เราได้ทานเพลิน ๆ ถ้าไม่พอก็สามารถขอใหม่ได้เรื่อย ๆ ครับ
ต่อเนื่องความอร่อยด้วย Burrata Salad ที่นี่รสชาติดีมากๆ เป็นชีสบูรัตต้าสดจากอิตาลี เนื้อเนียนนุ่ม พร้อมสลัดผัก และถั่ววอลนัท ราดด้วยบัลซามิกซอส ให้รสชาติกลมกล่อมและหอมละมุนที่ไม่เหมือนใคร สดชื่นมาก
ตามด้วย Onion soup หนึ่งในซุปที่คลาสสิคที่สุดตลอดกาล ซุปหัวหอมของทางร้านใช้กระดูกวัว dry age มาทำ มันเข้มข้นมากๆ เสิร์ฟคู่ขนมปัง ทานคู่กันให้เท็กซ์เจอร์หนึบ ๆ เข้ากันได้ดี แนะนำให้ทานตอนที่เสิร์ฟมาร้อน ๆ อย่ามัวแต่ถ่ายรูปกันนะครับ
อีกหนึ่งเมนูพิเศษ Truffle Soup สำหรับซุปอันนี้ เป็น base เห็ดที่เค้าใช้เห็ด หลายๆ อย่างผสมกัน และเติมใส่ทรัฟเฟิล์ไป 3 แบบทั้ง truffle oil, truffle paste, และ truffle สด มาก ให้กลิ่นหอมและรสชาติแบบเข้มข้น กลมกล่อมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ อันนี้เป็นซุป truffle ที่จะทานได้เรื่อยๆ ไม่เข้มข้น ไม่เลี่ยน ดีงาม
ต่อด้วย Age beef Tartare เนื้อสับผสมผสานเครื่องปรุง สไตล์เอเชีย มีความเผ็ดร้อนนิดหน่อย หอม เปรี้ยว ด้านบนเป็นไข่ดองนัวๆ อร่อยมาก อันนี้
Aged Hamachi Ceviche ปลาฮามาจิดรายเอจ 14 วัน ราดด้วย Fresh Cream และ Dill Oil ให้ความครีมมี่และหอมผักดิล รสชาติจะนัวๆ หอม ๆ อร่อยมาก เป็นครั้งแรกที่ได้ลองเนื้อปลาดรายเอจ
ตามมาด้วยเมนูเด่นของทางร้านอย่าง Golden Foie Gras Burger ที่ต้องบอกว่า ถ้าได้กินจะรู้เลยว่าไม่แพง เพราะใส่ Foie Gras ชิ้นโคตรใหญ่ และมาพร้อม เนื้อเบอร์เกอร์ชิ้นหนาใหญ่ juicy ปรุงรสด้วยกระเทียมและส่วนผสมสูตรเฉพาะของทางร้าน คือดีงาม นอกจากนี้ยังเป็น burger bun แบบที่สะใจมาก
ตับห่านฝรั่งเศสชิ้นใหญ่มาก เสิร์ฟคู่กับเนื้อ Dry Aged สะโพกติดมันบด เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังใช้แป้งขนมปังแบบ บริยอช นุ่มฟูเข้มข้น มี onion jam ที่เอาหัวหอมไปเคี่ยวจนเป็นแยม แล้วก็มีแยมเบอร์รี่ที่หวานนวน ๆ คือชิ้นนี้ดีมากบอกเลย ส่วนมันฝรั่งทอด เราคิดว่าน่าจะทอดแบบ double fired นะคือทอดสองรอบ เพราะกรอบนานมาก
พลาดไม่ได้กับเมนูซิกเนเจอร์อย่าง Ribeye 30 Day Dry aged พระเอกของวันนี้เนื้อไทยวากิวจากสกลนคร มานำมาเอจนาน 30 วัน เนื้อนุ่ม ๆ ชุ่มฉ่ำ ปรุงมาสุกพอดี เสิร์ฟมาพร้อมกับ Chicken red wine jus ที่เคี่ยวนานกว่า 1 วัน และกระเทียมดำ และวาซาบิดอง ดองเองที่บอกได้คำเดียวว่าจิ้มละเข้ากับ Ribeye จานนี้มาก (ส่วนใครที่ไม่ทานเนื้อ Dry Aged ทางร้านเขาก็มีเนื้อปกติไว้ให้เช่นกัน คนไม่ทานเนื้อทางร้านก็มีหมูนะครับ)
Crab Aglio e Olio Pasta สปาเก็ตตี้ผัดเนื้อปูที่ทำรสชาติมาแบบคนไทยชอบเลย จานนี้ใครขาดพาสต้าไม่ได้ แนะนำให้สั่งจ๊าอร่อย
ข้าวหน้าเป็ด และแน่นอนว่าเป็ดก็ผ่านกระบวนการดรายเอจมาแล้วเช่นกัน ก่อนเชฟนำไปปรุง เสิร์ฟคู่ซอสพะโล้ไวน์แดง คือดีงาม กลมกล่อม จานนี้เป็นเมนูใหม่ของทางร้านเลย เนื้อเป็ดคือหนา นุ่ม ให้ได้รสสัมผัสนุ่มหนึบ
ปิดท้ายมื้อพิเศษด้วยเมนูขนมหวานอย่าง Homemade Fudge Brownies Dark Chocolate ที่เป็นสูตรของ Le Cordon Bleu ที่เนื้อโคตรแน่นใครชอบแบบ Chocolate แบบตะโกนคือต้องกิน และก็มาพร้อมไอติม ฮาเซลนัท ไอติมดีงามมาก เป็นสูตร chef แก้ว ที่นางไปสั่งเค้าปั่นมาจ๊า
ยังไม้จบกับ Poach Pear ลูกแพร์ต้ม ด้านล่างมีครีม almond และ mix burry sauce อันนี้หอม หวาน เปรี้ยว อร่อยมากกกก เข้ากันได้แบบพอดิบพอดี เป็นอีกจานที่เค้าทำออกมาได้อย่างลงตัวเธอ ควรโดน
ร้านนี้ต้องบอกว่าไม่ว่าจะสั่งเมนูไหนมาลองก็อร่อยทุกอย่างเพราะ Chef แก้ว และ Chef สัญ 2 คนนี้อยู่ในวงการอาหารมายาวนาน ประสบการณ์และ technique คือตอนเค้าทำเมนูเค้าคิดไปถึงว่าทำยังไงให้อาหารออกมาอร่อยที่สุดด้วยแก เหมาะกับการไปกินกับเพื่อน กับแฟน กับใครก็ได้อะ เพราะอร่อย ยังไงก็ต้องไปกินซ้ำ
พิกัดความอร่อย|ร้าน 𝐀𝐋𝐓 – 𝐃𝐫𝐲 𝐀𝐠𝐞 ตั้งอยู่ย่านสาธร ถ้าไปรถไฟฟ้าก็ลงสถานี St’louis แล้วเดินเข้าสาธร ซอย 12
เปิดทุกวัน (เว้นวันจันทร์) 11:30 – 22:00 น. (Last order 21:30 น.)
เบอร์โทร |082 263 4922
BTS เซ็นต์หลุยส์ | จอดรถริมถนนได้ หรือลานจอดรถฝั่งตรงข้าม (สามารถแสตมป์บัตรที่ร้านได้ 1 ชั่วโมง)
Website : https://altdryage.wixsite.com/alt-dry-age
แผนที่การเดินทาง (Google Map) https://maps.app.goo.gl/LT42a3A6pHNcEmqt8