ชมสินธุ์ ห้องอาหารไทยแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯที่ต้องการชูคุณค่าวัตถุดิบแห่งน่านน้ำไทย พร้อมนำเสนอสูตรอาหารต้นตำรับให้ผู้ที่รักอาหารไทยได้รับประทานอย่างหลากหลาย แสดงออกถึงมรดกทางวัฒนธรรม ความรุ่มรวยของอาหารทะเลและปลาแม่น้ำในฤดูกาลต่าง ๆ พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 มกราคม 2567
บรรยากาศของทางร้านมาพร้อมการตกแต่งแบบเรียบง่ายสบายตา เลือกใช้โทนสีที่สร้างความอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ได้แก่ สีคราม สีเขียวเทอร์ควอยซ์ และสีน้ำตาล สามารถรองรับแขกได้มากถึง 48 ท่าน และมีมุมไพรเวทแยกสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ห้องอาหารยังได้รับการตกแต่งแบบร่วมสมัย เน้นใช้วัสดุจากไม้และดินเผา
บ่งบอกถึงความสนุกสนาน ทันสมัยแต่หากยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคก่อน ในขณะที่ผู้ออกแบบยังคงใช้ลวดลายไทยที่เราคุ้นตามาสร้างความรู้สึกให้นึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวภายในบ้าน มอบบรรยากาศการรับประทานอาหารแบบไทยที่มักมีสมาชิกในบ้านทุกรุ่นมาร่วมโต๊ะพร้อมหน้าพร้อมตากัน
ชมสินธุ์ แปลว่า “การมองดูสายน้ำ” ได้แรงบันดาลใจในการออกแบบร้านอาหารจากห้องแถวสมัยก่อน รวมถึงการเลือกใช้โทนสีที่สร้างความอบอุ่นอย่างเป็นธรรมชาติ ได้แก่ สีคราม สีเขียวเทอร์ควอยซ์ และสีน้ำตาล พร้อมการตกแต่งแบบร่วมสมัย เน้นใช้วัสดุจากไม้และดินเผา บ่งบอกถึงความสนุกสนาน ทันสมัย แต่ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของยุคก่อน ห้องอาหารสามารถรองรับแขกได้มากถึง 48 ท่าน
สำหรับความพิเศษของห้องอาหาร “ชมสินธุ์” คือการนำเสนอเมนูอาหารไทยที่หารับประทานได้ยากในทุกวันนี้ และกำลังเลือนหายไปจากความทรงจำ โดยนำสูตรต้นตำรับมาปรับให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้น สำหรับวัตถุดิบหลักที่เป็นตัวชูโรงคืออาหารทะเล และของสดจากแม่น้ำ อาทิ ล็อบสเตอร์จากจังหวัดภูเก็ต ปูจากจังหวัดประจวบคิรีขันธ์ กุ้งแม่น้ำจากอำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม รวมถึงข้าวหอมมะลิจากจังหวัดอำนาจเจริญ
ชมสินธุ์ ยังเลือกใช้วัตถุดิบทั้งหมดจากผู้ผลิตโดยตรงทั่วประเทศไทย และใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกให้มากสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นสร้างการบริโภคอย่างยั่งยืน เช่นเดียวกับกระบวนการในห้องครัวซึ่งเชฟจะใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบอย่างรู้คุณค่า เช่น ใช้ก้างปลามาทำน้ำสต็อก หรือทำผงปรุงรสจากเปลือกกุ้ง ตรงกับหลักการ Zero Waste หรือแนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์
ทางด้านเมนูอาหาร ทางห้องอาหารพร้อมเสิร์ฟความอร่อยจาก ประวีณ ดีลี เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงผู้รับหน้าที่เป็นผู้นำในครัว มาพร้อมทักษะและความรู้ที่สั่งสมมาตลอดเส้นทางอาชีพเชฟของเขา โดยเฉพาะในเรื่องสมุนไพร เครื่องเทศ และความเผ็ดร้อนในอาหารไทยที่มีมิติและตัวแปรอันแตกต่างกันออกไป เชฟประวีณเข้าใจวัตถุดิบทุกชนิดเป็นอย่างดี และรังสรรค์ตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ โดยเฉพาะเครื่องแกงแบบโฮมเมดซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของอาหารไทย
สำหรับเมนูไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เราขอแนะนำให้แฟนๆ ลองสั่ง
สำหรับเมนูแรก ขอแนะนำ “แสร้งว่ากุ้ง” อาหารเรียกน้ำย่อยเมนูโบราณที่จะได้สัมผัสความแน่นของเนื้อกุ้งที่จับตามธรรมชาติ และสมุนไพรนานาชนิดที่ใช้เป็นส่วนประกอบของเมนูนี้
จากนั้นมาต่อกันที่ “แกงคั่วปูใบชะพลูและใบชะคราม” รสหวานธรรมชาติของเนื้อปูจะตัดกันกับความเข้มข้นของรสแกงได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยให้ทานได้แบบเพลิน ๆ ลงตัวกับข้าวสวยร้อน ๆ
ตามด้วยเมนูไฮไลต์อย่าง “นารีกรรแสง” ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูโบราณที่ควรได้ลิ้มลอง ใช้กุ้งทะเลเป็นส่วนประกอบหลัก เพิ่มความเผ็ดร้อนด้วยสามเกลอ พริกแห้ง และใบกะเพรา
มาถึงเมนูไฮไลต์ ที่เราภูมิใจนำเสนอในวันนี้ ต้องขอยกให้กับ “ผัดไทยกุ้ง” สูตรพิเศษของทางร้านที่ เชฟปรุงรสมาแบบกลมกล่อมแทบไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย วันนี้พวกเราสั่งมาลองกันถึง 2 จานแถมมีเพื่อนสั่งกลับบ้านไปฝากคุณสามีด้วย (บอกเลยว่าอร่อยมากสำหรับผัดไทย) แต่ทางร้านเขามีซอสสูตรพิเศษเป็นของทางร้านที่ทำมาจากไข่เค็มไชยา เป็นของฝากขึ้นชื่ออย่างหนึ่งของอำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เสริฟมาให้คุณลิ้มลองด้วย
ตามด้วยอีกหนึ่งเมนูท้องถิ่นของทางภาคใต้ที่น่าสนใจอย่าง “หมึกผัดน้ำดำ” ผัดปลาหมึกสีดำเข้ม ของห้องอาหาร ชมสินธุ์ จะมาพร้อมรสชาติกลมกล่อมหวานนำครับ
ต่อกันด้วย “ยำมะเขือยาวปลาสลิด “อาหารเรียกน้ำย่อยที่จะสร้างความอร่อยจากสัมผัสอันแตกต่าง ระหว่างความกรุบกรอบของปลาสลิดทอด และเนื้อนุ่มละมุนของมะเขือยาว พร้อมน้ำยำรสชาติจัดจ้าน
กินคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ซึ่งห้องอาหาร ชมสินธุ์ เลือกใช้ข้าวหอมมะลิจากจังหวัดสุรินทร์ ปิดท้ายมื้ออร่อยด้วย
ปิดท้ายกันด้วยเมนูของหวานโบราณอย่าง “ส้มฉุน” เมนูของหวานตั้งแต่ครั้งโบราณที่จะสร้างความเย็นชื่นใจในทุกคำ ประกอบด้วยผลไม้รสเปรี้ยวตามฤดูกาล สมุนไพร และน้ำเชื่อมรสหวานกำลังดี จริง ๆ ที่ร้านมีของหวานให้เราได้เลือกสั่งมาทานเยอะมาก ลองดูได้จากเมนูที่พวกเราสั่งกันดูนะครับ
เมนูทั้งหมดสามารถสั่งได้แบบอะลาคาร์ท เหมาะสำหรับการสั่งมาหลายอย่างเพื่อแบ่งกันรับประทานแบบคนไทย
เครื่องดื่ม แนวคิดการเลือกใช้วัตถุดิบทุกอย่างภายในประเทศไทยยังรวมไปถึงเมนูเครื่องดื่มอีกด้วย ห้องอาหาร ชมสินธุ์ มีเมนูค็อกเทลแนะนำหลายเมนูที่ใช้สุราที่กลั่นในไทยทั้งหมด อาทิ Siam Sindh ทำจาก Mekong น้ำเชื่อมอบเชย และน้ำส้ม หรือ Rum Wong ทำจาก Chalong Bay และแตงกวาหั่นบาง อีกทั้งยังมีเบียร์และไวน์ที่ผลิตในประเทศไทยมาให้เลือกอีกหลายรายการ นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มยอดฮิตของคนไทยมานานกว่า 80 ปี – เบียร์วุ้น เย็นชื่นใจ เหมาะสำหรับการดื่มคู่กับอาหารไทยเป็นอย่างยิ่ง
สำหรับเครื่องดื่มทั้งหมดที่ห้องอาหาร ชมสินธุ์ ก็ยังคงยึดมั่นในแนวคิดการเลือกใช้ของทุกอย่างภายในประเทศไทย ทั้งสุรา ไวน์ คราฟท์เบียร์ และเบียร์วุ้น ล้วนคัดสรรจากผู้ผลิตในไทยมาให้เลือกมากมาย เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานอาหารให้ดียิ่งขึ้น
สรุปให้ว่า … ใครเป็นอาหารไทยเลิฟเวอร์ต้องห้ามพลาดไปลองร้านนี้น้า
พิกัดความอร่อย M ห้องอาหาร ชมสินธุ์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 4 โรงแรมอมารี กรุงเทพ
เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12:00 น. – 23:00 น.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสำรองโต๊ะ โทร: +66 2653 9000