ลิ้มรสความอร่อยของอาหารไทยตำรับชาววังที่ห้องอาหารไทย “The House of Smooth Curry”

Eating, EDITOR’S CHOICE

หากคุณกำลังมองร้านอาหารไทยดีๆ สักร้านไว้ฝากท้องแล้วละก็ วันนี้เรามีร้านในฝันที่คุณกำลังมองหามาแนะนำครับ

อาหารไทยตำรับชาววังที่ The House of Smooth Curry โรงแรม The Athenee Hotel, a Luxury Collection Hotel, Bangkok เป็นอีกตัวเลือกทีเรากำลังจะพาคุณไปรีวิวในวันนี้… ก่อนไปดูอาหารเราอยากให้คุณได้พบกับห้องอาหารสาขาใหม่ถูกออกแบบตกแต่งมาในบรรยากาศสุดคลาสสิก ที่ผสมผสานความเป็นอดีตและปัจจุบันออกมาได้อย่างลงตัวทำให้คุณได้สัมผัสทั้งบรรยากาศความเป็นไทย และอาหารไทยที่อร่อยอย่างแท้จริง

เริ่มด้วย Welcome Drink น้ำกระเจี้ยบหอมๆสดชื่น พร้อมด้วย ข้าวเกรียบทอด รสดีไม่อมน้ำมัน

ขอแนะนำเมนูแรกด้วยที่ทางห้องอาหารเริ่มเสิร์ฟกันด้วยเมนูแรกที่เราเลือกเพื่อเรียกน้ำย่อยคือ “เมี่ยงบัวหลวง” จัดว่าเปิดม่านได้ดี สวยงาม รสชาติกลมกล่อม

ตามด้วย “ค้างคาวเผือกมันม่วง” ซึ่งหาทานยากมาก และอร่อยมาก เพราะเชฟใช้มันม่วงผสมด้วย ทำให้รสละมุนขึ้นไปอีก แนะนำให้ลอง แต่ไม่อยากทานเยอะกลัวที่ไม่พอจานอื่นๆ 5555 (แต่ก็เบิ้ลไปนะ)

เมนูหาทานยากอีกหนึ่ง คือ “แสร้งว่ากุ้ง” กุ้งแม่น้ำตัวโตๆ หอมกลิ่นกุ้งเผา น้ำยำและส่วนผสมคือมาแบบเบาๆผู้ดีๆ ถึงแม้รสจะไม่จัดมากแต่อร่อย และที่เด็ดคือปลาดุกฟูในจาน ช่วยเพิ่มความฟิน

เมื่อพูดถึงอาหารไทย ก็ต้องมีน้ำพริก “น้ำพริกมะขาม” ทานคู่ผัดสดกรอบอร่อยมาก มีการเอาผักไปช็อคน้ำเย็นก่อนเสิร์ฟ น้ำพริกมะขามก็จริง แต่ส่วนประกอบหลักๆคือ กะปิ ซึ่งดีมาก สายกะปิจะต้องร้องกรี้ด แอบถามคือใช้เคยจากระยอง ส่วนสายไม่กะปิ ก็ควรลอง เพราะกะปิมาแบบเบาๆผสมน้ำมะขามอมเปรี้ยวหวาน ทำให้ไม่กะปิหนักหน่วงมาก ที่เน้นความหอมมากกว่า

เมื่อรู้ละว่ากะปิที่นี่เริ่ด และมีเมนูหาทานยากอีกหนึ่งก็ต้องจัด นั่นคือ “แกงรัญจวนเนื้อ” คือดีมากอีกเช่นกัน ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร หอมมาก แค่พนักงานถือมาใกล้โต๊ะก็ได้กลิ่นแล้ว รสชาติค่อนข้างเข้มข้น ฟิน ใช้เนื้อโพนยางคำ แต่สายไม่ชอบกะปิควรระวัง เพราะกลิ่นฟุ้งกระจายมากจริงแบบไม่หวงเครื่องเลย

ต่อกันด้วยความจัดจ้านของเมนูต่อมา “แกงปูใบชะพลู” คือ ฟินตายคาโต๊ะไปเลย ตัวนี้ต้องโดนมากๆ จะต้องกลับมาเพื่อเมนูนี้แน่นอน เครื่องแกงดี ทุกอย่างดี เข้มข้นแต่ไม่เผ็ดร้อนเกินไปแบบร้านใต้บางร้าน และไม่เบาบางเกินไปแบบเอาใจคนภาคอื่น คือบาลานซ์ได้ดีมาก เพื่อนที่ไปด้วยมีคนใต้ ก็บอกว่ารสดีเลย ถ้าฟาดเนื้อกรรเชียงปูลงไปอีกเยอะๆ คงจะหน่ำใจไม่น้อย

เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ห้ามพลาด “แกงระแวงกุ้งแม่น้ำ” เอาตรงๆคือไม่เคยกินที่ไหนมาก่อน จึงเปรียบเทียบไม่ได้ แต่เอาเป็นว่า กรรมวิธี วัตถุดิบ คือดี แกงละมุน แต่เข้มข้น มีความพริกแกง ผสมมัสมั่นนิดๆ หอมเครื่องและกุ้ง เข้ากันได้ดีมาก กินพร้อมข้าวสวยหอมๆร้อนๆ นี่คือดียิ่งนัก

แกงสุดท้าย “แกงนอกหม้อไก่บ้าน” เป็นสูตรลับของคุณแม่เชฟ ซึ่งก็ไม่เคยกินแกงนี้มาก่อนเหมือนกัน จากการสอบถามคือกรรมวิธีส่วนใหญ่ เกิดขึ้นนอกหม้อ เช่น เอาไปผัดมาก่อน แล้วค่อยนำส่วนประกอบทั้งหมดมาใส่หม้อ ไก่บ้านก็จริง แต่ไม่เหนียวเลย เครื่องก็ใส่มาแน่นมาก แต่กลิ่นและรสเข้ากับเนื้อไก่อย่างน่าประหลาด รสชาติมีความแกงหลายๆชนิดผสมกัน จากเครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆ แนะนำให้ลองเช่นกัน แกงนอกหม้อไก่บ้านสูตรนี้คุณสามารถหาทานได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

มาที่ของทอดบ้าง “ปลาเก๋าซอสมะขาม” ก็คือดีงาม คือเทคนิคการทอดปลาให้เนื้อยังนุ่ม แต่กรอบนอก ไม่อมน้ำมันคือเด็ด ซอสมะขามก็กลมกล่อมกว่าที่อื่นๆ ไม่รู้เขาทำยังไงเหมือนกัน

อีกหนึ่งเมนู ที่ตกใจคือ “ผัดหมี่โคราชกากหมู” คือผัดมาได้ดีมากทั้งเส้น เครื่องที่ใส่ และการปรุงรส คือ อร่อยกว่า ร้านผัดไทย ผัดหมี่ ดังๆรอคิวยาวๆ หลายเจ้าคือต้องพ่ายไป surprise สุดอันนี้

เสิร์ฟของคาวไปครบละ ได้เวลาปิดท้ายที่ของหวาน ที่เรียกได้กว่าเด็ดไม่แพ้ของคาว….

“ส้มฉุน” เมนูหาทานยาก แต่ที่นี่อร่อยสุด ทั้งเครื่องที่ใส่มา กลิ่นหอม และน้ำเชื่อมที่กลมกล่อม กินเสร็จคือสดชื่น ล้างความคาวแบบหมดสิ้น มีแต่กลิ่นหอมๆในปาก อันนี้ก็ต้องลอง ดีสุดในบรรดาร้านอาหารที่มีส้มฉุนให้ลองแล้วเธอ

“ขนมโค” หาทานยากอีกเช่นกัน แม้จะไม่ยากเท่าส้มฉุน แต่ที่อร่อยๆก็เรียกว่ายาก ซึ่งของที่นี่ ก็อร่อยที่สุด ไม่ว่าจะน้ำกะทิหอมๆ หวานอมเค็มแบบพอดี เนื้อแป้งบางแต่เนียนนุ่ม เข้ากันได้ดีกับไส้เนื้อมะพร้าวขูด หอมน้ำตาลมะพร้าว เริ่ดมากเวอร์