กลายเป็นอีกหนึ่งร้านในดวงใจไปแล้วสำหรับ เตี๋ยวยำแซ่บ หนึ่งในร้านอาหารที่หากมีเวลาว่างต้องแวะมาทานเสมอ เหตุผลหลักเพราะใกล้บ้าน…แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความน่ารักของเจ้าของร้านนั้นเอง
ต้องอ่านให้จบแล้วคุณจะรู้ว่าทำไมเราถึงบอกว่า เจ้าของร้านเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เรามักแวะมาฝากท้องที่นี่….
ตัวร้านแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนั้นคือส่วนของ ร้านเตี๋ยวยำแซ่บ และ ร้าน Street Seafood by เตี๋ยวยำแซ่บ ซึ่งร้าน Street Seafood เป็นแนว ๆ ชายหาด จะเปิดตอนเย็นๆ หลังจากร้าน ร้านเตี๋ยวยำแซ่บ ปิดแต่ตอนกลางวันก็เปิดให้ข้ามฝั่งไปนั่งทานอาหารโซนนั้นได้
ที่ร้านมีที่จอดรถกว้างขวางครับจอดได้หลายคันเลย ถึงแม้จะเป็นร้านข้างถนน แต่เรื่องที่จอดรถพูดเลยชนะเลิศ
สำหรับร้านนี้ขอเขียนรีวิวแบบส่วนตัวละกันครับ เพราะส่วนตัวแล้วชอบร้านนี้มากเนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน การเดินทางก็ทำได้ง่ายๆ ตัวร้านตั้งอยู่ตรงรริมถนนก่อนถึง 5 แยกวัชรพล ผ่านตลาดถนอมมิตรและห้างเพลินนารี่ มอลล์ บังคับเลี้ยวซ้าย ก่อนจะถึงโลตัส เอ็กซ์เพรส วัชรพล จะเจอร้าน เตี๋ยว ยำ แซ่บ อยู่ซ้ายมื้อ ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน ปตท.
หากเข้าทางรามอินทรา 39 ก็ขับตามทางมาเรื่อยๆ พอถึง 5 แยกวัชรพลให้เลี้ยวซ้าย ตัวร้านตั้งอยู่ริมถนนด้านซ้ายมือพอดีครับ
พี่ครับขอเมนูหน่อย…
แม้ตัวร้านจะมองแล้วไม่ได้หรูหรามากนัก แต่เรื่องคุณภาพอาหารของที่ร้านถือว่าสุดยอด วัตถุดิบทุกอย่างถูกคัดมาแต่ของเกรดเอ ทั้งสดและใหม่
เริ่มกันที่เมนูแรก Canadian Lobster ต้มยำรวมทะเลน้ำข้น ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนัก Lobster อยู่ที่ 900/1,600 บาท Lobster สั่งตรงจากประเทศแคนาดา เห็นแค่รูปก็น้ำลายสอแล้ว…
ขอบอกทุกคนว่าเมนูนี้โคตรฟินนนนเลย แม้จะต้องแลกมาด้วยราคาที่ค่อนข้างสูงก็ตาม
เนื้อกุ้งแน่นและกรอบมาก กินคำแรกสัมผัสได้ถึงความหวานฉ่ำในเนื้อเลย (ลืมบอกไปว่าที่ร้านใช้กุ้งสดๆ ในการปรุงอาหาร)
ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้วมันบนหัวของกุ้ง Canadian Lobster อร่อยมาก สำหรับวันนี้ยอมอ้วน
ก้ามใหญ่ๆ ที่พวกเราพยายามแกะ
ใครชอบทานเนื้อต้องเมนูนี้ เนื้อวากิวย่าง จิ้มแจ่ว ขีดละ 350 บาท
ดูมุมนี้อาจดูไม่ใหญ่พอลองอีกมุมครับ ผมว่ามันคุ้มนะ คนชอบเนื้อห้ามพลาด!!
เห็นยังว่าเนื้อมีความชุ่มฉ่ำขนาดไหน? ชิ้นนี้อร่อยแบบไม่ต้องจิ้มกับน้ำซอส อร่อยเพลินเลย เผลอแปปเดียวเกือบเกลี้ยงจาน
ความรู้สึกตอนนี้เหมือนจะอิ่ม แต่ยังไม่สุดเอามาต่อกันดีกว่า ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเลน้ำข้น ราคา 80 บาท มาพร้อมไข่มะตูมที่แพ็คทีมมาพร้อมกับกุ้งแชบ๊วย, ปลาหมึก ,ปลาเก๋าชิ้นและแมงกระพรุน ส่วนรสชาติแนะนำว่ามาลองเอง 555
ได้เวลาเฉลยแล้วครับว่าทำไมเราถึงประทับใจพี่กวางเจ้าของร้านเป็นพิเศษ อย่างที่บอกวันนี้เราตั้งใจไปกินกันจริงเจ็บจริง
ดังนั้นกว่าจะได้กินก็ต้องถ่ายรูปกันก่อน ตรงนี้คาดว่าพี่กวางคงเห็นและเข้ามาชวนเราคุย ก็แนะนำตัวกันไป หลังจากนั้นคุณครับ รายการที่คุณจะเห็นต่อไปนี้มันเป็นอะไรที่เรียกว่า พี่กวางเค้าจัดให้ ่ฟรี………………
เริ่มกันที่เมนูแรก ทาราบะ ซอสไข่ปู(Taraba King Crab) ราคา 600 บาท กับซอสปูทำจากไข่ปูทะเลหวานมัน ทานกับเส้นหมี่ ใส่ความเป็นไทยลงไป เป็นเมนูใหม่ที่หาทานที่ไหนไม่ได้
ปูเนื้อแน่น ๆ ส่วนนี้ต้องแกะกุ้งเองแต่หากไม่อยากทำเองที่ร้านเค้าก็บริการให้
ราดด้วยซอสก็เพิ่มรสให้ยิ่งอร่อยมากยิ่งขึ้น อืม…พร้อมเข้าปาก
ที่เห็นเป็นเม็ดเล็กๆ นั้นคือไข่กุ้งครับตอนเคี้ยวโดนจะรู้สึกหนึบๆ
พี่กวางยังคงเสิร์ฟอาหารให้เราอย่างต่อเนื่อง เมนูต่อมาเป็นหอยเชลล์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น หอยเชลล์ฮาโกดาเตะ(Hokkaido Scallop) จานนี้ราคา 165 บาท เห็นขนาดแล้วมันใหญ่กว่าทั่วไป 2-3 เท่าเลย นำมาย่างเกลือ เสริฟพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด
ซูมหอยกันหน่อย!! เชื่อยังว่าหอยตัวใหญ่จริง
ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดรสจัดจ้าน
ฟินกับอาหารญี่ปุ่นตรงหน้าเหล่านี้จริงๆ สด อร่อยเหมือนไปกินที่ญี่ปุ่นเลย >.<
“ไวต์คิงแซลมอนซอสสามรสสมุนไพร (White King Salmon) ซอส 3 รสสมุนไพร่ ราคา 234 บาท เนื้อปลานุ่มละเอียด หลังจากกัดเรารู้ได้ถึงความแน่นของปลาและที่สำคัญไขมันน้อยกว่าแซลมอนแอตแลนติก
สำหรับเมนูนี้เอาไปเลย 10 คะแนนความคิดสร้างสรรคสุดๆ
อาหารทั้งหมดที่กินกันในวันนี้
สุดท้ายต้องขอขอบคุณพี่กวางเจ้าของร้านที่สร้างความประทับใจให้พวกเราพร้อมสโลแกน “เสียหายไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้”
จุดนี้ ต้องบอกว่าท้องอิ่มมาก ไม่สามารถรับอะไรเพิ่มลงไปได้อีกแน่ๆ ว่าแล้วก็มาคิดค่าเสียหายของเราในมื้อนี้กันดีกว่า มื้อนี้เราหมดไปทั้งหมด 2,400 บาท
แม้จะเป็นร้านอาหารริมทาง แต่เจ้าของก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี รสชาติของอาหารด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึงเห็นได้จากข้างบนแล้ว หากใครมีเวลาก็ลองแวะมาทักทายฝากท้องกับพี่กวางได้ครับ