รีวิวแรก ตั้งสติแพร๊บบบโจทย์สั้น ๆ ประเทศใกล้ๆ ภายใน 2 วัน 1 คืน ลาว กัมพูชา เวียดนาม…ไกลไป สิงค์โปร์ หรอ มันยังไม่ใช่และแล้ว……ภาพแห่งความทรงจำเก่าๆ กลับมา “ปีนัง” เว่ยยยย ที่ฉันอยากไป
เคยดูละครตอนเด็กๆ นางเอกต้องไปอยู่โรงเรียนประจำ คอนแวนต์โรงเรียนหญิงล้วนใน “ปีนัง” ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่ามันอยู่ที่ไหน..รู้แต่ว่าฝั่งใจว่าสักวันจะไปที่นั่น
ทริปเล็ก ๆ ที่ไปกันแบบจำกัดวันและเวลา ต้องเป็นเสาร์-อาทิตย์นี้ เท่านั้น บร๊ะเจ้า !! เรื่องวันกดดันไปมั๊ยยย
แต่สรุปอือ….ไปก็ไป
ตามที่เคยไปสิงอยู่ในกลุ่ม แบกเป้เที่ยว แบ็คแพ็ค Pantip โน้น นี่ นั่น มาเคยมีเพื่อนในพันทิพย์นี่ล่ะ คีบแตะ ไปมาล่ะ เจอ Street Art ภาพวาดที่อยู่ข้างกำแพง ตามไปสิค่ะคู้นนนน จะรออะไร ชอบอยู่แล้ว นิ !!
“ไปน้อยจัง ไปทำไม ไม่เห็นมีอะไรเลย” ง่า…ถ่อยคำนี้ช่างบาดหัวใจเราเหลือทน คนเราชอบไม่เหมือนกันนิน๊อ.. เหตุการณ์สงบ…มีเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ไป 3 คน
เวิ้นเว้อมานาน…หาข้อมูลในระยะเวลากระชั้นชิด..เอาฟร่ะ ต้องลองดูสักครั้ง งานนี้ถามลุงอย่างเดียว Google ช่วยได้
เริ่มเร้ย…นั่งเครื่อง กรุงเทพฯ – หาดใหญ่ ตอนเราจองเจอ ไป-กลับ 2,508 บาท(วางแผนล่วงหน้ามีถูกกว่านี้ หรือ ดีไม่ดีอาจเจอโปรถูก ๆ กรุงเทพฯ-ปีนัง ก็จัดโล้ด)
ตอนไปก็ว่าดูเวลาตรงแล้วน๊า….สุดท้าย วิ่งลากกระเป๋า 3 คนสุดท้าย เฉียดชิว เกือบป๊ะแอร์เอเชีย : บินตรงเป๊ะ 7:25-9:00 น.
เครื่องลงปุ๊บ ก็เดิน ออกมาหน้าทางสนามบิน ขึ้นรถสองแถวสีฟ้าที่จอดอยู่ บอกว่าไปตลาดกิมหยงค่าโดยสารก็คนละ 30 บาท นั่งประมาณ 30 นาที (แต่รถรอนานไปนิด..ถ้ารีบก็เหมาแท็กซี่เร้ยค่า)
โอ๊ย…เห็นว่าเลยเวลาล่ะ ก็เลยลองเดิน ๆ ไปดู บริษัทฯ อื่น คิดว่าน่าจะมีรถที่ไปอีกมั่ง สรุป มีค่าาา แต่แพง………. โทรหาพี่ที่ KST อีกครั้ง ถามพิกัดที่แน่นอน
รถตู้ไปปีนัง KST อยู่ตรงข้าม โรงแรม อโลฮ่าถ้าใครมารถไฟที่หาดใหญ่ก็เดินตรงไปได้ชิล ๆ ไม่ไกล
ค่ารถตู้ KST ตีตั๋วไป – กลับ 750 บาท (เที่ยวเดียวก็ 400 บาท) ถูกสุดล่ะ เท่าที่ค้นเจอวิ่งแค่วันละ 2 รอบ ดูเวลาดีๆ น๊า
ขาไป (เวลาไทย) ขากลับ (เวลามาเลเซีย)
รอบที่ 1 เวลา 9:30 น. รอบที่ 1 เวลา 12:00 น.
รอบที่ 2 เวลา 12:30 น. รอบที่ 2 เวลา 16:00 น.
***เวลาของประเทศมาเลเซีย จะเดินเร็วกว่าของเรา 1 ชม.
มีหน้าที่จ่ายเงินและรอเวลา..พี่ จนท.เขียนเอกสารผ่านด่านให้หมดล่ะ
เศร้า….มาไม่ทันรถเที่ยวแรก เดินเล่นอยู่รอบหน้าใหญ่เลยคร๊ะคู้นน นั่งรถมาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ถึงด่านสะเดา ยืนเอกสารให้ ตม. ตรวจสอบได้เร้ยค่า
นั่งรถยาว ๆ ไป ชมวิวทิวทัศน์ ข้างทางไปเรื่อยหลับๆ ตื่นๆ ผ่านไปประมาณเกือบ 4 ชั่วโมง ข้ามสะพานแระเว่ยยยย ฝั่งโน้นคือ “ปีนัง”ทางขวาเห็นตึกเยอะๆ คือ Georgetown ช่ายม่ายยยย
จองที่พัก กับ agoda เรียงคัง แอท มุนตริ สตรีท(Ryokan @ Muntri Street) ราคาดีถูกเว่อร์ จองแบบ Dorm 6 Mix จ่ายไป 813 บาท (คนละ 271 บาทรวมอาหารเช้านะคู้น)
แต่ส่งสัยทางร้านจะเห็นว่ามากันแต่สาว อัพเกรดที่พักให้นะ กลายเป็น Dorm 4 ว๊า ฝันสลายกะว่าจะได้รูมเมทเพิ่ม ก็หายไปซะล่ะ
ที่พักเป็นห้องน้ำรวม ห้องอาบน้ำ 4 ห้อง ห้องสุขา 4 ห้อง น้ำแรง สะอาด ดีเกินคุ้มง่ะ
อ่อ..ลืมบอกว่ามัดจำค่ากุญแจไปด้วยนะ 100 RM ได้กุญแจมา 2 ดอก เป็นคีย์การ์ดด้วยนะเออออ
เดินขึ้นไปด้านบนมีตู้สำหรับใส่รองเท้านะ…เดินเท้าเปล่าบนที่พัก ในห้องพักมีชั้นสำหรับใส่ของ 4 ชั้น เตรียมลูกกุญแจไปเองน๊า..ปลั้กเป็นแบบ 3 ตา หาตัวต่อไปด้วยนะจะได้ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ
ทางเดินข้างบนเป็นทางเดินยาว ๆ เป็นไม้ มีพรมปูเป็นทางให้เดิน ตอนนอนแอบมีสะดุ้งนะ เพราะเสียงฝีเท้าแต่ละคนแรง มว๊าก !!! ถ้าเป็นบ้านเราคงโดนตีน่องปู้ดดด แต่ดึกๆ ก็หลับ เงียบสงบ…
วางกระเป๋าเสร็จ ท่องไว้ Street Art เอ่ย คำว่า “Street Art” ปุ๊บ ได้แผนที่พร้อมอธิบายเส้นทางเลย ใจดีจัง กางแผนที่แต่ก็ถามตลอด ผู้คนที่นี้ใจดีนะบอกเส้นทางเต็มที่
ไม่ไกลนะ……เดินได้ วันแรกสินะ..พลังเยอะ
เดินกันไป กินลมชมวิวไปเรื่อย..
เป็นซอย..เดินลัดเลาะไปเรื่อย เจอคล้ายๆ ถนนคนเดิน
กังหันสีสวย..ถ่ายไว้หน่อย
เดินฟรี !! ไม่มีค่าใช้จ่าย เอาลุยยยย เจอแล้ววววว ร้องเสียงดัง ภาพแรก ภาพ A
ภาพ C
ภาพ H
ภาพ L
ภาพ N
ภาพ O
ภาพ S
โน้น ๆ อยู่ข้างตึก…ชี้ไปเรื่อย อารมณ์เดียวกับเล่นเกมส์หา RC
เดินเรื่อยๆ
ตึกเก่า สไตล์ชิโนโปรตุกีส เมืองมรดกโลก
รูปภาพก็แอบอยู่ข้างกำแพง..
เดินคุยกันเพลิน ๆ หุ่ยยย ต๊กใจหมด งัดกล้องขึ้นมาถ่ายซะเร้ยนี่
เดินจนเริ่มค่ำล่ะ…สรุปหาไม่เจอหลายที่เลย
เริ่มหิวล่ะ…เดินกลับทางเดิม
มาช้าไปนิ๊ดดดดด มาๆ ต่อกันเร้ย…..
เดินเล่นจนมืดล่ะ…เริ่มหิว เดินย้อนกลับไปทางที่พักมีร้านขายอาหาร คล้ายๆ ตลาดโต้รุ่งบ้านเราอ่ะ ร้านเพี๊ยบบบ !!
เวลากระชั้นชิด ลืมเช็คเรื่องอาหารแนะนำเลยแหะ บะหมี่ล่ะกัน หน้าตาน่าหม่ำ…ง่ายสุด เห็นหน้าตาสีเข้ม ๆ แบบนี้ รสชาติ เพ่จืด นะฮ่ะ …และไม่มีเครื่องปรุง
หาอะไรเพิ่มอีกสักอย่างละกัน เดินผ่านมานี่หอมฉุยยยย
– 10 ไม้ 10.50 ริงกิต
– 15 ไม้ 15.50 ริงกิต จัดมา 15 ไม้ กันเหนี่ยว อิอิ
ไก่สเต๊ะ นะเธอ…..อย่าเผลอคิดว่าเป็นหมูซะล่ะ รสชาติเหมือนเดิม..จืด ๆ ท่องไว้ เราได้ ลิ้มรสชาติพื้นเมืองอย่างแท้จริง
มีน้ำชานม อีกคนละ แก้ว มื้อนี้ไป 3 คนหมดไปน่าประมาณ 200-300 บาท
เอาน่า…..อย่างน้อยก็มี 7-11 เดินทั้งเมืองเจออยู่ 2 ร้าน
เสร็จแล้วก็กลับเข้าที่พัก คุยกันเอายังไงดีกับวันพรุ่งนี้ ไปไกล คงไม่ทันแน่ กางแผนที่แผนเดิม.. ปั่นไปดูภาพ 3D กันม่ะ
ปั่นจักรยานกันเถอะ เดินไม่ทั่วแน่ ที่เดิมเร้ยค่า…ร้านเช่าจักรยานก็เช่ามันตรงข้าง 7-11 นั่นละง่ายดี 3-4 RM ต่อคัน
ปั่นไปเรื่อย..
เจอสี่แยกวัดใจ หืม…ลุ้นทุกครั้งที่เดินผ่าน เวลาจะข้าม อย่าลืมกดปุ่มตรงเสาด้วยนะ รอสัญญาณไฟเขียวกระพริบก่อนถึงจะข้ามได้
ปั่นไปรอบเมืองนั่นล่ะ…ตรงไหนสวย ก็แวะ
ถนนคนเดิน….จอดจักรยานแป๊บบบ
มีการแสดงด้วยแหะ.. เดินเล่นอยู่สักพักก็ไปต่อ
ST.George’s Church
Penang Time Tunnel
The History Museum ==>> พาย้อนเวลากลับไปปีนังในช่วงปี 1592
ค่าเข้าชม 1 RM เอง อุ๊ยย ถูก !!
ใช้เวลาอยู่ไม่นาน…ตามหา 3D ก่อนดีกว่า กางแผนที่แล้วไปต่อ…
ปีนังขับรถวันเวย์นะคร่า..ปั่นดี ๆล่ะ ผู้เขียนปั่นสวนทางกับรถเมล์ ยกรถขึ้นฟุตบาทมาล่ะ Thailand Only
ปั่นทำเวลามาก..ใกล้เที่ยงเต็มที ต้องกลับไปเช็คเอาท์ที่พัก
เจอล่ะ !! …… ช่ายม่ะนั่น
อย่าช้า…จัดเร้ย
รัววววว ชัตเตอร์
สนุกสนานกันมาก…เกือบลืมเรื่องที่พักไปเร้ย มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยถ่ายรูปให้นะ…น่ารักมาก
หาร้านนั่งเล่นสักร้าน ชิคๆ Selfil Coffee
เดินจนเพลิน ดูนาฬิกาอีกทีได้เวลานัดล่ะ กลับบ้านนนนน
“ปีนัง” เมืองเล็ก ๆ ในฝัน แล้วจะกลับมาอีก เฮ่อ……….หมดเวลาเที่ยวเล่นแล้วสิน๊ะ
สรุปค่าใช้จ่าย 2 วัน 1 คืน
– เครื่องบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ 7,524 บาท
ของเราต้องวันที่ 7-8 ก.พ.เท่านั้น เซ็ง..ถ้าวางโปรแกรมดีๆ ซื้อตอนโปรจะถูกกว่านี้นะ
– ค่าที่พัก 813 บาท
– รถสองแถว+วิน 240 บาท
– รถตู้ปีนัง ไป-กลับ 2,250 บาท
ยังไม่ได้ข้ามฝั่งเร้ยค่า..จ่ายไปแล้ว 10,827 บาท (คนละ 3,609บ.)
– แลกเงินกองกลาง 6,000 บาท : 600 RM กว่าๆ
(Ringgit Malaysia : RM 1 = 10 บาท) ล่ะกันนะ คิดง่ายๆ
– ค่าอาหารมื้อเย็น 300 บาท
– ค่าเช่าจักรยาน 9 RM ==> ประมาณ 90-100 บาท
– ค่าตากแอร์ร้านเค้ก Selfil Coffee 65 RM นิดๆ ==> 650 บาท
– ของที่ระลึก 55-60 RM ==> 500-600 บาท
– แวะ 7-11 อันนี้จำไม่ได้แหะ
นับเงินล่าสุดเหลือเงินอยู่ประมาณ 300 RM กว่าๆ
– ค่าของฝากประมาณเกือบ 200 RM
ถ้าตัดส่วนนี้ไปก็ประหยัดล่ะ 555++
– ค่าเงินตอนแลกกลับน้อยไปนิด..สรุปเหลือเงินตอนอยู่หาดใหญ่ประมาณ 1,500 บาท
ยังไม่กลับกรุงเทพฯเลย กินอีกแล้ววว
– จบทริปเหลือเงินประมาณ 1,000 บาท ==>> ตัดของฝากไป..ใช้น้อยมาก ทั้งทริปเฉพาะที่ปีนัง รวมของฝาก คนละ 1,600 บาท ประมาณนี้
พาไปเที่ยวโดย: LookNoke Thitichaya เข้าไปเป็นกำลังใจให้เธอคนนี้ได้ที่ >> Chill Happiness