แก็งค์ชะนีตะลุยน้ำ ท้าแดด ลม ฝน @รักน้ำ รีสอร์ท กาญจนบุรี (มิ.ย. 2015)

แก็งค์ชะนีตะลุยน้ำ ท้าแดด ลม ฝน @รักน้ำ รีสอร์ท กาญจนบุรี (มิ.ย. 2015)

จะว่าเป็นกระทู้รีวิวก็ได้นะ เพราะก็ประทับใจที่พักที่นี่ไม่น้อย แต่ด้วยความที่ไม่ได้ตั้งใจจะทำรีวิวตั้งแต่แรก รูปทั้งหลายที่ถ่ายมา จึงมีแต่หน้าชะนี (หาได้มีวิวดีๆ ของรีสอร์ท ไม่!) รีวิวนี้ เลยมีแต่ตัวหนังสือ ไม่ค่อยมีภาพ 55555

Ruknam Resort (7)
รักน้ำ รีสอร์ท

เรื่องราวการอยากหนีร้อน ไปพึ่ง “ร้อนกว่า”.. เกิดขึ้นรวดเร็วดังสายฟ้าฟาด นัดกันวันศุกร์..เพื่อไปวันเสาร์เลยจ้า
ที่พักเหรอ ..อยากพักในแพ ริมน้ำ .. ในน้ำ.. แบบว่าอยู่ใกล้ๆ น้ำ “เต็มหมด” ไม่ว่าจะระดับพันต้นๆ หรือเกือบหมื่น เต็มจริงๆ เพิ่งรู้ว่า คนเค้าก็อยากไปเที่ยวใกล้ๆ น้ำกัน (เหมือนเราเลย) แต่ส่วนใหญ่เค้าจองล่วงหน้ากันเป็นอาทิตย์ เป็นเดือน ดังนั้น แนะนำเบื้องต้น สำหรับใครที่อยากไปกาญฯ และไปพักชิวๆ แบบนอนบนแพ ที่ไม่ต้องแพงมาก ให้จองล่วงหน้ากันเลยจ้า อย่าจองแบบฉุกละหุกเหมือนพวกเรา มิฉะนั้น ก็.. อย่าหวัง!

โชคดีของแก็งค์ชะนีน้อย ที่ติดต่อไปที่ รักน้ำ รีสอร์ท (Ruknam Resort ) ซึ่งหลังจากดูรูปในเว็บแล้วก็ต้องตาต้องใจไม่น้อย กับบรรยากาศที่อยู่ในเขื่อนเลย และอารมณ์อยากเล่นน้ำ อยากเล่นเครื่องเล่น (ไม่สนอายุกันเล้ยยย) จุดนั้นไม่แคร์ละ ว่าจะราคาเท่าไหร่ ถามคำเดียว “มีห้องพักเหลือมั่งมั้ยคะ”.. และสิ่งที่ได้มาคือ “เหลือห้องเดียว” นอกนั้นเต็มหมด แถมเป็นบ้านพักที่อยู่บนทิวเขา ไม่ได้อยู่ในน้ำอย่างที่วาดหวังไว้.. แต่ก็เอานะ Where Where is Where Where ไหนๆ ก็ไหนๆ ละ เอาก็เอา.. เดินเอาหน่อยละกัน ถ้าอยากเล่นน้ำ

สุดท้ายเลยได้บ้านพักบนทิวเขามา 1 หลัง ซึ่งทางรีสอร์ทก็อนุโลมให้ Extra ที่นอนได้อีก 2 ที่ (เดิมห้องราคา 3,900 บาท พักได้ 3 คน) แต่เราไปกัน 5 คน เลยเพิ่มอีกคนละ 1,400 บาท เพื่อให้ได้ เตียงเพิ่ม 2 เตียง พร้อมอาหารเช้า.. เราว่าโอนะ กับการจองแบบฉุกละหุกแบบนี้ รวมแล้วค่าห้องก็จ่ายไป 6,700 บาท พักได้ 5 คน ตกคนละ 1,340 บาท โอเค้!!

Ruknam Resort (3)
แก็งค์ชะนีทั้งหมด

เริ่มต้นด้วยการออกเดินทางเช้าวันเสาร์ 9 โมง.. ระยะทางจากกรุงเทพฯ ไปถึงที่พัก ราวๆ 230 กิโลเมตร ซึ่งจริงๆ อาจจะใช้เวลาเดินทางประมาณไม่เกิน 3 ชั่วโมง .. แต่!!! เพราะความเป็นชะนี ขับรถกันไปเอง 1 คัน ยัดกันไป 5 คน นั่งเมาส์กันไป ขับอยู่ประมาณ 60-80km./hr. เพราะรถตอนก่อนออกจากกรุงเทพฯ ค่อนข้างเยอะ แต่พอออกจากกรุงเทพฯได้ ก็ไม่ได้ว่าจะเร็วขึ้นนะ เดี๋ยวแวะนั่น แวะโน่น แวะนี่ (ส่วนใหญ่จะปั้มน้ำมันนะ) 5555 อ่อ.. มีแวะวัดถ้ำเขาย้อยด้วย ถ่ายรูป ไหว้พระ พอเป็นพิธี …สนนเวลา กว่าที่เราจะไปถึงที่พักก็ 4 โมงเย็นจ้า… สวย สวย

ความประทับใจแรกที่ไปถึงที่พักคือ ที่จอดรถเกือบเต็มละ (คือเค้ามากันหมดละงัย) แต่พี่รปภ.โบกรถให้จอดแบบ เอ็กครูซีฟมาก ประมาณว่าเหลือที่สุดท้ายละ อิอิ… จากนั้น เช็คอินด้วยความรวดเร็ว แล้วก็ขนของขึ้นรถกอล์ฟ 2 คัน ไปถึงที่พักกันเลย (อันนี้ภาพที่พัก ที่เราพักนะคะ ภาพเพิ่มจากเว็บของรีสอร์ทเติมดูได้ที่ http://www.ruknamresort.com/Phoopa.html)

Ruknam Resort (12)

ตามภาพ จะเป็นบ้านพักที่เราได้พักกันค่ะ หลังใหญ่มากนะ พูดเลย ห้องก็กว้าง มีระเบียงหน้าบ้าน ชิวมาก อยู่ไม่ไกลมากจากที่เล่นน้ำ ตอนแรกว่าจะถ่ายภาพในห้องพัก แต่พอดีว่า แม่บ้านขนเตียงเสริมมาให้ ปูเพิ่ม 2 เตียง (ฟูกหนาที่ปูกับพื้นพร้อมผ้าปู หมอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ครบเซ็ท) เลยไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย (สัมภาระของชะนี จับจองเตียง วางเกลื่อนมาก อับอาย ถึงถ่ายก็ไม่กล้าเอามาลง 5555)

Ruknam Resort (14)

ไม่พูดพร่ำทำเพลง ชะนีน้อย 3 ตัว โหยหา อยากลากไก่ไปกินในน้ำทันที เอ้ย!! อยากเล่นน้ำมาก เพราะแดดร้อนสุดๆ อยากจะโดดน้ำละ เลยรีบจัดแจง ตระเตรียม เปลี่ยนชุด พร้อมเปียก แล้วก็ลากชะนีอีก 2 ตัว ที่ไม่ค่อยอยากเล่นน้ำเท่าไหร่ ไว้ไปถ่ายรูปด้วย อิอิ (การมีเพื่อนไปเที่ยวด้วย แล้วเค้าไม่อยากจะลง ก็ดีตรงนี้ ตรงที่เหลือให้นางช่วยถ่ายรูปให้นะ ไม่งั้นใครจะถ่าย.. เพราะฉะนั้น เวลาไปแบบนี้ ถ้าเพื่อนคนไหน ทำเป็นเล่นตัว ไม่อยากจะลง อย่าไปตื้อนางค่ะ แล้วมอบหน้าที่ให้นางถ่ายรูปให้ซะเลย โฮ๊ะ โฮ๊ะ โฮ๊ะ)

ระหว่างทางเดินจากบ้านพักมาลงน้ำ รายล้อมด้วยต้นไม้ และการจัดสวยที่สวยงาม มีกระต่ายตัวใหญ่เบ้อเริ่ม กระโดดวิ่งเล่นเต็มไปหมด หยิบกล้องไม่ทัน มัวแต่ถามกันว่า “ของจริงเหรอ?” 555
พอไปถึงก็โดดดดดดด…. เลยจ้า ประเดิม

Ruknam Resort (5)

จากนั้นก็เล่นน้ำกัน สนุกสนาน แต่การโดดน้ำ นี่เป็นอะไรที่สนุกสุดละ เพราะเวลาไปว่ายน้ำสระ เค้าก็คงไม่ให้โดดล่ะนะ เพราะจะรบกวนคนอื่นเค้า แต่นี่.. โอ้ยย อยากโดดก็โดดเหอะ ใส่เสื้อชูชีพให้แน่นๆ ละกัน .. ไม่ต้องถามความลึกของน้ำค่ะ เพราะยืนไม่ถึงแน่นอน ไม่ต้องกลัวโดดไปแล้วหัวปักโคลนตาย หรือขากระแทกพื้น เพราะเวลาโดดไปแล้ว ชูชีพก็จะรีบพาเรา ทะลึ่งพรวดขึ้นมา ไม่ถึงอึดใจค่ะ (ยกเว้นชูชีพหลุด ก็คงหลุดพรวดไปเลย ไม่โผล่ 55555)

เพราะงั้น จุดที่ต้องระวัง ในการโดดน้ำเล่น คือเสื้อชูชีพค่ะ ต้องมั่นใจว่าเลือกที่ใส่พอดีตัว และล็อคให้ครบ ซึ่งจริงๆ เสื้อชูชีพ จะมีหางให้ลอดใต้หว่างขาขึ้นมาล็อคซ้ายขวาอีกชั้น ซึ่งส่วนใหญ่ละเลยตรงนี้ กลัวเจ็บจิมิบ้างล่ะ เห็นว่าไม่จำเป็นบ้างล่ะ แต่จะบอกเลยว่า ถ้าใส่ให้ดี จะไม่เจ็บจิมินะคะ มันจะแอบอยู่ตรงขาหนีบพอดี แล้วพอล็อคให้แน่น มันก็จะไม่เขยิบค่ะ .. หางส่วนนี้ จะช่วยได้ดีมาก เวลาเราโดดน้ำ หรือเล่นน้ำในจุดที่ยืนไม่ถึง เพราะมันจะล็อคให้เสื้อชูชีพอยู่ในตำแหน่งที่พอดีตัว ซึ่งเวลาโดดลงไป หรือลอยตัวอยู่ในน้ำ เสื้อชูชีพจะอยู่กับตัวพอดีให้หัวเลยขึ้นมาค่ะ ซึ่งถ้าไม่ล็อคหางไว้ เสื้อจะลอยขึ้นมาเหนือไหล่ เหนือหัว ทำให้รู้สึกเหมือนจะหลุดลงไปในน้ำ อะไรประมาณนี้ค่ะ.. (แนะนำสำหรับคนว่ายน้ำไม่เป็น ควรล็อคให้ครบค่ะ)

หลังจากเล่นน้ำกันได้ไม่นาน ทางรีสอร์ทก็แจ้งให้ทราบว่า “แพอาหาร จะออกเดินทางตอน 6 โมงครึ่ง” … แม่เจ้า เพิ่งเล่นน้ำไปได้ไม่ถึงชั่วโมงนึงดีเลย ต้องขึ้นแล้วเหรอเนี่ย .. แต่ก็นะ ระหว่างความสนุก กับ อาหาร เลือก “อาหาร” จ้า…

สำหรับแพลากอาหาร ถือเป็นไฮน์ไลท์ อีกจุดหนึ่ง ที่พวกเราปลื้มปริ่มมากค่ะ เพราะตอนที่มาถึง (ตอนเช็คอิน) เค้าจะถามเราว่า จะร่วม Dinner กับแพรึเปล่า ถ้าจะร่วม เค้าจะให้เราสั่งอาหารไว้เลย พอตอนเย็น เค้าก็เตรียมอาหารไว้ให้พร้อมแล้วค่ะ

Ruknam Resort (13)

พวกเราใช้เวลาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ดั่งการเรียนวิชารักษาดินแดน (รด.) คือเป่าปี๊ด 2 ที แล้วต้องเสร็จ (กลัวลงแพไม่ทัน) แถมบ้านที่เราอยู่มีห้องน้ำแค่ห้องเดียว (เพลียตรงนี้) ซึ่งก็ดีนะ ไม่งั้นชะนีแต่ละตัว อาบน้ำกันที นอนหลับไป 2 ตื่นยังไม่เสร็จล่ะ อิอิ

เมื่อเพื่อนชะนี 3 ตัวแรก เตรียมตัวเสร็จแล้ว เลยเดินกันไปก่อน เหลือชะนีอีก 2 ตัวรั้งท้ายและกำลังรีบ .. ณ บัดนั้น ความประทับใจต่อมา จึงบังเกิด!

Ruknam Resort (18)

คือ.. มีรถกอล์ฟมารับถึงหน้าบ้านค่ะ ชายหนุ่มพลขับ พูดด้วยเสียงสุภาพว่า “ผมมารับไปลงแพอาหารครับ” ไอ้เราก็ตอบ โอเคค่ะ ดีเลยกำลังรีบค่ะ จากนั้น พี่แกก็วอกลับไปเสียงดังฟังชัดว่า “รออีก 2 คนสุดท้ายด้วยครับ อย่าเพิ่งออก” !?!?!?! จุดนั้น ทั้งฮา ทั้งอับอายนะ พูดเลย คือแกควรรู้ว่าแกเนี่ยเป็น 2 คนสุดท้ายแล้ว เค้ารอแกกันอยู่ทั้งแพน่ะ ฮ่วย!!! 55555

และแล้วพี่รถกอล์ฟก็พาเราซิ่งใส่เกียร์หมา ขับมาเสยเกยตื้นถึงหน้าแพ ทำให้เราได้ลงแพ (ด้วยความอับอายจริงๆ เพราะพอขาเรา 2 คน พ้นขอบแพปุ๊บ เค้าก็ปล่อยเชือกเลย ประมาณว่า กรูรอเมิงอยู่นานแล้ว 55555)

Ruknam Resort (17)

แพใหญ่ เปิดโล่ง โต๊ะเตี้ย นั่งพื้น พร้อมเบาะและหมอนสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ไว้อิงหลัง กับบรรยากาศใกล้พระอาทิตย์ตกดิน ใจกลาง อ่างเก็บน้ำขนาดมหึมา ของเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นอะไรที่ชิวมาก ผมที่เพิ่งเล่นน้ำมาหมาดๆ ไม่ต้องใช้ไดร์เป่า เพราะลมธรรมชาติโกรก แป๊บเดียวแห้ง.. พวกเราไม่ค่อยสนอาหารบนโต๊ะเท่าไหร่ ละคนกันถ่ายรูปมือเป็นระวิง เพราะกลัวถ้าพระอาทิตย์ตกแล้วจะมืด เดี๋ยวถ่ายรูปไม่สวย.. ซึ่งตอนนั้นก็โพล้เพล้จะแย่ ถ่ายออกมายังไงก็ไม่สวยอยู่ดี 55555 สรุปแล้วก็ “รับประทานอาหาร” กับบรรยากาศดีกว่า..

Ruknam Resort (8)

แพใช้เวลาลากชมวิว ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ลากกลับค่ะ อาหารหมดพอดี น้ำแข็งถังใหญ่ ทานกันไม่หมด ก็สามารถขอยกกระติกขึ้นไปตั้งวงต่อกันที่หน้าบ้านได้ พนักงานที่นี่ใจดี อัธยาศัยดีมากๆ ค่ะ ถามได้ ตอบได้ สุดๆ

เช้าวันรุ่งขึ้น อาหารเช้าเริ่ม 7 โมง ถึง 9 โมงครึ่ง พวกชะนีตื่นเช้ามากค่ะ (กลัวไม่ได้กินอาหารเช้า) ซึ่งอาหารเช้าที่นี่ ก็ถือว่ารสดีนะคะ มีทั้งอเมริกันเบรคฟาส ไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปังปิ้ง กาแฟ โกโก้ แล้วยังมีข้าวต้มหมูสับ และกับข้าวอีกหลายอย่าง เรียกว่าจะข้าวราดแกงก็อร่อย ข้าวต้มก็อร่อย คืออร่อยทุกอย่าง พนักงานก็ยิ้มแย้มดีค่ะ แม้ว่าลูกค้าที่มาพักจะเยอะ พวกน้องๆ ก็บริการกันอย่างมือเป็นระวิง น่าชื่นชมค่ะ

Ruknam Resort (2)

อีกจุดที่ไม่ควรพลาดถ่ายรูป คือ “ปลาคร๊าฟ” ของที่นี่ค่ะ คือสีสวยมาก ตรงนี้ก็ถือเป็นจุดที่เพื่อนชะนี ชอบกันมากค่ะ ได้ให้อาหารปลา (ถุงละ 40 บาท) ได้ถ่ายรูป ปลาคร๊าฟตัวใหญ่ ว่ายเรียงกัน เบียดเสียดไปกินอาหาร เป็นทิวแถว.. เลิศมาก

Ruknam Resort (10)Ruknam Resort (9)

หลังจากถ่ายรูปกัน 78 ล้านช็อต.. ชะนี 3 ตัวเดิมก็เล่นน้ำกันอีกรอบ คราวนี้โฟกัสไปที่ “สไลเดอร์ยักษ์” ที่ใช้แนวสันเขาทำเป็นสไลเดอร์ ทอดยาวลงมา อันนี้บอกเลยว่าใครพลาด จะเสียดายมากกกกกก… แต่ขอเตือนว่า ข้อเข่า ข้อขา น่องของท่าน ต้องพร้อมใช้งานนิดนึงค่ะ เพราะตอนลื่นลงไป ก็ไม่เท่าไหร่ สนุก มันส์ ฮา.. แต่อีตอนเดินขึ้นมาเนี่ย โอย.. ปวดน่องมาก เพราะเป็นทางลาด ค่อนข้างสูง ต้องเดินแบกห่วงยางขึ้นมาเองค่ะ ..

Ruknam Resort (20) Ruknam Resort (21) Ruknam Resort (22) Ruknam Resort (23)

เล่นน้ำ จั้มช๊อต สไลเดอร์ พายเรือคายัค… ครบเซ็ท สนุกสนาน ถึงเวลาเช็คเอาท์ก็เที่ยงพอดี ..ก็มีรถกอล์ฟไปรับ และเดินมาชำระค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ คือค่าอาหารและค่าลงแพของเมื่อวานค่ะ (ค่าลงแพคนละ 100 บาท เค้าจะคิดสำหรับคนที่พักบ้านบนทิวเขาค่ะ แต่ถ้าคนที่มาพักในแพ เค้าจะไม่คิดเพิ่มค่ะ) สนนราคา ค่าอาหารและค่าลงแพ 5 คน ก็ประมาณ 1,700 บาท (สั่งกับข้าวประมาณ 4-5 อย่างค่ะ)

จากนั้น ก็เดินทางกลับกรุงเทพฯ ด้วยความหฤหรร (หรือหฤโหด) ของรถกรุงเทพฯขาเข้า วันอาทิตย์เย็น.. อืมม แต่ก็ธรรมดาเน๊อะ เตรียมตัวสู้งานวันจันทร์กันต่อปาย

สรุปว่า.. ทริปนี้ จ่ายกันไปคนละ 2,720 บาท ทั้งค่ากิน ค่าน้ำมันรถ ค่าที่พัก ก็ถือเป็นทริปช่วงสั้นๆ เสาร์อาทิตย์ที่คุ้มค่า ของพนักงานประจำสาวโสดน้อย โสดมาก และแกล้งโสดทั้งหลาย ที่นานๆ ได้มาปล่อยแก่ เอ้ย! ปล่อยความเครียด กันบ้าง ไรบ้าง ซึ่งขอแนะนำเลยว่า ถ้าพอมีอันจะกิน และไม่แคร์เรื่องที่พักแพง ไม่ต้องวางแผนยาวนานนักค่ะ เพราะใกล้วันแล้วจะมีคนเบี้ยว (จนอาจต้องล้มเลิก) เพราะแต่ละคนก็มีภารกิจที่ไม่อาจวางแผนล่วงหน้าได้ยาวๆ ค่ะ อันนี้น่าจะเป็นกันบ่อย

Ruknam Resort (6)

…เอามันแบบนี้แหละ โทรวันศุกร์ ถ้าว่างปุ๊บ วันเสาร์ก็ไปเลย หาที่พักแบบแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ได้ไป

…แต่ถ้างบน้อย ยังแบมือขอพ่อแม่กันอยู่ อย่าทำตามนะคะ วางแผนนานๆ ที่พักราคาไม่แพงมาก ก็ยังมีอีกเยอะค่ะ คนอาจเยอะหน่อย เอะอะมะเทิ่งไปบ้าง ก็ต้องยอมรับสภาพ เพราะถ้าที่พักไม่แพงมาก คนไปพักก็จะเป็นระดับนักเรียน นักศึกษา ที่เสียงดัง เพราะพลังเยอะ ก็อย่าไปว่าน้องเค้าค่ะ (ตอนเราวัยรุ่น เราก็เสียงดังอยู่นะ 5555) หรือถ้าแจ็คพ๊อต เจอพวกบริษัทไปสัมมนา เสียงดังขั้นเทพ ร้องคาราโอเกะเพื่อชีวิต และนกเขาคู่รักยันตีสอง อันนี้ก็ต้องยอมรับสภาพเช่นกัน ตามน้ำไป มั่วดริ๊งกันไปค่ะ ขำๆ .. รักจะเที่ยว ต้องทำตัวกลมกลืนกับคนรอบข้างค่ะ .. จะได้ไม่เครียด

2,720 บาท +++ กับสาวออฟฟิศที่บางทีก็เอาไปซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า (ที่ใส่ครั้งเดียว หรือปีละครั้ง) หรือปาร์ตี้แอลกอฮอล์หารกันทีก็พันกว่าบาท มันไม่แพงหรอกค่ะ ถ้าเทียบกับการได้รับกลิ่นอายของธรรมชาติบ้าง ไปโดนแดดกันซะบ้าง อย่ามัวแต่ประทินผิว (ด่าตัวเองทำไม 55555) แล้วก็ไม่ได้ไปกันบ่อยๆ.. เพราะอย่างแก็งค์นี้ โอย.. ปีละครั้งละมั้ง เที่ยวแบบนี้ แต่ละคน ภาระเยอะจัด..

ก็ขอฝากไว้เท่านี้นะคะ มีสาระบ้าง ไม่มีบ้าง ถ้าใครอยากไปสัมผัสอะไรแบบนี้บ้างก็ search หาข้อมูลได้เลยนะคะ กาญจนบุรีอยู่แค่นี้เอง “รักน้ำ รีสอร์ท” เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของคนที่อยากพักชิวๆ สบายๆ ในวันหยุดสั้นๆ ของคุณค่ะ

ขอบคุณบทความจากคุณ : Ameey Berry  สำหรับวันนี้สวัสดีครับ


บทความรีวิวร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และแนะนำวางแผนเที่ยว เป็นบทความที่ทางเว็บขอสงวนลิขสิทธิ์ผลงานการเขียน ห้ามทำซ้ำ หรือคัดลอกเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อในเว็บอื่นๆ และสื่อตีพิมพ์ จนกว่าจะได้รับการอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากทีมงาน

 

:. ติดต่อทีมงาน Paapaii.com ได้ที่ E-Mail: paapaiiai@gmail.com