“แก่งกระจาน” มีอะไรดี ทริปนี้ 2 วัน 1 คืน จะตอบคำถามของคุณทั้งหมด กับช่วงเวลาสิ้นปีที่อากาศกำลังหนาวเย็นแบบนี้ การไปเที่ยวสักที่ดูจะเป็นจุดหมายที่หลายคนกำลังตามหา
ออกไปพบเจอธรรมชาติ นอนกางเต็นท์บนเขา “ชมทะเลหมอก”, “ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตก” และที่ขาดไม่ได้เลย คือการ “นอนดูดาวเต็มท้องฟ้า” ในยามค่ำคืน ว่าแล้วก็ออกเดินทางไปกับ ทีมงาน Paapaii.com กันเลยดีกว่า จากกรุงเทพฯ ไปเพชรบุรี มีระยะทางประมาณ 200 กิโลเมตร สำหรับคนที่ขับรถไปใช้เวลาเกือบ ๆ 3 ชั่วโมง จะถึงที่หมาย
โดยเส้นทางที่เราแนะนำให้ใช้คือ จากกรุงเทพฯ วิ่งเส้นทางหลวงหมายเลข 35 ถึงอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านแยกเข้าตัวเมืองเพชรบุรี เลี้ยวขวาเข้าอำเภอท่ายาง จากนั้นวิ่งไปตามทางหลวงหมายเลข 3499 ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร จะเข้าสู่อำเภอแก่งกระจาน จากปากทางเข้าอุทยานฯ อีก 4 กิโลเมตรจะถึงที่ทำการ “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน”
เมื่อมาถึง “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” เราต้องบอกเลยว่าที่นี่กว้างใหญ่มาก เพราะ เป็นอุทยานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่มากถึง 2,915 ตารางกิโลเมตร หรือ 1.8 ล้านไร่ บริเวณพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าและเขา ที่มี “ธรรมชาติ” อุดมสมบูรณ์มาก หากใครได้มาเที่ยวในช่วงหน้าหนาว เตรียมฟินกับ “อากาศบริสุทธิ์” และ “ทะเลหมอก” กันได้เลย
หลังจากที่ชมวิวสวย ๆ บริเวณด้านหน้าอุทยานกันไปแล้ว คราวนี้เรามาเที่ยวต่อกันที่ “สะพานแขวนแก่งกระจาน” ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ไกลมาก ที่นี่เหมาะสำหรับการมาถ่ายรูปสวย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศอันสงบร่มรื่นของธรรมชาติ และสำหรับใครที่เป็นแฟนคลับพี่โชนและน้องน้ำ อย่าพลาดมาตามรอยหนังรักสุดคลาสสิคอย่าง “สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่า…รัก” กันนะคร้าบบบ
และไปกันต่อที่ “เขื่อนแก่งกระจาน” เพื่อทำกิจกรรมสนุก ๆ อย่างการ “นั่งเรือหางยาว” ชมเขื่อน สัมผัสลมหนาวเย็น ๆ มองวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ และในช่วงเย็นยังสามารถชมบรรยากาศ “พระอาทิตย์ตก” แสนสวยได้อีกด้วย
สนุกอยู่ใน “อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน” ได้พักใหญ่ ก่อนช่วงเย็นจะมาถึงเราได้เดินทางกันต่อไปที่ “เขาพะเนินทุ่ง” ระยะทางอีก 50 กิโลเมตร เพื่อไปตั้งแคมป์ “กางเต็นท์” นอนดูดาวสวย ๆ กันในค่ำคืนนี้ แต่สำหรับใครที่อยากไปนอนที่เขาพะเนินทุ่งแบบเรา ต้องไปขอใบอนุญาตผ่านทาง ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และจ่ายค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อยก่อนนะ
มาถึงบริเวณลานกางเต็นท์ บน “เขาพะเนินทุ่ง” ฟ้าก็กำลังจะมืดพอดี ทำให้เราไม่พลาดช่วงเวลาที่แสงสวยแบบนี้ แชะภาพท้องฟ้าไว้เป็นที่ระลึกหลายรูป ก่อนจะหยุดชมบรรยากาศของ “พระอาทิตย์ตก” สวย ๆ จนหมดแสงสุดท้ายของวัน
ตกกลางคืนเราก่อกองไฟ และทำอาหารง่าย ๆ บริเวณหน้าเต็นท์ เพื่อทำให้ท้องอิ่มหลังจากตะลุยเที่ยวมาทั้งวัน และจากนั้นก็นั่งจับเข่าคุย พร้อมผิงไฟอุ่น ๆ เพื่อรอดู “ดวงดาว” สวย ๆ ที่ส่องสว่างเต็มท้องฟ้า ในค่ำคืนที่แสนเงียบสงบนี้ บอกเลยว่า “ความสวยงาม” ของดวงดาวคือเกินคำบรรยายเลยครับทุกคน
ช่วงเช้าเราอยากให้ทุกคนรีบตื่นนะครับ ถึงแม้อากาศจะหนาวเย็น น่านอนคดตัวอยู่ในเต็นท์สักแค่ไหน แต่ความสวยงามของ “พระอาทิตย์ขึ้น” ก็ดีงามมาก ๆ เช่นกัน แถมได้ชม “ทะเลหมอก” สวย ๆ ที่ปกคลุมภูเขาน้อยใหญ่จนมิด ก็เป็นภาพประทับใจที่เราอยากให้ได้มาเห็นด้วยตาของตัวเอง เมื่อมาเที่ยวที่ “เขาพะเนินทุ่ง” แห่งนี้
ฟ้าเริ่มสว่าง และหมอกก็ยังเยอะมาก ๆ อยู่ ฟินสุด ๆ ไปเล้ยยยย
หลังจากเต็มอิ่มกับการชมทะเลหมอกกันไปแล้ว ก็ถือว่าภารกิจเที่ยว “เที่ยวแก่งกระจาน” ของเราเป็นอันสิ้นสุด ปิดทริป 2 วัน 1 คืน กันที่เขาพะเนินทุ่ง และเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านบ้านกันกันดีกว่า
สำหรับใครที่ยังไม่เคยมาเที่ยวที่นี่ หรือกำลังมีแพลนจะมาเที่ยว ทีมงาน Paapaii บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด “แก่งกระจาน” ที่เที่ยวเยอะมาก และมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ รอให้ทุกคนมาสัมผัส และเก็บเกี่ยวช่วงเวลาแห่งความสุขอยู่น้า ^^
อ่านที่เที่ยวหน้าหนาว เพิ่มเติม