วันนี้ขอแวะมาแนะนำรีวิวที่เที่ยวยอดนิยมอย่าง “โครงการเกษตรหลวงอ่างขาง-จุดสูงสุดดอยอ่างขาง และภูลังกา” สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะไปไหนดีในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี่
ดังนั้นวันนี้ Paapaii.com จึงไม่รีรอ ไปเสาะหาและรวบรวมที่พักใกล้ดอยอ่างขางมาฝากเพื่อน ๆ กัน ส่วนจะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้น เราไปชมกันเลยจ้า
นำเที่ยวครั้งนี้โดย คุณสามาชิกหมายเลข 2436397
จากที่ผมได้ทำรีวิว อุทยานแห่งชาติขุนสถานซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ผมได้เลือกเป็นสถานที่พักผ่อนของครอบครัว ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่ผมเลือกพักผ่อนและใช้ชีวิตเรื่อยๆ เอื่อยอยู่บนนั้นถึง 3 คืน 4 วัน สถานที่นี้ก็คือดอยอ่างขาง ดินแดนที่ได้ชื่อว่า เป็นดินแดนมหัศจรรย์นั่นเอง
เหตุผลหลัก ที่ผมเลือกที่จะพักผ่อนอยู่กับครอบครับถึง 3 วัน 4 คืนก็เนื่องจากว่า
1. ผมเป็นคนที่ชอบอากาศเย็นสบาย ซึ่งที่นี่ก็ตอบโจทย์ผมได้เป็นอย่างดี
2. ผมชอบดื่มกาแฟ หรือทานอาหารในร้านค้าที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ และสามารถนั่งกลางแจ้งได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศ ซึ่งที่นี่ก็ตอบโจทย์ผมได้มากทีเดียว
3. ผมชอบการออกกำลังกาย โดยเฉพาะการวิ่ง ซึ่งหากผมจองบ้านพักในโครงการหลวง ซึ่งมีถนนทอดยาวไปตามแปลงผักและหุบเขา วนรอบโครงการเป็นระยะทาง 2กิโลเมตรกว่าๆ ผมจะสามารถวิ่งออกกำลังกายและชื่นชมธรรมชาติไปในตัว ซึ่งเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศและสถานที่ในการออกกำลังกายของผมได้เป็นอย่างดี ระหว่างที่ผมอยู่บนดอยอ่างขางนั้น ผมวิ่งชมแปลงผักโครงการหลวงทุกวันเลยก็ว่าได้
4. ผมชอบการปีนภูเขาเป็นอย่างมาก ที่ดอยอ่างขางนี้ก็มีจุดสูงสุดของดอยอ่างขาง ที่ให้ผมสามารถเดินขึ้นเขา และชื่นชมธรรมชาติแบบที่ผมต้องการได้ ซึ่งอาจใช้เวลาในการเดินขึ้นยอดเขา แค่เพียงไม่กี่นาที แต่มันก็สามารถเรียกเหงื่อ และทำให้หัวใจของผมเต้นเร็ว เนื่องจากไม่สามารถแลกเปลี่ยนออกซินเจนมาใช้ในการออกแรงต้านแรงโน้มถ่วงของโลกได้ให้พอรู้สึกกชุ่มกระชวยได้บ้าง
แค่เหตุผลข้างบนนี้ก็ทำให้ผม ไม่ลังเลที่จะจองบ้านพักในโครงการหลวงอ่างขาง ถึง3 คืน 4 วัน และใช้ชีวิตเรื่อยๆ เอื่อยๆ อยู่บนนั้นโดยไม่รับรู้ข่าวสาร บ้านเมืองใดๆ ของเบื้องล่าง และทำให้ผมลืมคำว่า เร่งรีบ แก่งแย่ง รถติด ไปได้ชั่วขณะเลยทีเดียว…
บ้านพักที่ผมได้จองไว้บนโครงการหลวงคือบ้านริมดอย3 ซึ่งสามารถรองรับผู้ อาศัยได้ถึง 5 คน ซึ่งเพียงพอ และพอดีกับจำนวนสมาชิกในครอบครัวของผม อย่างไม่ขาด ไม่เกินเลยทีเดียว
บ้านริมดอยมีถนนตัดผ่าน ซึ่งสามารถนำรถไปจอดที่หน้าบ้านพักได้เลย ภายในมีเตียงและที่นอนที่อบอุ่นเพียงพอกับสมาชิกจำนวน 5 คน ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา เราจะสามารถเห็นสายหมอกปกคลุมบ้านพัก สวนดอกไม้หน้าบ้าน และทิวเขาได้เป็นอย่างดี จนทำให้เราลืมไปเลยว่า เรากำลังอาศัยอยู่ในประเทศที่มีอากาศร้อน ถึงร้อนมากๆเกือบตลอดปี
เดินออกจากบ้าน แค่เพียงไม่กี่ก้าว ก็จะได้สัมผัสกับความสดชื่นของสวน 80 ที่เป็นจุดสำคัญแห่งหนึ่งของโครงการหลวงแดนสวรรค์แห่งนี้
เสร็จจากการชื่นชมธรรมชาติ หากต้องการนั่งพักสมอง คิดอะไรเรื่อยเปื่อย หรือนั่งมองแสงแดดอ่อนๆ แต่ก็แอบร้อนในบางขณะ หากไม่มีก้อนเมฆมาบดบังความร้อน หรือนั่งรับลมเย็น ที่พัดเอื่อยๆได้ตลอดทั้งวัน สโมสรอ่างขาง ที่อยู่ตรงด้านหน้าสวน 80 จะสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
ซึ่งที่นี่มีทั้งอาหารที่มีผักสดๆ ปลอดสารพิษ และร้านกาแฟ ที่มีวิวสวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ก็สามารถไปเยือนและใช้บริการได้ เพียงแค่ก้าวออกจากห้องพัก สัมผัสอากาศเย็นๆ และสูดอากาศบริสุทธิ์เพียงไม่กี่นาที
พอบ่ายแก่ๆ หลังจากที่ดวงอาทิตย์เริ่มเก็บของกลับบ้าน แสงแดดอ่อนๆ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะอย่างมาก ในการเดินเก็บภาพ และบรรยากาศรอบๆ โครงการหลวง หากมีคนรู้ใจไปด้วย ก็สามารถเก็บภาพบรรยากาศได้ทั้งภาพถ่ายแนวบุคคลหรือภาพถ่ายแนวธรรมชาติได้ จนบางครั้งทำให้รู้สึกว่า ทำไม พระอาทิตย์ถึงเลิกงานเร็วเหลือเกิน
เสร็จจากการพักผ่อน จิบกาแฟ เดินถ่ายรูป อีกกิจกรรมที่ผมแนะนำสำหรับคนรักสุขภาพก็คือ การวิ่งออกกำลังกาย ชมโครงการหลวง ซึ่งผมใช้เวลาในการวิ่งออกกำลังกาย และหยุดสูดอากาศสดชื่นประมาณ 1 ชั่วโมง กับการวิ่งวนรอบสวน สัมผัสวิวสวยๆ เดิมและเก็บบรรยากาศไว้ในความทรงจำ ประมาณ 4 รอบ
หมดไป 1 วันกับกิจกรรมที่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่าทำแล้วเหนื่อยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับรู้สึกว่า นี่แหละ คือการพักผ่อนจริงๆ ทั้งสมองและร่างกายได้ปล่อยวางทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เหนื่อยล้าใน เมืองกรุงและการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง แม้จะเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาอันสั้น แต่มันก็เพียงพอสำหรับการเก็บสะสมกำลังใจ และพลังกายในการกลับไปเผชิญโลกอันวุ่นวายในเมืองกรุงอีกเช่นเคย
ตื่นเช้ามา ก็เป็นอีกวันที่จะได้พบกับความสดชื่นของอากาศ กับสายหมอกขาวที่หาทำยาหยอดตาได้ยากเป็นอย่างยิ่งในชีวิตของคนเมืองอย่างเราๆ
หลังจากร่างกายเสพติดจากความสดชื่นของสายหมอกยามเช้า อีกหนึ่งกิจกรรมที่ผมเลือกที่จะทำคือการอยากปีนเขาขึ้นไปบนจุดสูงสุดของดอย อ่างขาง ซึ่งผมมาเยือนดอยอ่างขางแห่งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้วแต่ยังไม่เคยได้ไปเยือน ณ จุดสูงสุดของดอยแห่งนี้เลย
ทางเดินขึ้นจุดสูงสุดดอยอ่างขาง จะอยู่ก่อนถึงค่ายฐานปฏิบัติการดอยอ่างขาง หรือจุดชมวิวม่อนสน ถ้านับจากจุดที่พักคือโครงการหลวงอ่างขา
ตลอดเส้นทางเดินขึ้น ไม่โหดและชันมากนัก อีกทั้งจะยังได้พบกับความชุ่มชื่นและวิวทิวเขาสวยๆ ตลอดสองข้างทาง จนทำให้ลืมความเหน็ดเหนื่อยกันเลยทีเดียว
จากทางเข้า จนถึงจุดสูงสุด ใช้เวลาในการเดินเท้า อย่างช้าสุดประมาณ 40 นาที ก็จะได้สัมผัสกับวิวของทิวเขารอบตัว 360 องศา ที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนบินได้กันเลยทีเดียว
เสร็จจากการชมวิวบนจุดสูงสุดดอยอ่างขาง ผมและสมาชิกก็กลับมาพักผ่อนและชื่นชมกับบรรยากาศรอบๆบ้านพัก เหมือนเช่นเคย และก็ได้เห็นภาพๆนี้ เป็นภาพที่มีแขวนกันทุกสถานที่ และทุกบ้านจริงๆครับ
หมดไปอีกหนึ่งวันกับการพักผ่อน ซึ่งอีกหนึ่งกิจกรรมที่ผมจะต้องทำในวันรุ่งขึ้นคือ ออกไปชมวิวช่วงเช้าตามสถานที่ต่างๆบนดอย ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวม่อนสน
ทะเลหมอกมองจากจุดกางเต็นท์ดอยอ่างขาง
จุดชมวิวฐานปฏิบัติการนอแล ไร่ชา 2000
หมดไปอีกหนึ่งทริปที่แสนสุข กับ3คืน 4 วันบนดอยอ่างขาง ที่ทำให้การอดทนขับรถตอนกลางคืนตั้งแต่กรุงเทพ จนถึงดอยอ่างขาง กลายเป็นเรื่องที่ไม่เหน็ดเหนื่อย แต่กลับเป็นแรงบันดาลใจ ที่จะไปให้ถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุดเสียอีก โอกาสหน้า ผมจะกลับมาใหม่อีกแน่นอน ณ ที่แห่งนี้ ..
จบจากทริปนี้ ผมได้แวะไปพักที่ภูลังการีสอร์ท 1 คืน ก่อนที่จะไปเยือนขุนสถานเป็นสถานที่สุดท้าย และก็อยากจะบอกว่า ภูลังกา แม้ในยามฤดูร้อนแบบนี้ ก็ยังคงมีความสวยงามในธรรมชาติ ไม่แพ้ฤดูหนาวอย่างแน่นอน…
แต่ที่แน่ๆ คือ การจองที่พักทำได้ง่ายมาก ไม่ต้องแก่งแย่งกันเหมือนช่วงฤดูหนาว และมีอีกสิ่งหนึ่งที่อยากย้ำเตือนเสมอว่า การออกมาเที่ยววันธรรมดา ก็ได้ประสบการณ์ดีๆ ไม่แพ้วันหยุดสุดสัปดาห์เช่นกันครับ
ติดตาม ทริปรีวิวอุทยานแห่งชาติ ขุนสถานและบ้านพักที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ
pantip.com/topic/33823193
ขอบคุณบทความจากคุณสามาชิกหมายเลข 2436397 สามารถตามรีวิวอื่นๆ กันต่อได้ที่: pantip.com/profile/2436397 สำหรับวันนี้สวัสดีครับ