พาไป ลุยทุ่งนา ชมสายหมอก นอนดูดาว @น่าน

พาไป ลุยทุ่งนา ชมสายหมอก นอนดูดาว @น่าน

ฮายยยย … หนาวแล้วใครยังไม่เห็นหมอกมาทางนี้ เราจะพาไปเที่ยวชมสายหมอก นอนดูดาว แบบฟินๆ แล้วแวะไปอินกับการเกี่ยวข้าวกันที่น่าน ใครพร้อมแล้วโดดขึ้นรถเลยครับ

รอบนี้พวกเราเดินทางด้วยรถตู้ เพราะจะขนอุปกรณ์ไปเก็บภาพเยอะหน่อย ออกเดินทางกันตอนตี 4 เดินทางเช้าตรู่แบบนี้ ขอพึ่งตัวช่วยทำให้ตาสว่างกันสักนิดด้วย NESCAFE’ Blend & Brew Less Sugar พกพาง่าย หาซื้อสะดวกมีขายที่ 7-11 สูตรนี้น้ำตาลลดลง 25% แต่ยังอร่อยเหมือนเดิมครับ

75

จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 32 จนถึงจังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นใช้เส้นทาง 117 มาจนถึงจังหวัดพิษณุโลก แล้วใช้เส้นทางหมายเลข 11 ผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอเด่นชัย (จังหวัดแพร่) จากเด่นชัยใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่านจังหวัดแพร่ ตรงไปถึงน่านกันครับ รวมเวลาการเดินทางก็ 9 ชม. หน่อยๆ หลับเอาแรงกันยาวๆ ไปเลยครับ

MAP

และเมื่อผ่าน อำเภอเด่นชัย ก็พลาดไม่ได้ที่จะแวะทานก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อย นั่นก็คือร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเด้ง สูตรมะนาวนั่นเอง ซึ่งเมนูยอดฮิตที่ใครมาเป็นต้องสั่งก็คือ ขลุกขลิกกระดูกอ่อน ต้มยำหมูเด้ง (ราคาชามละ 40 บาท )

1
3
2

กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จก็นั่งรถต่อไปอีก 1.30 ชม. ก็ถึงตัวเมืองน่านครับ แลนด์มาร์คแรกที่พวกเราแวะกันคือวัดภูมินทร์ เพื่อชมภาพปู่ม่านย่าม่าน หรือ หนุ่มกระซิบ ที่รู้จักกันในชื่อภาพ “กระซิบรักบันลือโลก” ภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ใครได้มาก็ต้องแวะชมภาพนี้ ถ้าไม่มาที่นี่ก็เหมือนมาไม่ถึงน่านครับ

4

และอีกหนึ่งสถานที่ใกล้ๆ กันที่พลาดไม่ได้คือต้องไปถ่ายรูปซุ้มดอกลีลาวดีที่หน้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติน่าน ที่ตั้งอยู่ภายในคุ้มของอดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน (หอคำ)

5
6

7
8

จากวัดภูมินทร์เราตรงขึ้นไปที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา คืนนี้เราจะไปชมพระอาทิตย์ตก นอนดูดาวกันที่ลานดูดาวกันครับ ตรงลานดูดาวนี้จะอยู่เลยทางเข้าอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ประมาณ 4 กิโลเมตร มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำไว้คอยบริการด้วยครับ
ช่วงเย็นก็จะฟินกับบรรยากาศกันประมาณนี้แหละครับ พวกเรากางเต็นท์นอนกัน ณ จุดนี้ วันที่มาอากาศเย็นกำลังดี อุณหภูมิอยู่ที่ 24 องศาเซลเซียส ดึกจนถึงช่วงเช้าจะ 18 องศาเซลเซียส ใส่เสื้อกันหนาวไม่ต้องหนามากก็อุ่นแล้วครับ

9
10
11
12
13

ฟ้าเริ่มมืดดาวก็เริ่มออกมาส่องแสงอวดความสวยกันแล้ววว อยากจะอวดว่าบรรยากาศโรแมนติกสุดๆ เลยครับ

14
15

ยิ่งดึกดาวยิ่งเยอะขึ้นเรื่อยๆ ครับ คืนนี้ขอส่งเข้านอนกันด้วยภาพดาวสวยๆ แล้วพรุ่งนี้ตื่นไปชมหมอกกันครับ

16
17
18

วันที่สอง

อรุณสวัสดิ์ครับ เช้านี้เราตื่นกันตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ แต่นกเริ่มออกหากินแล้ว แค่ตี 4 เอง ชิลล์ๆ กับอุณหภูมิ 18 องศาเซลเซียส วิ่งผ่านน้ำกันเสร็จก็ขึ้นรถไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และ ชมสายหมอกที่จุดชมวิว 1715 กันครับ

19

จุดชมวิว 1715 ห่างจากลานดูดาวประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ถนนจะโค้งค่อนข้างมาก ถนนมี 2 เลนรถวิ่งสวนทางกัน ไม่มีไฟทาง ต้องขับกันด้วยความระมัดระวังนะครับ

20
21
22
23
24
25
26

ดูพระอาทิตย์ ฟินสายหมอกกันจนอิ่มใจ อิ่มปอด ก็ได้เวลากลับไปเก็บของที่ลานดูดาวกันแล้วครับ ระหว่างทางกลับแวะถ่ายถนนที่บอกว่าจะมีทางโค้งค่อนข้างมากมาฝากจะได้ระวังกันครับ

28

ลานดูดาวยามเช้า สวยไม่แพ้จุดชมวิว 1715 เลยครับ

27
29

เช้าๆ แบบนี้ ก็ไม่พลาดที่จะยืนจิบ NESCAFE’ Blend & Brew Less Sugar หอมๆ เพื่อช่วยเปิดตาให้ตื่นกับบรรยากาศสวยๆ ทั้งอร่อยทั้งฟินเลยครับ

30

พอดื่มด่ำธรรมชาติอย่างเต็มอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาตระเวนหาอาหารอร่อยๆ ซึ่งเป็นที่รู้กันอีกหนึ่งแลนด์มาร์ค ว่าถ้ามาที่น่านห้ามพลาดที่จะมาทาน นั่นก็คือ “ร้านฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ

31
32
33
36
37
34
35

ที่นี่เขาขึ้นชื่อเรื่องเมนูเห็ด เพราะเขาปลูกเอง ปรุงเอง พวกเราจึงได้กินเห็ดในหลากหลายเมนู

อย่าง ยำเห็ดห้าสหาย

38

ไข่ป่ามใส่เห็ด

39

เห็ดหอมอบซีอิ๊ว

41

ต้มยำเห็ดยานางิ

44

ลาบเห็ดอีสาน

40

พิซซ่าเห็ด

43

แถมด้วยผักขมอบชีสอีกหนึ่งที่

42

รวมราคาทั้งหมดของมื้อนี้ 955 บาท (พิซซ่า ถาดหนึ่งมี 6 ชิ้นราคา 150 บาท) อิ่ม ฟิน พุงกางกันเลยทีเดียวครับ จากร้านฟาร์มเห็ด เราจะไปเที่ยวกันต่อที่วังศิลาแลง พร้อมแล้วไปลุยกันเลย

45

ช่วงที่เรามาฝนยังตกเยอะอยู่ น้ำจะมากหน่อย ลงไปเดินเล่นไม่ได้ แต่อากาศเย็นดีมากครับ ต้นไม้อุดมสมบูรณ์เรียกได้ว่าเป็นแหล่งฟอกปอดชั้นเลิศเลยทีเดียว

59
60
61
62

ถ้ามาต้องเดินระวังๆ หน่อยนะครับ พื้นมันค่อนข้างลื่นครับ

63
64

นั่งสูดบรรยากาศกันสักพัก เราก็เดินทางต่อไปที่ อำเภอปัว เพื่อดูบรรยากาศทุ่งนาหลังเก็บเกี่ยวแล้ว ตั้งใจว่าจะไปขอพี่ๆ เขาเกี่ยวข้าวกันด้วยครับ บรรยากาศถึงจะไม่ใช่สีเขียวแต่ก็ยังสวยมากๆ และอากาศก็ดีสุดๆ เพราะไปถึงฝนหยุดตกพอดี

65
66

คืนนี้นอนที่โฮมสเตย์ลำดวนผ้าทอ บรรยากาศดีมากๆ ครับ เราเลือกนอนบ้านหลังใหญ่กัน ในตัวบ้านจะแบ่งห้องนอนออกเป็น 2 ห้อง ห้องหนึ่งพักได้ 3 คน ห้องน้ำ 2 ห้อง ราคาหลังละ 4,500 บาท

46
47
48
49
50

ขอตัวไปนอนก่อนนะค๊าบ พรุ่งนี้ไปสำรวจทุ่งนา เดี๋ยวจะพาไปตะลุยเกี่ยวข้าวกัน 🙂

วันที่ 3

ตื่นเช้ามารอดูแสงอาทิตย์กระทบกับน้ำค้างกันครับ อากาศเช้านี้กำลังดี 24 องศาเซลเซียส ชื้นนิดๆ เพราะฝนตกเมื่อวาน

67
68
69
70
71
72
73

เดินชมบรรยากาศทุ่งนายามเช้ากันสักพัก ก็กลับมาเตรียมตัวออกไปโรงเรียนชาวนาเพื่อเกี่ยวข้าว แต่ก่อนออกไปขอดื่มกาแฟ NESCAFE’ Blend & Brew Less Sugar ให้ชื่นใจ และกินข้าวเช้ากันก่อนที่จะออกเดินทางกันครับ

paapaii
74
51

อิ่มแล้ว ไปเกี่ยวข้าวที่โรงเรียนชาวนากัน บรรยากาศที่โรงเรียนชาวนาจะยังเขียวอยู่เพราะยังมีข้าวที่รอเก็บเกี่ยว

52
53
54

ไปครับพร้อมแล้วลงนากันเลย

55
56
57

บอกเลยว่าไม่ง่ายเลยครับ ต้องขอบคุณพี่ๆ มากๆ ที่ช่วยสอนวิธีเกี่ยวข้าวสนุกมากและประทับใจสุดๆ สำหรับทริปนี้ถึงจะไม่เห็นทุ่งนาสีเขียว แต่ก็ได้เห็น อำเภอปัว อีกมุมนึงที่สวยไม่แพ้กัน ทำให้เราได้รู้ว่า ปัว เที่ยวได้ทั้งปีเลยละครับ

ขอจบทริป ด้วยภาพบรรยากาศแบบนี้ เพื่อกระตุ้นความอยากของทุกท่านให้มาสัมผัสเมืองน่านกันสักครั้ง  🙂

58

ขอขอบคุณ NESCAFE’ Blend & Brew Less Sugar ที่ช่วยสนับสนุนความหอมอร่อยจนหยดสุดท้ายตลอดการเดินทางให้กับทีมงานพาไปทุกคนครับ