พักกาย พักใจ ใช้ชีวิตง่ายๆ กับพื้นที่สีเขียวที่ “เนินมะปราง”

พักกาย พักใจ ใช้ชีวิตง่ายๆ กับพื้นที่สีเขียวที่ "เนินมะปราง"

เพราะคนเนินมะปรางใจดี จึงต้องกลับมาที่นี่อีกครั้ง จากเมื่อครั้งก่อน ที่เราไปเนินมะปรางกันแต่พลาดจุดไฮไลท์ไปหลายที่เลย มาครั้งนี้ตั้งใจว่าจะเก็บให้ครบเลยครับ ว่าแล้วก็กระโดดขึ้นรถไฟ ไปพร้อมๆ กับพวกเราเลย

ทริปนี้ เราขึ้นรถไฟที่หัวลำโพง  เที่ยว 22.00 น. กรุงเทพฯ – พิษณุโลก ในตั๋วเขียนว่าจะถึงพิษณุโลกประมาณ 04.37 น. ครับ จองเป็นตู้นอนแบบพัดลมไว้ เพราะตู้นอนแบบแอร์เต็มแล้ว

ก่อนหน้านั้นคิดอยู่ว่านอนบนรถไฟต้องไม่สบายแน่เลย ปรากฎว่าหลับยาวจนถึงสถานีพิษณุโลกเลย พวกเรามาถึงกันประมาณตี 5 เลทนิดหน่อยครับ

123

วันแรกที่ไปถึง ระหว่างรอรถกระบะที่เช่าไว้มารับตอน 7 โมง ก็เดินสำรวจตลาดเช้าก่อนเลยครับ ตลาดที่นี่จะเปิดตั้งแต่ประมาณ ตี 4 กว่าๆ บรรยากาศคึกคักมากครับ มีของมาวางขายเพียบ เดินเล่นแป๊บๆ รถที่เช่าไว้ก็มารับพอดี

4 5

จุดหมายแรกที่เราจะไปกันใช้เวลาเดินทางจากสถานีรถไฟมาประมาณ 45 นาที ที่นี่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของเนินมะปรางกันเลยทีเดียวนั่นก็คือ ต้นไม้รูปหัวใจ ครับ

9

เมื่อมาถึงแล้วจุดที่ห้ามพลาดเลยก็คือ นั่งชิงช้าต้นไม้ มีทั้งแบบเป็นสลิงซึ่งมีระบบความปลอดภัยดีเลยครับ และ แบบเดินขึ้นไปนั่งข้างๆ ต้นไม้ แนะนำให้ลองทั้ง 2 แบบเลย เพราะมันได้อารมณ์ที่แตกต่างกันมาก

8

ใส่เซฟตี้เตรียมขึ้นชิงช้าแบบสลิงกันครับ ปลอดภัยหายห่วง แต่มันก็มีเสียวเบาๆ นะ

10 11

อ่อ! ถ้าอยากได้ภาพต้นไม้เป็นรูปหัวใจสวยๆ ตากล้องควรยืนฝั่งขวาของต้นไม้นะครับ

12

ไฮไลท์ต่อไปของพวกเราคือไปกินทุเรียนครับ และพวกเราโชคดีมากๆ ที่พี่ตุ่นและพี่พร จากเพจคนรักเนินมะปราง มาคอยดูแลและเป็นไกด์ให้ขอบคุณมากๆ เลยค๊าบบบ..

จากบ้านสวนชมวิว นั่งรถต่อไปอีก ไม่ถึง 10 นาที ก็ถึงสวนทุเรียนหลงรักไทย ทุเรียนที่นี่เป็นพันธุ์เดียวกับหลงลับแล แต่เอามาปลูกที่บ้านรักไทย เลยตั้งชื่อใหม่เป็นหลงรักไทยครับ

13

มาถึงปุ๊บพี่น้อย เจ้าของสวนออกมาต้อนรับเองเลย แล้วเอาทุเรียนที่ตัดแล้วมาให้ชิม แถมพี่น้อยมาปอกทุเรียนให้พวกเราด้วยครับ

Untitled-1

ลักษณะทุเรียนหลงรักไทยจะลูกเล็กๆ เนื้อข้างในเป็นสีเหลืองสวย ทานตอนสุกพอดีๆ แบบกรอบนอกนุ่มใน รสชาติหวานนิดๆ มันหน่อยๆ อร่อยมากครับ

16

จากสวนทุเรียนนั่งรถมาอีกชั่วอึดใจ จะเจออีกจุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาด นั้นก็คือ ลานกางเต้นท์ วิวแคมป์ จากจุดที่กางเต้นท์สามารถมองเห็นทะเลหมอก แล้วก็วิวภูเขาสวยๆ ด้วยครับ

19

18

ที่นี่มีร้านอาหารเล็กๆ ไว้บริการด้วยนะครับ ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ อยู่ท่ามกลางต้นไม้ แจ่มมาก

17

20

นั่งรถไปอีกประมาณ 40 นาที เข้าสู่ ต.บ้านมุง เราไปแวะทานข้าวกลางวันกันที่ บ้านไร่ภูตะวันครับ ที่นี่บรรยากาศดีมากๆ โอบล้อมด้วยทุ่งนาและภูเขาเลยครับ

22

21

บอกเลยถึงเป็นอาหารตามสั่งธรรมดา แต่รสชาติไม่ธรรมดานะครับ ข้าวที่นี่เค้าก็ปลูกเอง หุงออกมานุ๊ม นุ่ม ข้าวเรียงเม็ดสวยมาก ผัดพริกแกงเห็ดก็รสอร่อย เห็ดหวานตามธรรมชาติผัดกับน้ำพริกแกงเผ็ด หูยยย พูดถึงแล้วก็อยากกลับไปกินอีก

23

อิ่มท้องแล้วก็ไปเที่ยวต่อกันเลยครับ โดดขึ้นรถนั่งไปไม่ถึง 5 นาที เราก็จะเจอ น้ำตกขุนห้วยเทิน เป็นน้ำตกที่อยู่ในป่า ยังมีความเป็นธรรมชาติอยู่สูงมาก เราต้องเดินลัดเลาะเข้าไปสักพักก็จะเจอน้ำตก น้ำใสไหลเย็นจนอยากจะลงไปนอนเล่นเลย

24

25 2627  เจอผีเสื้อสวยๆ ด้วย

28

ใครจะมาเที่ยวที่น้ำตกขุนห้วยเทิน มาได้เฉพาะหน้าฝนนะครับ เพราะบริเวณน้ำตกเป็นหินปูน จะไม่มีการซับน้ำไว้ ถ้ามาฤดูอื่นก็จะเห็นแค่โขดหินครับ

จากนั้นก็ได้เวลาเข้าบ้านพักกันแล้วครับ แอดจองที่พักไว้ที่ “หลังเขาโฮมสเตย์” เป็นบ้านไม้หลังใหญ่ แบ่งเป็น 4 ห้องนอน แยกห้องน้ำกับห้องอาบน้ำไว้เรียบร้อย แถมมีอุปกรณ์ทำอาหารให้พร้อมเลยครับ นอนสบายเหมือนอยู่บ้านเลย

2930

ที่สำคัญวิวหน้าบ้านหันไปทางภูเขาหินปูนที่เค้าบอกว่าจะมีค้างคาวฝูงใหญ่บินออกมาเป็นสาย เตรียมตั้งกล้องสิครับ รออะไร

31

ระหว่างรอเวลา ก็ไปยืมมอเตอร์ไซต์ชาวบ้านขี่สำรวจหมู่บ้านกันครับ เจออีก 1 จุดรอชมค้างคาว เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ น่ารัก เจ้าของบ้านใจดีมากๆ ให้เข้าไปถ่ายรูปบ้านสวยๆ สระน้ำหลังบ้าน ขอบคุณมากๆ ครับ

32331 ทุ่มก็แล้ว ยังไม่เห็นค้างคาวเลย T__T ฟ้าก็เริ่มมืด มองอะไรไม่ค่อยเห็นแล้ว สักพัก พี่ที่อยู่แถวนั้นก็เดินมาบอก ค้างคาวมาแล้ว

แต่ไปคนละทางกับที่เรารอ แถมฝูงที่บินมาทางนี้ก็ยังบินสูงจนไม่สามารถถ่ายรูปกลับมาได้ เรางี้แทบทรุด แต่ไม่เป็นไร เรายังมีพรุ่งนี้อีกวัน วันนี้ขอลาไปกินหมูกระทะแก้ช้ำใจก่อน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ครับ

34

กินเสร็จ ก็ได้เวลาเข้านอนกันแล้วนะครับ

30.2

DAY 2

มอนิ่งคร้าบบบ เช้าวันนี้ ขอเอาฤกษ์เอาชัยด้วยการตื่นมาตักบาตร แล้วก็ทานข้าวต้มที่คุณป้าทำไว้ให้

01

ข้าวต้มอร่อยมากๆๆๆ ซัดคนเดียว 2 ชามใหญ่เลย 555

36

จากนั้นเราก็ไปเก็บภาพยามเช้าของทุ่งนาสีเขียวตัดกับถนนลูกรังสีส้ม และภูเขาหินปูน

373839ความแอดเวนเจอร์กำลังจะเริ่มขึ้น เรามุ่งหน้าไปที่ ต.ไทรย้อย เพื่อไปบุกถ้ำกันครับ สำหรับวันนี้เราได้ผู้นำทางเพิ่มอีก 2 ท่าน เป็น พี่ๆ จิตอาสา ชื่อพี่ภรณ์และพี่อาท ครับ

40ถ้ำแรกที่เราไปกันนั้นก็คือถ้ำผาหลวง ครับ ความพิเศษของถ้ำนี้ นอกจากทางเดินขึ้นเขาที่ราต้องปีนป่ายกันเล็กน้อยแล้ว บริเวณปากถ้ำจะมีหินที่ถูกแกะสลักเป็นพระพุทธรูปไว้ สวยงามมากจริงๆ ครับ

414243

ถ้ำที่ 2 จะเป็นถ้ำที่เราได้แอดเวนเจอร์กันสุดๆ แล้ว นั้นก็คือถ้ำมะนาว หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากกันว่าถ้ำแผนที่ ภารกิจวันนี้ เราจะไปตามหาแผนที่ประเทศไทยกันครับ

ทางไปถ้ำจะโหดกว่าถ้ำผาหลวงหน่อยนะครับ สำหรับใครที่จะไปต้องติดต่อกับทาง เทศบาลตำบลไทรย้อยโทร 055-906-080 เพื่อจัดจิตอาสามานำทางก่อนนะครับ เพราะถ้าไปเองมีหลงทางแน่นอน

44หลังจากปีนป่าย ขึ้นเขา มาสักพักก็จะถึงลานกระดูก บริเวณนี้มีการขุดพบกระดูกโบราณเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นกระดูกอะไรนะครับ

4546ห่อใส่กระดูกที่ขุดเจอครับ

47ทางเดินมาลานกระดูก มีหินตั้งเป็นเหมือนประตูทางเข้าเล็กๆ ด้วยครับ

48ห่างจากลานกระดูกมาไม่ไกล เราก็เจอถ้ำมะนาว บอกเลยว่าถ้าใครมาในหน้าฝนแบบเรา จะแอดเวนเจอร์สุดๆ ทั้งต้องปีนก้อนหิน ลุยโคลน แถมในถ้ำยังมืดสนิท ทางเดินถ้าแตกแถวไปนิดเดียวอาจหลงไปเลยครับ

495051 52

ในที่สุดภารกิจเราก็สำเร็จครับ เจอแล้วครับแผนที่ประเทศไทย รอยกัดเซาะของน้ำบนแผ่นหินที่กลายมาเป็นรูปคล้ายกับแผนที่ประเทศไทยที่เกือบสมบูรณ์ เรียกได้ว่าคุ้มค่าจริงๆ ครับ

53ออกจากถ้ำเวลาบ่ายๆ มาทานอาหารกลางวันกัน มื้อนี้ขอแบบแซบๆ ครับ ส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ น้ำตก สั่งกันมาแบบจัดเต็มมาก

54

อิ่มแล้วก็ไปลุยต่อกันที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาท่าพล ที่นี่จะมีถ้ำขนาดเล็กๆ ให้เที่ยวชม เช่น ถ้ำเรือ ถ้ำเต่า ถ้ำค้างคาว และยังมีก้อนหินที่มีรอยแกะสลักคล้ายภาษาญี่ปุ่น อีกด้วยครับ

555657585960อ่อ ภารกิจอีก 1 อย่างที่มีเพิ่มเข้ามานั่นก็คือ ตามหาโดรน ครับ และแล้วแอดก็เจอครับ ไม่ใช่โดรนนะ แต่เป็นโคลนครับ เต็มๆ ครึ่งขากันเลยทีเดียว 555 ขอขอบคุณพี่ตุ่น และพี่ๆ ที่เนินมะปรางด้วยนะครับที่ช่วยแอดตามหาโดรนที่หายไป ถึงแม้จะไม่เจอ แต่แอดซาบซึ้งน้ำใจทุกท่านจริงๆ ครับ (หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ พี่ๆ ที่เนินมะปรางก็ติดต่อกลับมาครับ พี่ๆ ช่วยเราหาโดรนจนเจอ ขอบคุณมากๆ เลยครับ)

6162

จากนั้นกลับมาตั้งกล้องรอค้างคาวใหม่ครับ แต่ฝนตกลงมาอย่างหนัก แถมใกล้เวลาที่จะต้องกลับกรุงเทพฯ เราเลยต้องยอมเก็บของกลับกันครับ

บ๊าย บาย เนินมะปราง สัญญาว่าจะกลับมาอีกแน่นอนคร้าบบบ

63

สรุปค่าใช้จ่าย

วันแรก

ตั๋วรถไฟคนละ 409 บาท (4 คน 1,636 บาท)

อาหารเช้าหมูปิ้ง+ข้าวต้มคนละ 40 บาท (4 คน 160 บาท)

กาแฟที่บ้านสวนชมวิวคนละ 175 บาท

ค่านั่งชิงช้าต้นไม้ ฟรี (ปกติแบบสลิงคนละ 40 บาท / ปีนขึ้นเองคนละ 20 บาท)

อาหารกลางวัน ฟรี (ขอบคุณพี่ไก่ บ้านไร่ภูตะวัน ครับ)

หมูกระทะ2ชุด 300 บาท

หลังเขาโฮมสเตย์ 1,000 บาท (ปกติคนละ 300 บาท แอดไปกัน 4 คน พี่ต่อ เจ้าของโฮมสเตย์คิดราคาพิเศษให้ ขอบคุณครับ)

ค่าเช่ารถกระบะวันละ 800 บาท + ค่าคนขับวันละ 500 บาท (ปกติค่าเช่ารถ 1,200 บาท ต่อวันครับ)

รวม 4,571 บาท

 

วันที่สอง

กาแฟ 115 บาท

อาหารกลางวัน 730 บาท

ตั๋วรถทัวร์คนละ 263 บาท (4 คน 1,052 บาท)

ค่าเช่ารถกระบะวันที่2  800 บาท + ค่าคนขับ 500 บาท (ปกติค่าเช่ารถ 1,200 บาท ต่อวันครับ)

ค่าน้ำมัน 900 บาท

รวม 4,097 บาท

 

สรุปค่าใช้จ่าย 2 วัน 8,668 บาท (เฉลี่ยคนละ 2,167 บาท)

 

ขอขอบคุณ

พี่ตุ่น พี่พร จากเพจคนรักเนินมะปราง

พี่อาท จากเพจประเทศไทยไทรย้อย

พี่ภรณ์ จิตอาสา ททท.ไทรย้อย

พี่ต่อ หลังเขาโฮมสเตย์ โทร. 089-460-9720

อนุสรณ์ทัวร์ รถเช่า โทร. 081-727-8082

บ้านไร่ภูตะวัน โทร. 089-416-7999