หนาวนี้ใครกำลังมองหาสถานที่ชมหมอกสวย ๆ เราขอแนะนำให้ไปเที่ยว “ภูทับเบิก” กับการกางเต็นท์นอนชิลบนเขา สัมผัสลมหนาวฟิน ๆ ตกเย็นดูพระอาทิตย์ตกสวย ๆ แล้วตื่นเช้ามาชมทะเลหมอกเต็มท้องฟ้า
ทริปนี้ทีมงาน Paapaii.com ขอแนะนำที่เที่ยวน่าไปเยือนอย่าง “ภูทับเบิก” สำหรับคนอยากไปเห็น “ทะเลหมอก” แบบอลังการ แล้วไปไหว้พระทำบุญที่ “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” พร้อมชม “ไร่กะหล่ำปลี” แปลงใหญ่บนภูทับเบิก และสูดอากาศบริสุทธิ์จนชุ่มปอด
การเดินทางเราขับรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ถึงภูทับเบิก ระยะทางประมาณ 430 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 30 นาที เมื่อขับมาถึงตัวเมืองเพชรบูรณ์ ให้ขับตรงเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดพิษณุโลก แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 12 จะถึงสี่แยกไฟแดงบอกทางไปภูทับเบิก, ภูแผงม้า, ลานหินปุ่ม และอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนหมายเลข 2372 เพื่อเดินทางไป “ภูทับเบิก” จากนั้นขับไปตามป้ายบอกทางไปเรื่อย ๆ จนถึงวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูทับเบิก จะมีจุดสังเกตเป็นอาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิ ก็เป็นอันถึงที่หมาย
โดยก่อนขึ้น “ภูทับเบิก” เราได้แวะมาเยี่ยมชมความสวยงามของ “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” วัดศักดิ์สิทธิ์อีกหนึ่งแห่งประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่มีความสวยงามมาก ๆ ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางทองแดง รอบ ๆ ตัววัดถูกโอบล้อมด้วยธรรมชาติ และขุนเขามากมาย สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ บรรยากาศเงียบสงบ และอากาศเย็นสบาย
แล้วก็มาต่อกันที่ “Pino Latte” ร้านกาแฟและของหวานสุดชิล ที่มีเมนูอร่อยให้เราเลือกทานมากมาย แต่เมื่อสั่งเสร็จปุ๊บก็เตรียมมาฟินกับบรรยากาศ ของจุดชมวิวธรรมชาติข้าง ๆ ร้านที่สวยงามของเขาค้อ บอกเลยว่าให้นั่งมองนานแค่ไหนก็ไม่มีเบื่อเลยจริง ๆ และสามารถมองเห็น “วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว” ได้อีกด้วย
และแล้วก็มาถึง “ภูทับเบิก” ยอดเขาที่สูงที่สุดของ “จังหวัดเพชรบูรณ์” ที่ความสูง 1,768 เมตร ข้างบนนี้บรรยากาศดีมาก อากาศก็หนาว ลมพัดเย็นสบาย สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศา และสำหรับใครที่ไม่ได้มากางเต็นท์แบบเรา ข้างบนก็มีที่พักมากมายให้เลือกด้วยนะ แต่แนะนำว่าควรจองก่อนมาถึงจะดีกว่า เพื่อป้องกันห้องเต็ม เพราะ ช่วงหน้าหนาวคนเยอะมาก
กางเต็นท์เก็บของเรียบร้อย ก็ไม่รอช้าที่จะมาเที่ยว “ไร่กะหล่ำปลี” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บน “ภูทับเบิก” แห่งนี้ กะหล่ำปลีลูกใหญ่ ปลูกกันเต็มเขาเลย และบรรยากาศบนเขาคือดีมาก อากาศก็ดีสุด ๆ จนอยากจะชิมสักลูกจังว่าจะอร่อยขนาดไหน ฮ่า ๆ แต่ทำไม่ได้นะทุกคน เราเลยเก็บภาพสวย ๆ มาฝากกันแทน
ตกเย็นก็เตรียมกลับไปที่เต็นท์ เพื่อเตรียมทำอาหารอร่อย ๆ กินกันดีกว่า แต่ใครไม่อยากทำก็สั่งหมูกระทะข้างบนนี้มากินได้นะ หรือจะออกไปหาร้านอาหารอร่อย ๆ บน “ภูทับเบิก” ก็มีให้เลือกมากมาย แล้วแต่ใครอยากจะเข้าร้านไหน
เมื่อท้องอิ่ม ก็อย่าพึ่งหลับกันนะ เพราะ คุณจะพลาดช่วงเวลาสุดแสน “โรแมนติก” ของการชม “ดวงดาวล้านดวง” บนภูทับเบิก ที่ต้องบอกเลยว่า เหมือนกำลังนั่งดูทางช้างเผือกยังไงยังงั้น ดาวเยอะมาก ส่องแสงระยิบระยับ เห็นแล้วก็ต้องบอกได้คำเดียวว่า “รัก” เลย
ตื่นเช้ามาดีใจสุด ๆ วันนี้ “ทะเลหมอก” อลังการมาก ปกคลุมป่าเขาจนมองไม่เห็นอะไรเลย แถมอากาศก็หนาวมาก ๆ ด้วย เรียกว่าฟินคูณสองจริง ๆ ระหว่างนี้เราก็ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ นอกจากไปยืนถ่ายรูปสวย ๆ คู่กับทะเลหมอก และสูด “อากาศบริสุทธิ์” บนภูทับเบิก
ในช่วงสาย ๆ เราก็เก็บเต็นท์เพื่อเตรียมตัวกลับ แต่อากาศยังหนาวอยู่ แถมทะเลหมอกก็ยังไม่จางหายไปซะด้วย เป็นทริปที่คุ้มค่าแก่การมาเยือนมาก ๆ และช่วยเติมพลังคนอยากพักผ่อนแบบพวกเราจริง ๆ “ธรรมชาติ” บน “ภูทับเบิก” ช่วยเยียวยาความเหนื่อยล้าของเราได้เยอะมาก และในหน้าหนาวนี้ ถ้าใครมีเวลาว่าง เราอยากให้ทุกคนมาสัมผัสช่วงเวลาดี ๆ จากการท่องเที่ยวแบบพวกเราทีมงาน Paapaii นะครับ
อ่านที่เที่ยวจังหวัดเพชรบูรณ์ เพิ่มเติม