เปียกปอน แต่สุขใจ เที่ยวชมธรรมชาติ ยิ้มกับสีเขียว “น่านนคร” ชุ่มฉ่ำสายฝน ฟินสายหมอก สูดอากาศดี แล้วไปใช้ชีวิตแบบเนิบ เนิบ 3 วัน 2 คืน กิน เที่ยว เล่น สนุกครบรส
เก็บกระเป๋า หนีเมืองกรุง ไปใช้ชีวิตเงียบ ๆ ที่จังหวัดน่าน ให้ธรรมชาติบำบัดร่างกาย … ทริปนี้ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง ไฟล์ทแรก (การเดินทางมาจังหวัดน่าน มีเพียงวันละ 3 เวลา และมีสายการบินเดียว เท่านั้นนะคร๊าบ)
สีเขียวววววว แค่มองเห็นธรรมชาติแบบนี้ก็มีความสุขแล้ว
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที ก็มาถึงที่ “ท่าอากาศยานน่านนคร” การมาเที่ยวจังหวัดน่านในครั้งนี้เป็นการมาเที่ยวในช่วงหน้าฝนเป็นครั้งแรกเลย … เพราะปกติจะมาแต่ช่วงหน้าหนาว
ในทริปนี้เลือกใช้บริการรถเช่าสำหรับการเดินทาง รับรถแล้ว ออกเดินทางกันด้าย … ก่อนจะไปเที่ยวต้องมาไหว้พระกันก่อนทุกครั้ง เริ่มต้นกราบไหว้พระธาตุคู่จังหวัดน่าน “พระธาตุแช่แห้ง” ขอให้การเดินทางในครั้งนี้ พบเจอแต่สิ่งดี ๆ เพี้ยง ๆ สาธุ
ขับรถขึ้นมาชมบรรยากาศเมืองน่านที่ “วัดพระธาตุเขาน้อย” ชมศิลปะพม่าผสมล้านนาขององค์พระธาตุ
กราบไหว์องค์ “พระพุทธมหาอุตมมงคลนันทบุรีศรีน่าน” ยืนชมวิวทิวทัศน์ ท้องฟ้า และบรรยากาศรอบ ๆ ตัวเมืองน่าน
มาต่อกันที่ “วัดภูมินทร์” วัดหลวงเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 400 ปี ใจกลางเมืองน่าน ชมสถาปัตยกรรมแห่งหนึ่งในประเทศไทยกับ “พระอุโบสถจตุรมุข” กราบไหว้พระพุทธรูปขนาดใหญ่ 4 องค์ ภายในพระอุโบสถ
รับฟังตำนานเล่าขานของภาพจิตรกรรม “กระซิบรักบรรลือโลก” ภาพจิตรกรรมที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดภายในวัดแห่งนี้
เดินออกจากวัดภูมินทร์ มาถ่ายรูปเล่นกันที่ “ซุ้มลีลาวดี” หน้าพิพิธภัณฑ์น่าน ปกติมาแต่ช่วงหน้าหนาวจะไม่มีใบให้เห็นเลย แต่พอมาในหน้าฝน ออกใบเต็มต้นเลย สวยงามไม่แพ้กับตอนไม่มีใบ
ถ่ายรูปเช็คอินกับ “ซุ้มลีลาวดี” ของหน้าฝนกันซะหน่อยยยย
มาต่อกันที่ “วัดมิ่งเมือง” ศาลหลักเมืองน่าน อีกหนึ่งสถานที่สำคัญของจังหวัด และมีความเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่สวยงามแบบสไตล์ล้านนา
โปรแกรมทำบุญของช่วงสาย ๆ ในวันเแรก เดินทางมาถึงวัดสุดท้าย “วัดศรีพันต้น” วัดสีทองโดดเด่นสวยงามมองเห็นได้อย่างชัดเจน
อิ่มบุญ อิ่มใจ ได้เวลาอิ่มท้องมื้อเที่ยงที่ร้าน “เฮือนฮอม” ร้านอาหารพื้นเมืองใกล้วัดมิ่งเมือง จัดเต็มกันเลย มื้อแรกของจังหวัดน่าน ไส้อั่ว แกงฮังเล ข้าวซอย ออเดิฟพื้นเมือง อร่อย ๆ ทั้งน้านนนน
อิ่มท้อง พร้อมออกเดินทางไปยังจุดหมายของแรกที่อำเภอบ่อเกลือ เลือกใช้เส้นทาง 1081 เพื่อที่จะมาชมบรรยากาศถนนลอยฟ้า ขับมาประมาณชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึง “ถนนลอยฟ้า 1081 สันติสุข – บ่อเกลือ”
สองข้างทางเต็มไปด้วยทิวเขาธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ รู้สึกสดชื่นนนนนสุดดดด สุดดดด
ขับมาอีกนิดก็มาถึงที่ร้านกาแฟ “ดอยกว่างคอฟฟี่” ร้านกาแฟลอยฟ้า บรรยากาศสุดชิล เจ้าของร้านใจดี เป็นกันเองสุด ๆ
มีมุมสวย ๆ ให้ได้เลือกมาเก็บภาพเป็นที่ระลึก ชมวิวสวย ๆ ของธรรมชาติ
จิบกาแฟ ถ่ายรูป ชมวิวธรรมชาติ ออกเดินทางต่อ เพิ่งมาถึงครึ่งทาง ฮ่า ๆ เดี๋ยวจะถึงที่พักเย็นกว่านี้ ข้อดีของการมาเที่ยวจังหวัด ถ้าขับรถกันมาเองบอกเลยว่าสบายสุด ๆ ทางขึ้นเขาขับไม่ยาก สามารถจอดรถแล้ววิ่งลงไปถ่ายรูปเล่นกลางถนนกันได้เลย
และแล้วก็มาถึงแล้ววว “อำเภอบ่อเกลือ” เดินถ่ายรูป ขมสะพานไม้ เช็คอิน เดี๋ยวหาว่าไม่ถึง ฮ่าๆ … ถ้าใครอยากจะมาดูต้มเกลือ ต้องมาช่วงไม่เข้าพรรษาน้าา แต่มาในช่วงเข้าพรรษาจะไม่มีให้ดูน้าา
เดินชมบรรยากาศตรง “บ่อเกลือสินเธาว์” ยามเย็น บรรยากาศชิล ชิล เงียบสงบสุด ๆ แล้วมาแช่สปาเกลือ ผ่อนคลาย สบายเท้าสุด ๆ
ชมบรรยากาศยามเย็น ผ่อนคลายสบายเท้ากับสปาเกลือเสร็จ ก็ได้เวลาเดินทางเข้าที่พักที่ “ปลายมาง ทางรัก รีโซเทล” ที่พักติดลำธาร ใกล้ชิดธรรมชาติ
เก็บกระเป๋า เปลี่ยนชุด ออกไปกินมื้อเย็นที่ “บ่อเกลือวิว” ชมวิวธรรมชาติยามค่ำคืน ฟังเสียงลำธารไหลผ่าน และที่สำคัญอาหารที่นี่ จานใหญ่ แถมอร่อยด้วยยยย
กินอิ่ม เข้าที่พัก ผ่อนคลายกับบรรยากาศชิล ชิล นอนฟังเสียงลำธาร ลมเย็น ๆ
อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 2 ของจังหวัดน่านที่ “ปลายมาง ทางรัก” สายฝนโปรยปราย สายหมอกพัดผ่าน อากาศดีสุด ๆ … ถึงหน้าฝนจะเปียก เลอะเทอะ แต่ธรรมชาติและสายหมอกแบบจัดเต็มกว่าหน้าหนาวอีกกกก
อาหารเช้าของทางที่พักจะเป็นแบบง่าย ๆ ไข่ดาว แฮม ไส้กรอก เบค่อน ผลไม้ เสิร์ฟมาแบบเป็นเซ็ท พร้อมกับข้าวต้มทะเลร้อน ๆ … อยากบอกว่าอาหารเช้าที่นี่นะ อร่อยสุด ๆ แถมพนักงานที่นี่ยังใจดีและเป็นกันเองมาก ดูแลดีอีกด้วย
กินมื้อเช้าเสร็จ เก็บกระเป๋า เช็คเอ้าท์แล้วโบกมือลา “อำเภอบ่อเกลือ” ในช่วงสาย ๆ ใช้เส้นทาง 1256 เดินทางไปที่ “อำเภอปัว” ระหว่างเส้นทางไปยังอำเภอปัว ก็จะเจอกับ “จุดชมวิว 1715 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา” มายืนชมวิว ชมบรรยากาศ ชมสายหมอก ในตอนเที่ยงวัน ตึ่งงง! นี่คือเวลาเที่ยงนิด ๆ แต่หมอกยังหนาแน่นจนมองไม่เหนวิวข้างทางเลย แถมลมเย็นมากกกก
ถนนแห่งหมอก นี่มัน The mist ชัด ๆ ฮ่าาาาา
เดินทางมาเรื่อย ๆ ก็มาถึงจุดไฮไลท์ของถนนเส้นนี้ “ถนนลอยฟ้า 1256 ปัว – บ่อเกลือ” ถนนลอยฟ้าอีกฝั่งที่มีความสวยงามไม่แพ้กับเส้น 1081
สองข้างทางรายล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว สามารถจอดรถมาเดินชมความสวยงาม ถ่ายรูปคู่กับธรรมชาติและสายหมอกได้อย่างเพลิน ๆ
เพราะเรื่องไม่คาดคิดมักเกิดขึ้นได้ระหว่างทาง สายหมอกที่ปกคลุม พาดผ่านภูเขาและธรรมชาติสีเขียว ขับรถผ่านมาจากจุดถนนถอยฟ้า มายืนสูดอากาศบริสุทธิ์ เย็นสบาย ชื่นจายยยย
เดินทางต่อมาถึงร้าน “กาแฟบ้านไทลื้อ” ร้านกาแฟชื่อดัง บรรยากาศดีของอำเภอปัว
นั่งชมบรรยากาศทุ่งนา ทิวเขา และสายหมอก เพลิน ๆ
ภายในร้าน “กาแฟบ้านไทลื้อ” มีสะพานไม้ให้ได้เดินชมบรรยากาศภายในร้าน ผ้าทอที่ขึ้นชื่อของจังหวัด
เดินชมทุ่งนา ถ่ายรูปคู่ทุ่งนา มันช่างฟินนนนนซะเหลือเกินน
กินกาแฟ ถ่ายรูป ชมบรรยากาศทุ่งนาสีเขียว ๆ แล้วมากินมื้อบ่าย ๆ กันที่ “ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำโฮมสเตย์” ร้านอาหารฟาร์มสเตย์ ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นสุดผ่อนคลาย กับหลากหลายเมนูเห็ดแสนอร่อย
มาแล้วววว เมนูของทางร้าน จัดมาแบบเต็มโต๊ะ
เมนูเด็ดประจำร้าน “พิซซ่าเห็ด” ถ้าไม่เด็ดจริงไม่สั่ง 2 ที่ ฮ่า ๆ
อิ่มอร่อยกับเมนูเห็ด ๆ ของทางร้าน ก็มานั่งชิลวิว ชิลธรรมชาติ ชมสีเขียว ๆ ให้ชุ่มฉ่ำหัวใจกันต่อ
ตะลอนเที่ยวมาทั้งวัน ก็เดินทางมาถึงที่พักของคืนนี้ “ไร่ต้นรัก” บ้านพักต้นไม้ ภายในออแกนิคฟาร์ม รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ สุดร่มรื่น
เห็นบรรยากาศภายนอกของที่พัก “ไร่ต้นรัก” ที่ร่มรื่นไปด้วยธรรมชาติแล้ว ภายในห้องยิ่งฟินกว้าง ข้างในห้องสวยมากก ชอบเลยย แถมห้องพักก็กว้าง แบ่งออกเป็นสัดส่วน พร้อมมุมพักผ่อน ชิลธรรมชาติ
ตัดภาพมาที่มื้อเช้าของที่พัก … จัดมาให้แบบจัดเต็มมาก ทั้งข้าวต้ม ปาท่องโก๋ ข้าวต้มมัด ผลไม้ ไข่ต้ม ขนมปังปิ้ง นอกจากนี้ยังมีชา กาแฟ ให้ได้สั่งมากินเป็นมื้อเข้าได้อีกด้วย
กินมื้อเช้า กันเสร็จแล้ว ก็มายืนรับฝน แฮ่ … มายืนกางร่ม ชมบรรยากาศยามเช้า ถึงแม้จะเปียกปอน แต่บอกเลยว่า บรรยากาศยามเช้าของหน้าฝน มันฟินนนมากก ร่มรื่น เขียวเต็มไปหมดเลยย
ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศธรรมชาติ เช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก มาต่อกันที่ “Cocoa Valley Resort” รีสอร์ทชื่อดังอีกแห่งของอำเภอปัว ภายในมีร้านกาแฟเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ฟินกับเมนูของหวาน ชา กาแฟ
เพิ่มความหวานด้วยเมนูของหวาน แล้วมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัดชื่อดังของอำเภอปัว ที่ “วัดภูเก็ต”
ไหว้พระเสร็จ มายืนชมทุ่งนาสีเขียว ภูเขา และสายหมอก โบกมือลาอำเภอปัว ก่อนเดินทางเข้าตัวเมืองน่าน
ใช้เวลาเดินทางจากอำเภอปัว ประมาณชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึงที่ “Eco House – Nan Riverfront” รีสอรท์ติดแม่น้ำ ภายในมีร้านกาแฟน่ารัก ๆ ตกแต่งบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น
ทางร้านมีชุด “กิโมโน” ให้ใส่ถ่ายรูปเล่นกับบรรยากาศภายในร้าน ไม่รอช้าสิ เปลี่ยนชุดให้ไว 555
ก่อนเดินทางไปสนามบิน แวะเข้ามากินมื้อกลางวันกันที่ “ข้าวซอยต้นน้ำ” บำรุงพุงด้วยเมนูข้าวซอยแบบสไตล์จังหวัดน่าน
เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปเร็วเสมอ … เดินทางมาถึงที่ “สนามบินน่านนคร” เตรียมตัวโบกมือลาจังหวัดน่าน และธรรมชาติหน้าฝน
จบลงไปแล้วกับทริป 3 วัน 2 คืน ความสุขในหน้าฝนที่ “น่านนคร” ถึงแม้จะเป็นหน้าฝน ช่วง Low Season แต่จังหวัดเล็ก ๆ แห่งนี้ ไม่ทำให้ความสุขของการท่องเที่ยวหายไปพร้อมกับสายลม และสายฝน แต่กลับกลายเป็นความสุขที่ทำให้พบกับธรรมชาติสีเขียว และสายหมอก ท่องเที่ยวสบาย … ถึงแม้จะเปียกปอน แต่รับลองถ้ามาแล้วจะติดใจกับ “น่าน” หน้าฝน