เริ่มต้นซัมเมอร์นี้ จะพาไปชมความสวยงามของทะเลของประเทศเพื่อนบ้าน เดินทางสะดวก แค่จังหวัดระนองเอง จะสวยขนาดไหน ตามแอดมาดูกันเลย
คิดถึงทะเลสวยๆ แน่นอนต้องคิดถึงทะเลแถบภาคใต้ของไทย แต่นอกจากทะเลไทยจะมีความสวยงามแล้ว ทะเลเพื่อนบ้านของเราอย่างพม่า ก็มีน้ำทะเลใส มองเห็นตัวปลา ชมความสวยงามของธรรมชาติใต้ท้องทะเล ไม่ว่าจะเป็นแบบ One Day Trip “4 เกาะหัวใจมรกต” และ เที่ยวชมเกาะเปิดใหม่แบบกริ๊บๆ เลย “เกาะบรูเออร์” จะสวยงาม น่าไปเที่ยวขนาดไหน พร้อมแล้วมาเก็บกระเป๋ากันก่อนเลย ลุยยยยยยย
เริ่มต้นเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มุ่งตรงสู่จังหวัดระนอง กันด้ายยย … การเดินทางจากดอนเมือง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงสนามบินจังหวัดระนองกันแล้วคร๊าบ
เที่ยวครั้งนี้มีแต่โปรแกรมไปดำน้ำ เที่ยวเกาะ ก็ต้องเตรียมตัวชาร์จแบตโทรศัพท์ให้พร้อม เราไม่ลืมที่จะพก Yoobao Power Bank M25 S2 20000mAh-Tiger ติดตัวไปกับทริปนี้ด้วย ชาร์จง่าย แถมอยู่ได้นานอีกด้วย สบายกันละทีนี้ หุหุ แถมนำติดตัวขึ้นเครื่องได้เลยเพราะขนาดไม่เกิน 20000mAh
Power Bank ของ Yoobao ทุกรุ่น สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้เลยเพราะขนาดไม่เกิน 20000mAh และหากใครกำลังหาซื้อต้องซื้อจากตัวแทนจำหน่าย Freshgadget ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้องเพียงเจ้าเดียวในประเทศไทยเท่านั้น
เมื่อพร้อมแล้ว มาเริ่มเที่ยวกันเลยดีกว่า … วันแรกเราซื้อโปรแกรม One Day Trip กับทริป “เกาะหัวใจมรกต” ของ Grande Travel เอาไว้ ในโปรแกรมก็จะมีพาไปเที่ยวเกาะต่างๆ เช่น เกาะตาฟุ๊ก เกาะฮอร์สชู เกาะหัวใจมรกต และเกาะย่านเชือก ซึ่งแต่ละเกาะก็จะมีความสวยงามแตกต่างกันออกไป ค่าใช้จ่ายในการเที่ยวครั้งนี้อยู่ที่คนละประมาณ 3,900 บาท เพียงเท่านั้น รวมอาหารด้วยนะ เราว่าราคาโอเคอยู่นะ ได้เที่ยวตั้ง 4 เกาะแน่ะ
ก่อนอื่นเลย เราต้องเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้
1. ต้องนำบัตรตัวจริงมาด้วย ณ วันเดินทาง
2. ต้องเป็นบัตรที่ยังไม่หมดอายุ ณ วันเดินทาง
3. ต้องเป็นบัตรแบบมีชิปหลังบัตร
4. ถ้ามีบัตรปชช. 2 ใบ ให้ใช้ใบล่าสุดในการเดินทาง
5. ใบขับขี่ บัตรข้าราชการ บัตรนักเรียน *ไม่สามารถใช้แทนได้นะ
เพื่อยื่นให้กับทาง Grande Travel ไปทำเรื่องกับทางตม. เพื่อที่จะข้ามไปยังฝั่งประเทศพม่ากันได้
เมื่อทำเอกสารการข้ามแดนกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาลงเรือ ออกทะเลกันได้คร๊าบบ
จุดแรกหลังจากออกมาจากท่าเรือ ประมาณ 10 นาที จะมีการแวะที่ “เกาะสอง” หรือ “เกาะสน” ของประเทศพม่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่จะไปติดต่อทำเอกสาร + รับไกด์พม่า เราก็รอในเรือกัน แต่ละจุดรอไม่นานนะ
ออกจากเกาะสอง นั่งเรือชมทะเล รับลมเย็นกันเพลินๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง 10 นาที ก็จะถึงที่เที่ยวแรกในทริป นั่นก็คือ “เกาะตาฟุ๊ก” เป็นเกาะที่มีหาดทรายที่ขาวละเอียด เดินบนทรายได้แบบว่าไม่มีเจ็บเลย แถมรู้สึกนุ่มเท้าอีกด้วย เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ชอบและหลงรักเลย คือสีน้ำทะเลสีเขียวมรกตใสมากๆ ใสแบบว่ามองเห็นด้านล่างกันเลย มีหน้าหาดทอดยาว เดินกันเพลินๆ เดินไป ถ่ายรูปเล่นไป ความพิเศษของที่นี่ยังมีเต้นท์ติดแอร์ให้พักผ่อนแบบริมทะเล ส่วนตัวสุดๆ กันอีกด้วย
ราคา One Day Trip + นอนบนเกาะ ก็จะอยู่ที่ประมาณคนละ 7,900 บาท นะคร๊าบบ
รื้อกระเป๋ากันน้ำกันก่อน ว่าเตรียมของมาครบไหม
เดินเพลินๆ กันที่ “เกาะตาฟุ๊ก” กันเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางไปต่อที่เกาะที่ 2 “เกาะเกือกม้า หรือ เกาะฮอร์สชู” ใช้เวลาเดินทางจากเกาะแรกมาถึงเกาะที่ 2 ก็ประมาณ 20-30 นาที ที่นี่จะเป็นจุดสำหรับพักกินข้าวอาหารกลางวัน โดยทางทัวร์จะจัดเตรียมข้าวกล่องไว้ให้สำหรับคนที่มาเที่ยวกัน
“เกาะฮอร์สชู” ส่วนตัวชอบเกาะนี้นะ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่โค้งเป็นลักษณะของเกือกม้า และยังถือได้ว่าเป็นเกาะที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีหาดทรายที่สวยไม่แพ้กับเกาะที่แล้วเลย แถมหน้าหาดยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย เช่น พายเรือคายัค หรือ ดำน้ำดูปะการังหน้าหาด ถ้าใครอยากจะมาพักบนเกาะนี้ ก็มีบ้านพักเป็นบังกะโลไว้ให้พักผ่อนกันด้วยนะ
ราคา One Day Trip + นอนบนเกาะ ก็จะอยู่ที่ประมาณคนละ 5,500 บาท นะคร๊าบบ
หลังจากพักกินข้าวกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาไปยังเกาะที่ 3 “เกาะหัวใจมรกต” ถือว่าเป็นเกาะไฮไลท์ของทริปนี้ ถ้ามองจากมุมสูงก็จะเห็นรูปหัวใจอยู่กลางเกาะเลย ที่นี่จะไม่มีชายหาด แต่จะมีฝูงปลาเล็ก ปลาน้อยใหญ่ มาคอยต้อนรับ สำหรับคนที่ชอบการดำน้ำ มีปะการังสวยๆ รอให้ได้มาชมกัน
แป๊บเดียว ก็เดินทางมาถึงเกาะสุดท้ายของทริป “เกาะย่านเชือก หรือ เกาะเซ็ดเดอจี หรือ South Bay” เกาะนี้ถือว่าเป็นจุดไฮไลท์ของคนที่ชอบการดำน้ำ มีปะการังที่อุดมสมบูรณ์มาก สีสันสวยงาม หลากหลายชนิด ถึงแม้ว่าเกาะนี้จะมีชายหาด แต่ก็ไม่สามารถเดินไปได้นะ ใครที่อยากดูความสวยงามของปะการัง บอกเลยว่าห้ามพลาดเกาะนี้กันคร๊าบ
หลังจากเที่ยวกันทั้ง 4 เกาะกันหมดแล้ว ก็เป็นอันว่าจบโปรแกรม One Day Trip “เกาะหัวใจมรกต” กันแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับขึ้นฝั่ง สำหรับเราบอกเลยว่าคุ้มนะกับทริปนี้ ได้เห็นหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสีเขียวมรกตแบบใสจนเห็นตัวปลา ฮ่าๆ
ทุกครั้งที่เดินทางกลับจากทริป ก็จะต้องแวะกันที่ “เกาะสอง” เพื่อให้เจ้าหน้าที่ยื่นเอกสารและส่งไกด์พม่ากัน ใช้เวลาไม่นาน รอแป๊บเดียว เหมือนกับตอนขาออกไปครับ
หลังจากกลับมาจากทริป ก็เข้าพักที่ “ภูธารารีสอร์ท” ไม่ไกลจากท่าเรือของ Grande Travel แค่ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง เป็นอันจบการเที่ยวทะเลพม่าของวันแรก
อรุณสวัสดิ์วันที่ 2 มาลุยกันต่อ … วันนี้มีโปรแกรมไปค้างคืนบน “เกาะบรูเออร์” เกาะที่เพิ่งเปิดมาใหม่ๆ ของประเทศพม่า เราได้ซื้อโปรแกรมทัวร์ของ Seastar Ranong เอาไว้ ซึ่งจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ
- One Day Trip เช้าไป เย็นกลับ ราคาเริ่มต้นที่ ผู้ใหญ่ 3,900 บาท เด็ก 2,900 บาท
- Over Night นอนเต็นท์บนเกาะ 1 คืน ผู้ใหญ่เริ่มต้นที่ 6,900 บาท เด็ก 5,900 บาท
เราเลือกแบบ Over Night ไปนอนพักผ่อนชิลล์ๆ กันบนเกาะซะหน่อยดีกว่า
การเดินทางก็เหมือนเดิมครับ พอออกจากทางเรือ Seastar Ranong ปุ๊บ ก็ต้องมาแวะที่ “เกาะสอง” กันก่อนทุกครั้งเพื่อการเดินทางไปยังประเทศพม่า ขอข้ามมาเที่ยวกันเลยละกัน หุหุ
โปรแกรมเที่ยวของ Seastar Ranong ก็จะมีโปรแกรมดำน้ำที่ “เกาะย่านเชือก – เกาะดอกไม้ – บรูเออร์ใต้” และไปนอนพักบนเกาะบรูเออร์
เริ่มต้นที่ “เกาะย่านเชือก” จุดดำน้ำที่แรกของทริป มีความแตกต่างจากวันแรกที่มา น้ำใสขึ้น เห็นปะการังสวยเลย
ถึงแล้วคร๊าบบบบ “เกาะบรูเออร์” มีความโดดเด่นที่ไม่เหมือนเกาะอื่นๆ ตรงที่ เกาะนี้มีชายหาดที่ยาวขนานคู่กัน สามารถเดินข้ามจากอีกหาดไปอีกหาดได้เพียงไม่กี่เมตร จนได้ชื่อเรียกว่า “Twins Beach” หรือ “หาดคู่” บนเกาะมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติและมีบรรยากาศที่ร่มรื่นแบบสุดๆ แถมที่นี่ยังมีบริการอาหารทั้ง กลางวัน เย็น และ มื้อเช้า ไม่ต้องกังวลว่าจะมาติดเกาะแบบไม่มีของกินกัน ฮ่าๆ
มาถึงปุ๊บก็จะมีอาหารมื้อเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์ มีให้ประมาณ 3 เมนู ให้ได้เพิ่มพลังกันหลังจากดำน้ำกันมา
กินข้าวเพิ่มพลังกันเสร็จแล้ว ไปเดินสำรวจชายหาดซะหน่อย บอกเลยว่า หาดทรายขาว เนียนละเอียด นุ่มมากกกก
มาติดเกาะทั้งที ไม่ลืมที่จะพก Yoobao Power Bank M25 S2 20000mAh-Tiger ติดตัวมาด้วย ลืมบอกไปบนเกาะนี้มีไฟฟ้านะครับ แต่จะเปิดให้ใช้เป็นเวลา
เดินเพลินๆ กันเสร็จ ก็ขนของ อุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ มาที่พักกัน ที่พักจะเป็นเต็นท์ติดพัดลม มีปลั๊กไฟอยู่ภายในเต็นท์ มีให้บริการมากกว่า 20 เต็นท์ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาพักผ่อนกัน
ขอนั่งพักรับบรรยากาศด้านหน้าเต็นท์กันซะหน่อย
เก็บของเข้าที่พักกันเสร็จแล้ว ก็มาเดินเล่น เดินชม ชายหาดอีกฝั่ง ชายหาดด้านนี้จะมีหาดทรายสีขาว แต่ไม่เนียนละเอียดเท่ากับฝั่งที่ลงเรือมา โดยรวมแล้วสวยทั้ง 2 ฝั่งเลยครับ แถมยังมีมุมถ่ายรูปมากมาย ให้เลือกถ่ายคู่กับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ภายในเกาะกัน
มาดูมุมนั่งชิลล์ๆ ภายในเกาะกัน มีทั้งมุมเปล นอนชิลล์ๆ รับลมทะเล ให้ผ่อนคลายกัน และยังมีมุมชิงช้า มานั่งมองทะเลเพลินๆ หรือไว้มาแอ็คท่าถ่ายรูปกันก็ได้นะครับ
หลังจากเพลินกับการเดินเล่น ผ่อนคลาย นั่งชิลล์ ตามมุมพักผ่อน ก็ถึงเวลาไปดำน้ำที่ “เกาะบรูเออร์ใต้” กัน เค้าบอกกันว่าที่นี่ก็มีปะการังที่สวยงาม ไม่แพ้ที่อื่นกันเลยนะคร๊าบ มาดูกันดีกว่า ว่าจะสวยงามขนาดไหน ทางทัวร์ให้เวลาในการดำน้ำ 1 ชั่วโมง 30 นาที ดำกันเพลินละทีนี้ ฮ่าๆ
ดำน้ำกันจนตัวเปื่อยเสร็จแล้ว ขอทิ้งตัวลงนอนบนเรือคายัคกันซะหน่อย รู้สึกเพลียๆ หลังจากไปดำน้ำที่ “เกาะบรูเออร์ใต้” กันมา จบไปอีกหนึ่งวันของเกาะบรูเออร์ ขอไปนอนพักผ่อนกันก่อนนะคร๊าบ
เวลาสนุก เวลาพักผ่อน มักจะผ่านไปเร็วเสมอ เก็บกระเป๋าเตรียมเดินทางกลับขึ้นฝั่ง โปรแกรมขากลับจากเกาะบรูเออร์ จะมีพาไปดำน้ำที่เกาะดอกไม้กันต่อ … แต่เกาะนี้เราขอผ่าน นั่งบนเรือชิลล์ๆ ละกัน
โบกมือลา “เกาะบรูเออร์” ครั้งหน้าเราจะกลับมาอีก ก่อนจากกันเอารูปมุมสูงมาให้ดูกัน เห็นความเป็น “Twin Beach” กันไหม
การเดินทางกลับก็จะเหมือนกับวันแรก ก็จะต้องมีการแวะที่ “เกาะสอง” เพื่อยื่นเอกสารการเดินทางเพื่อกลับมาที่ประเทศไทยกัน
เมื่อมาถึงที่ท่าเรือของ “Seastar Ranong” ก็จะมีอาหารว่างไว้คอยบริการ กินเสร็จปุ๊บ ก็อาบน้ำ แต่งตัว เตรียมกลับกรุงเทพกัน … จากท่าเรือมาถึงสนามบินระนอง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงนิดๆ ก็มาเช็คอิน โหลดกระเป๋า รอขึ้นเครื่องกันได้
เป็นอันจบทริป “ตะลุยระนอง เที่ยวทะเลพม่า หาดทรายสวย น้ำใสแจ๋ว” กันไปแล้ว บอกเลยว่าคุ้มมาก ได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น ได้ชมความสวยงามของธรรมชาติทั้งใต้น้ำทะเลและบนบก เดินเล่นบนหาดสีขาวเนียนละเอียด นุ่มเท้า ชมน้ำทะเลสีเขียวใสมรกตมองเห็นตัวปลา ที่สำคัญถ้าแบตโทรศัพท์หมดก่อน ก็คงจะไม่มีรูปสวยๆ ในโทรศัพท์กัน ดีนะที่พก Yoobao Power Bank M25 S2 20000mAh-Tiger ที่มีความอึด ทน นาน อยู่ได้นานเป็นวันๆ ด้วยพลังงานกว่า 20000 mAh