ลมหนาวยังคงอยู่!! ได้เวลาเก็บกระเป๋าจัดทริปเล็กๆ 3 วัน 2 คืน ทัวร์เหนือรับลมเย็นๆ กันที่ “อำเภอปาย” จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไปสูดอากาศเย็นๆ เข้าปอด ให้ร่างกายได้ฟินกัน
การเดินทาง
เริ่มออกเดินทางกันสนามบินดอนเมืองในช่วงเช้า ถึงสนามบินเชียงใหม่ประมาณ 10 โมงกว่าๆ ก็ได้เวลาเก็บกระเป๋าขึ้นรถมุ่งหน้าสู่อำเปอปาย กันด้ายยย … เราเส้นทางการเดินทางด้วยเส้น “แม่มาลัย-ปาย” ขับชมวิวไปเรื่อยๆ เส้นนี้ถนนสวย ขับไม่ยาก แถมยังมีที่ให้หยุดแวะพักได้ด้วย
พอขับมาเรื่อยๆ ก็มาถึงจุดแวะพัก เช็คอินกันหน่อยกันที่ “สะพานประวัติศาสตร์ปาย” สะพานเก่าแก่ของที่นี่ ถ้าไม่ได้แวะที่นี่ เดี๋ยวโดนว่ามาไม่ถึงปาย อิอิ … ลืมบอกไป เดินทางถึงสะพานก็เกือบ 4 โมงเย็นแล้ว ขับเรื่อยๆ ไปหน่อย ฮ่าๆ ไม่คุ้นทาง
ได้เวลาเดินเล่นถ่ายรูปสะพานประวัติศาสตร์กัน เดินชมวิวแม่น้ำปาย ชมสะพานเก่าแก่ … อย่ามัวเดินมองวิวกันเพลินละ ระวังเดินตรงร่องไม้สะพานกันด้วยน้า แหะๆ
หลังจากเดินชมสะพานกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเก็บของเข้าที่พักกัน … เราเลือกมาพักกันที่ “ริมปาย คอทเทจ” รีสอร์ทติดแม่น้ำปาย วิวดี แถมใกล้ถนนคนเดินอีกด้วย
จัดแจงเก็บของ ล้างหน้า ล้างตา เสร็จแล้วก็ออกไปเดินเล่นถนนคนเดินกันได้ ตลอดข้างทางหน้าที่พักก็จะมีร้านอาหารไว้ให้ได้เลือกกินกัน
เดินจากที่พักมาไม่ไกลมาก ก็ถึงแล้ว “ถนนคนเดินปาย” ถนนคนเดินสุดฮิต ที่ใครๆ ก็มาเดินชิลล์ๆ กันในหน้าหนาว มีของขายมากมาย ทั้งเสื้อยืดปาย ชุดชาวเขา ผลไม้ ของกินอีกมากมาย
หลังจากเดินถนนคนเดินเพลินๆ ก็ได้ซื้อของกินเข้ามากินต่อกันที่พัก ลากันด้วยของกินในวันแรกของทริปกันนะคร๊าบ
ลืมบอกไป เราได้ซื้อ One Day Trip ในอำเภอปาย กันไว้ คนละ 700 บาท ไม่รวมอาหารนะครับ จะพาไปเที่ยวไหนบ้าง มาดูกันเลย
ออกเดินทาง One Day Trip กันเลย … เวลาตี 4 รถตู้ก็ได้เดินทางมารับกันที่พักกันเลยทีเดียว สบายจุง ที่แรกที่จะไปกันคือ “บ้านจ่าโบ่” อำเภอปางมะผ้า เพื่อไปจุดวิวทะเลหมอกสุดสวยกันในตอนเช้า
ตอนเช้ามันก็จะฟินๆ หน่อยนะ อิอิ เริ่มกินมื้อเช้ากันที่ “ก๋วยเตี๋ยวห้อยขาบ้านจ่าโบ่” อิ่มกับก๋วยเตี๋ยวหลักสิบ พร้อมชมวิวหลักล้าน กินก๋วยเตี๋ยวกันเสร็จแล้ว ก็สั่งกาแฟ นั่งชิลๆ ดูวิว กันต่ออีก นานๆ จะได้เห็นวิวสวยๆ แบบนี้ที ขอเก็บภาพกันให้ชุ่มใจกันหน่อยยย
ข้างๆ ร้านก๋วยเตี๋ยว ก็จะมี “จุดชมวิวบ้านจ่าโบ่” ให้ได้มายืนชมความสวยของหมอกในตอนเช้าและไปยืนถ่ายรูปเช็คอินไว้อวดเพื่อนๆ กัน
วิวด้านหน้าก็จะเป็นแบบนี้อะ สวยงามมาก (ของจริงสวยกว่าในภาพหลายเท่า) นะ ขอบอกเลยยยยยยยย
หลังจากฟินอินกับหมอกในตอนเช้ากันเสร็จแล้ว ก็ไปต่อกันที่ “สะพานซูตองเป้” สะพานไม้ที่กำลังเป็นที่นิยมของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่จะมากราบไหว้ เดินชม ธรรมชาติล้อมๆ กัน ซึ่งสะพานแห่งนี้มีความเชื่อกันว่าหากมายืนอธิษฐานที่กลางสะพานไม้ พรที่ขอจะประสบความสำเร็จและสมหวังกัน
บรรยากาศของสะพานซูตองเป้ หรือ สะพานไม้แห่งความสำเร็จ ก็จะมีวิวทุ่งนาเรียงรายอยู่ข้างๆ สะพานไม้ ถ้ามาตอนที่กำลังเป็นทุ่งข้าวสีเหลืองทอง คงจะสวยน่าดูเลยแหละ
หลังจากเก็บบรรยากาศของสะพานด้านล่างกันเสร็จแล้ว ก็มาเดินชมวิวสะพานจากทางด้านบนกันต่อ สามารถมองเห็นวิวกว้างๆ ได้หมดเลย รู้สึกเหมือนมาเดินชมธรรมชาติท่ามกลางอากาศเย็นๆ ฟินๆ กันไป
อธิษฐานขอพรกับสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยกันเสร็จแล้ว ก็ออกเดินทางมาสัมผัสความโรแมนติกกันต่อเลยที่ “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” ไปชมวิวสวยงามภายในอ่างเก็บน้ำ แต่เสียดายที่มาตอนหมอกหมดไปแล้ว
มาถึงที่นี่ทั้งทีก็ต้องล่องแพไม้ ชมวิวภายในอ่างเก็บน้ำกันหน่อย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงกัน ค่าบริการก็อยู่ที่ แพ ละ 150 บาท ขึ้นได้ 2 คน
ล่องเพลินๆ ชมวิวต้นสน ลานกางเต็นท์ของนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนกัน ฟินไปกับสายน้ำและความเงียบสงบแบบสุดๆ รู้สึกผ่อนคลายแบบบอกไม่ถูกกันเลยทีเดียว … แต่เสียดายที่อดเจอไฮไลท์ของที่นี่หงส์พระราชทาน T_T ไว้ครั้งหน้าจะกลับมาใหม่น้าา
ไปสัมผัสความโรแมนติกของสายน้ำกันแล้ว ก็เดินทางไปต่อกันที่ “บ้านรักไทย” หมู่บ้านชาวจีนยูนนาน ที่ยังคงอาศัยกันอยู่มาอย่างยาวนาน
มาถึงปุ๊บท้องก็เริ่มร้อง เลยต้องแวะหาของเด็ดของที่นี่กินกันหน่อยละกันที่ “ลีไวน์รักไทย” ร้านอาหารชาวจีนยูนนานชื่อดังของบ้านรักไทย กินเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ “ขาหมูหมั่นโถว” พร้อมจิบชาร้อนๆ ชมวิวบรรยากาศของหมู่บ้าน
หลังจากอิ่มท้องกันแล้ว ก็ไปเดินชมในส่วนของที่พักของ “ลีไวน์รักไทย” กันต่อ ที่พักของที่นี่จะเป็นบ้านดิน โดยรอบบ้านพักจะมีต้นชาสีเขียวปลูกเป็นแบบขั้นบันได ที่แห่งนี้ยังมีชุดเก็บชาให้ได้ใส่ถ่ายรูปกันอีกด้วยนะ ใครที่ชื่นชอบการถ่ายรูปบอกเลยว่าอย่าพลาดที่จะขึ้นมาชมวิวกันที่ลีไวน์รักไทย เมื่อมาถึงที่บ้านรักไทยกันแล้ว
มาถึงสถานที่สถานที่ท่องเที่ยวสุดท้ายของทริป One Day Trip นั่นก็คือ “หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวห้วยเสือเฒ่า” ที่นี่ถือว่าเป็นหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวที่ใกล้กับเมืองมากที่สุด และยังสามารถขับรถมาถึงที่นี่กันได้เลยอีกด้วย สามารถเดินชมวิถีการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนในหมู่บ้าน ได้เห็นรอยยิ้มของเด็กน้อยชาวกะเหรี่ยงสุดน่ารักกันอีกด้วย
ภายในหมู่บ้านยังมีสินค้าให้ได้เลือกซื้อเป็นของฝาก ของที่ระลึกทุกชิ้นจะเป็นงานฝีมือที่ทำขึ้นมาจากทางหมู่บ้านโดยทั้งสิ้น ของแต่ละชิ้นสวยๆ งามๆ กันทั้งนั้น และบอกเลยว่าสินค้าแต่ชิ้นกว่าจะได้ออกมากันต้องมีความชำนาญและเชี่ยวชาญกันเลยทีเดียว ขอจบทริปการท่องเที่ยวในวันที่ 2 กับหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว นะครับ เที่ยวมาทั้งวันถึงที่พักก็สลบกันเลยคร๊าบ ฮ่าๆ
และแล้วก็ต้องเตรียมโบกมือลาอำเภอปาย ก่อนจะกลับกันขอแวะเที่ยวที่ “หมู่บ้านสันติชล” หมู่บ้านวัฒนธรรมของชาวจีนยูนนาน
เดินชมบ้านดิน ไฮไลท์ของที่นี่ก็จะมีชุดของชาวจีนแบบในหนังให้ได้เลือกใส่ไว้ถ่ายรูปเช็คอินกันด้วยนะ ค่าเช่าชุดไม่แพงเลย ชุดละ 100 บาท กันเอง ใครที่ชอบการถ่ายรูปต้องมาเช่าไว้ถ่ายรูปเล่นกันนะ มีทั้งชุดนางเอก ชุดตัวโกง และอีกหลายๆ ชุดเลย สวยๆ ทั้งนั้น
หลังจากถ่ายรูปกันที่หมู่บ้านสันติชลกันเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อขึ้นเครื่องกลับกรุงเทพกัน
“อำเภอปาย” จังหวัดแม่ฮ่องสอน ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย นี่เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น (เพราะวันลาหมดแล้ว ฮ่าๆ) หากใครกำลังมีแพลนมาเที่ยวปายกันในช่วงหน้าหนาว หวังว่ารีวิวนี้อาจจะช่วยเป็นไกด์ในการเที่ยวของคุณกันได้นะคร๊าบบ
