ใต้สุดแดนสยาม คือเมืองงามนาม “เบตง”

ใต้สุดแดนสยาม คือเมืองงามนาม "เบตง"

และแล้วก็ได้โอกาสไปเยี่ยมไปเยือนเมืองงามนาม “เบตง” สักที หลังจากว่าจะ ว่าจะอยู่หลายรอบ และเช่นเคย เวลาได้ไปไหนสักครั้งแล้วมักจะมีครั้งที่สองที่สามตามมาติดๆ

เรื่องราวเกิดขึ้นจากทริปอุบลราชธานีศรีวนาไลเมื่อเดือนกุมภา คุยกันบนรถทัวร์ไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็พูดไปว่าอยากไปเบตง เพื่อนอีกคนก็พูดขึ้นมาว่าอยากไปเหมือนกัน เอาไว้ถ้าว่างๆ ไปด้วยกันมั้ยล่ะ เราก็ตอบตกลงไป จึงเกิดเป็นทริปสำรวจเส้นทางทริปแรกในเดือนมีนาคม และไปซ่อมอีกครั้งเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม

 

การเล่าเรื่องครั้งนี้เลยจะเล่าเหตุการณ์ซ้อนกันไปจากสองทริปนะคะ พยายามจะเรียบเรียงไม่ให้คนอ่านงง ไม่รู้จะได้มากน้อยแค่ไหนเพราะคนเขียนเองก็เริ่มจะงงๆ แล้ว แหะแหะ

 

กินยาแก้เมารถ แปะกอเอี๊ยะกันเรียบร้อยแล้วก็เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ มาอีกแล้วจ้า สนามบินหาดใหญ่ ครั้งที่สามในรอบสามเดือน

betong (2)

จากสนามบินหาดใหญ่ การเดินทางต่อไปที่เบตงคือการเดินทางโดยรถตู้โดยสาร ในครั้งแรกนั้นอิชั้นลากกระเป๋าทักษิณาวัตรเมืองหาดใหญ่เพื่อหาคิวรถตู้ “โอเคเบตง” ไปเรียบร้อย

 

แต่ก็มาได้ความว่าคิวนั้นเค้าเปลี่ยนเป็นวิ่งรถแท็กซี่ป้ายดำเข้าทางมาเลเซียไปแล้ว ไปคิวอื่นก็เต็มเพราะเราไม่ได้โทรไปจองก่อน ไม่คิดนี่นาว่าจะมีคนเดินทางไปเมืองนี้กันมากมาย (ซึ่งจริงๆ แล้วมีคนเดินทางไปมากจริงๆ แล้วช่วงที่เราไปเป็นช่วงเชงเม้งด้วย)

 

แนะนำว่าควรโทรไปจองนะคะ โดยเฉพาะคนที่เมารถง่าย จะได้เลือกที่นั่งข้างหน้าได้ และหากโทรไปจองแล้วให้เค้าไปรับที่สนามบินก็ได้ คิดค่าโดยสารเพิ่มจากเดิม 150 บาทค่ะ

 

ครั้งแรกคิดว่าถ้าหารถไปไม่ได้จริงๆ ก็จะนอนหาดใหญ่สักคืน พรุ่งนี้ค่อยไปกันก็ได้ แต่พอเรานั่งรถไปที่สถานีขนส่งก็ได้พบกับรถตู้วินนี้ค่ะ มีที่ว่างข้างหน้าพอดี เลยจองที่นั่งแล้วให้เบอร์โทรศัพท์ที่คิวรถตู้ไว้ ถ้ารถเต็มแล้วเค้าก็จะออกเลยค่ะ ส่วนพวกเราไปหาข้าวรองทองกันแถวๆ สถานีนั่นแหละ

betong (3)

ส่วนในครั้งที่สองนั้นเราเช่ารถตู้ให้พาเที่ยวตลอดทริปไว้เลยไม่มีปัญหา ครั้งที่สองเราฝากท้องกันที่ร้านคูเต่า อาหารรสจัดจ้านเด็ดขาด คนกินกินไปปาดเหงื่อไป

 

แต่ก็ไม่มีใครวางช้อนสักคน นอกจากน้ำพริกบูดูแสนอร่อยที่มีอยู่บนโต๊ะทุกโต๊ะแล้ว สิ่งที่เราสั่งมาเพิ่มก็คือไข่ครอบ ผักเหลียงผัดไข่ ซี่โครงหมูพริกไทยดำ และต้มแซ่บหมูคะ อร่อยทุกอย่างเลย

betong (4)

เส้นทางที่รถตู้โดยสารวิ่งนั้นจะผ่านทางเทพา สะบ้าย้อย ส่วนครั้งที่สองนั้นคนขับวิ่งเส้นจะนะ เข้าตัวเมืองยะลาเพื่อแวะส่งภรรยา แต่โดยรวมแล้วจากหาดใหญ่ถึงเบตงใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมง รถตู้โดยสารจะแวะสองจุดเพื่อให้ได้ยืดเส้นยืดสายและแวะเข้าห้องน้ำ

 

จุดแรกคือปั๊ม ปตท. ก่อนเข้าเทพา ส่วนจุดที่สองคือบ้านตาพะเยา เขตอำเภอธารโต จังหวัดยะลา ตุนน้ำตุนขนมไว้เผื่อหิวบนรถก็ดีค่ะ เพียงแต่อย่าทานมากไปเพราะเดี๋ยวเจอรถเหวี่ยงมากๆ จะอยากเอาอาหารออกมากกว่าเอาเข้าค่ะ

betong (8)

บนรถตู้โดยสาร เราได้รู้จักกับพี่ซาน พี่ชายใจดีที่คอยอธิบายเรื่องต่างๆ ให้เราฟังเมื่อรู้ว่าพวกเราจะไปเที่ยวที่เบตงกัน ทั้งยังให้คำแนะนำการไปเที่ยวที่ต่างๆ ให้เราได้ทราบด้วย

 

อย่างเช่นพอถึงสะพานข้ามทะเลสาบฮาลา บาลา พี่เค้าก็ชี้ให้พวกเราดูและบอกว่าสามารถนั่งเรือชมทะเลสาบได้ โดยลงเรือที่บ้านตาพะเยา ซึ่งเป็นจุดจอดรถจุดที่สองนี่แหละค่ะ พวกเราก็เล็งเอาไว้ ได้เป้าหมายเที่ยวที่นึงแล้ว

 

ขณะที่รถวิ่งก็จะผ่านด่านเป็นระยะๆ รู้สึกอบอุ่นใจที่อยู่ในสายตาชายในเครื่องแบบตลอดเวลา 5555+

betong (9)betong (16)

จากสะพานข้ามทะเลสาบฮาลา บาลาไปยังเบตง ทางคดเคี้ยวเป็นงูลักษณะนี้เกือบตลอดทาง ผู้ที่เมารถง่ายควรกินยาและหลับไปเลยค่ะ

betong (10)

ใกล้เข้ามาอีกนิด ชิดเบตงเข้ามาอีกหน่อย

betong (11)

หลังจากหลับจนเมื่อย เมื่อยจนหลับ เราก็มาถึงกันแล้วจ้า

betong (12)betong (13)

พี่ซานบอกว่าเมืองเบตงเล็กนิดเดียว เดินวนไปวนมาแถวหอนาฬิกานี่แหละ ไม่หลงหรอก

betong (14)

เราพักกันที่ Modern Thai HOTEL ค่ะ ซึ่งเป็นจุดของคิวรถตู้ที่เรานั่งมานั่นแหละ ก่อนที่จะส่งเรา พี่อรุณคนขับรถตัก็พาเราวนดูเมืองคร่าวๆ ก่อน เช่น ตลาดสด ร้านต้าเหยิน ร้านไทซีฮี้ ค่ะ คนที่นี่ใจดีมากๆ

betong (15)

ถ้าพอเดินไหวแนะนำให้พักชั้น 6 ค่ะ (ที่นี่มีลิฟต์แค่ชั้น 5 ต้องเดินขึ้นบันไดไปหนึ่งชั้น) เพราะจะได้เห็นวิวเมืองและหอนาฬิกาสวยๆ

betong (17)

ห้องพักที่นี่สะอาด พนักงานน่ารักโดยเฉพาะแม่บ้าน แต่อาจจะมีกลิ่นบุหรี่มากหน่อยเพราะแขกส่วนมากมาจากมาเลย์ซึ่งสูบบุหรี่เป็นเตาเผาเลย เราโชคดีที่รอบแรกห้องไม่มีกลิ่นบุหรี่เลย แต่รอบสองโดนเต็มๆ

betong (18) betong (19) betong (20) betong (21)

วิวจากชั้นบนค่ะ

betong (22)


ด้านล่างโรงแรมเป็นร้านกาแฟ ถ้าสั่งเมล็ดกาแฟของสตาร์บัคเพิ่มอีก 10 บาท พี่ๆ น้องๆ ที่ร้านนี้ก็น่ารัก จำกันได้ด้วย ตอนไปครั้งที่สองพี่เค้ายังทักว่า เพิ่งมาเมื่อเดือนสองเดือนก่อนนี้ไม่ใช่เหรอ รู้สึกดี๊ดี

betong (24)

หน้าโรงแรมตอนเย็นๆ มีของกินมาขายเยอะแยะค่ะ น่ากินๆ ทั้งน้านนนน

betong (25)

ฝั่งตรงข้ามมีร้านขายก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกตอนกลางวัน กลางคืนแปลงร่างเป็นชายสี่หมี่เกี๊ยว ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไก่ฉีกรสชาติจัดจ้าน ไม่ต้องปรุงเพิ่ม เส้นเล็กเหนียวนุ่ม น้ำซุปร้อนแบบกินจนหมดชามแล้วก็ยังไม่หายร้อน ร้านข้างๆ เป็นข้าวหมูแดง บะหมี่น่ากินมาก ไปสองรอบกินไม่ทันสักรอบทั้งๆ ที่บะหมี่กองพูนตู้

ในตัวเมืองจะมีรถสองแถวเล็กแบบนี้วิ่งวนคอยรับผู้โดยสาร แต่เราเดินวนกันเองเป็นส่วนมาก

betong (29)

รถเบนซ์สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองเบตง เนื่องจากคิวรถจากหาดใหญ่มาเบตงสมัยก่อนจะเป็นเบนซ์แท็กซี่ เนื่องจากทนทานและช่วงล่างของรถเบนซ์เหมาะกับเส้นทางลดเลี้ยวก่อนเข้าเมืองเบตง

betong (30)

ทะเบียนรถเบตง เกิดขึ้นเนื่องจากการเดินทางจากอำเภอเบตงไปขอทะเบียนรถในตัวเมืองยะลาสมัยก่อนยากลำบากมาก จึงมีการจัดให้เจ้าหน้าที่มารับจดทะเบียนรถที่อำเภอเบตงเมื่อ พ.ศ.๒๔๖๙

betong (31)

ตอนนี้ขอพาเที่ยวเมือง “เบตง” เท่านี้ก่อนเดี่ยวจะมาต่อให้อีกตอน2 สำหรับใครรอไม่ไหวก็สามารถเข้าไปอ่านก่อนได้ที่  pantip.com/topic/33744310 นะครับ!!

ขอบคุณบทความจากคุณ : lekatuayao  สำหรับวันนี้สวัสดีครับ